ดร.นพดล ปิยะตระภูมิ ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เดินสายมอบป้ายมืออาชีพ ให้กับผู้ประกอบอาหารริมบาทวิถี ในงาน Thailand Street Food Festival 2020 ณ ลานหน้าห้างเซ็นทรัล เฟสติวัล เชียงใหม่ หลังส่งผู้เชี่ยวชาญจัดประเมินถึงที่ มีผู้ผ่านการประเมินเกือบ 40 คน งานนี้ผู้ผ่านการประเมินออกปาก ดีใจที่ สคช. มาช่วยยกระดับให้คนในอาชีพ เชื่อว่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสร้างความมั่นใจ และเรียกยอดขายจากผู้บริโภคได้แน่นอน

ดร.นพดล ปิยะตระภูมิ ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เยี่ยมชม ศูนย์กลางความรู้ด้านการออกแบบและบ่มเพาะความคิดสร้างสรรค์ครบวงจรแห่งแรกในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน (TCDC) พร้อมหารือร่วมกันกับคุณอิ่มหทัย กันจินะ รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ประจำ จ.เชียงใหม่ ถึงแนวทางการดำเนินงานของ TCDC โดย TCDC เชียงใหม่ เป็นโครงการจัดตั้งแหล่งการเรียนรู้เต็มรูปแบบแห่งแรกของ TCDC เพื่อส่งเสริมการใช้ความคิดสร้างสรรค์ให้แก่ผู้ประกอบการ นักออกแบบ นักศึกษา และประชาชน โดยสนับสนุนให้ใช้ศักยภาพที่มีอยู่ ผสานกับสินทรัพย์ภูมิปัญญา และมรดกทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย มาประยุกต์เข้ากับเทคโนโลยีและองค์ความรู้สมัยใหม่ อันจะนำไปสู่การสร้างเอกลักษณ์และความแตกต่างให้กับสินค้าและบริการที่มีความแข็งแกร่งในเชิงธุรกิจมากยิ่งขึ้น และนำไปสู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยด้วยความคิดสร้างสรรค์ ดร.นพดล ระบุว่า สถาบันฯ มีความร่วมมือกับ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (CEA) ในการพัฒนากำลังคนในสาขาวิชาชีพที่เกี่ยวเนื่องกับเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ซึ่งจะเป็นการเติมเต็มการประกอบอาชีพและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าด้วยความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งจะได้มีการวางแผนร่วมกันเพื่อพัฒนากำลังคนเชิงพื้นที่ในแนวเครือข่ายเมืองเศรษฐกิจสร้างสรรค์ทั้ง เชียงใหม่ สงขลา ขอนแก่น เชื่อมโยงกับโครงการเมืองแห่งมืออาชีพที่ สคช. กำลังเดินเครื่องเต็มกำลังในเวลานี้

สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ดึงผู้เชี่ยวชาญในอาชีพอย่างเชฟธิติ เหมภัทรกนก Food Consult เชฟประจำรายการกินกันจัง ทาง Youtube channel และที่ปรึกษาคณะการจัดการธุรกิจอาหาร พร้อม ผศ.ดร.อนันต์ บุญปาน รองคณบดีฝ่ายวิชาการ คณะการจัดการธุรกิจอาหาร สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ และ น.ส.สุปรียา ผ่องโสภณ ผู้จัดการศูนย์รับรองคุณวุฒิวิชาชีพด้านอาหาร คณะการจัดการธุรกิจอาหาร เข้าประเมินสมรรถนะให้กับผู้ประกอบอาหารภายในงาน Thailand Street Food Festival 2020 บริเวณลานหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล เชียงใหม่ กว่า 40 ราย ซึ่งไม่เพียงจะช่วยให้ผู้บริโภคมั่นใจที่จะเลือกซื้อ เลือกชิม เลือกบริโภคอาหารที่ได้มาตรฐาน สะอาด ปลอดภัย มีหน่วยงานภาครัฐอย่าง สคช. ให้การการันตีแล้ว ยังเป็นการช่วยยกระดับให้กับผู้ประกอบอาหารริมบาทวิถี ที่สามารถประกอบอาหารที่ถูกสุขลักษณะ มีมาตรฐานการปรุง สะอาดทั้งอาหารและผู้ปรุง ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการจากการขายสินค้าคุณภาพ สะอาด สดใหม่ ตอบรับกระแสการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมทางอาหาร กระตุ้นการท่องเที่ยวไปในตัว สำหรับงาน Thailand Street Food Festival 2020 สคช. ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ธนาคารออมสิน บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) บริษัท บุญรอด เทรดดิ้ง จำกัด บริษัท อุตสาหกรรมนมไทย จำกัด บริษัท เฮ้าส์ โอสถสภา ฟู้ดส์ จำกัด บริษัท ไร่ธัญญะ จำกัด และบริษัทไทย อกริ ฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) ได้รวบรวมสุดยอดสตรีทฟู้ด ระดับประเทศแห่งปีวิถี New Normal มารวมตัวกันบริเวณลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 27-29 พฤศจิกายนนี้ ตั้งแต่เวลา 16.00 น.เป็นต้นไป ให้ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อเลือกชิมสุดยอดร้านอาหารริมบาทวิถีได้ตลอดทั้งงาน นอกจากนี้วันที่ 4-6 ธันวาคม จะจัดขึ้นอีกครั้ง ณ ลานหน้าเซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต วันที่ 11-13 ธันวาคม ณ ลานเซ็นทรัล เฟสติวัล พัทยาบีช และวันที่ 18-20 ธันวาคม ณ ลานเซ็นทรัลพลาซ่า นครราชสีมา

ดร.นพดล ปิยะตระภูมิ ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เข้าร่วมในงาน Thailand Street Food Festival 2020 สัญจรจังหวัดเชียงใหม่ บริเวณล้านหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล เชียงใหม่ ที่สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. ร่วมกับอีกหลายหน่วยงาน เฟ้นหาสุดยอดสตรีทฟู้ด มารวบรวมไว้ให้ผู้บริโภคได้เลือกซื้อ เลือกชิม อาหารริมบาทวิถีรสชาติอร่อย ได้คุณภาพ มาตรฐาน เพื่อเป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานราก รวมถึงช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบในกลุ่ม Street Food ของไทยทั่วประเทศ อีกทั้งเป็นการสร้างมาตรฐาน Street Food ไทยในสไตล์ New Normal ดร.นพดล กล่าวว่าการพัฒนาผู้ประกอบอาหารริมบาทวิถี (Street Food) จะเป็นกลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ โดยเฉพาะในช่วงภาวะที่ไทยยังประสบวิกฤตการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่ง สคช. จะเข้ามาช่วยยกระดับให้กับผู้ประกอบอาหารริมบาทวิถี ที่สามารถประกอบอาหารที่ถูกสุขลักษณะ มีมาตรฐานการปรุง สะอาดทั้งอาหารและผู้ปรุง ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการจากการขายสินค้าคุณภาพ สะอาด สดใหม่ ตอบรับกระแสการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมทางอาหาร เพราะธุรกิจอาหารเป็นธุรกิจเดียวที่ได้รับผลกระทบน้อยที่สุดจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 หากผู้ประกอบอาหารสามารถสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคได้ ก็จะเป็นอีกส่วนที่ช่วยสร้างภาพลักษณ์และกระตุ้นการท่องเที่ยวเชิงอาหารของประเทศทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียนมากขึ้นด้วย

นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันฯ . ร่วมประชุมหารือกับ ดร.ขดดะรี​ บินเซ็น​ นายกสมาคม​สมาพันธ์​โรงเรียน​เอกชน​ภาคใต้​ และคณะ โดยร่วมหารือเกี่ยวกับการนำมาตรฐานอาชีพของสคช.ไปจัดทำหลักสูตรฝึกอบรม และการนำนักเรียนที่อยู่ในสังกัดของโรงเรียนเอกชนภาคใต้เข้าสู่กระบวนการประเมินสมรรถนะตามมาตรฐานอาชีพของสคช.เพื่อให้ได้รับการการันตีทักษะ ความรู้ ความสามารถแก่นักเรียน และพร้อมที่จะพัฒนาต่อยอดให้เป็นผู้ประกอบการมืออาชีพยุคใหม่ ผ่านกระบวนการรับรองคุณวุฒิวิชาชีพที่เป็นมาตรฐานสากล โดย ดร.ขดดะรี บินเซ็น นายกสมาคมสมาพันธ์โรงเรียนเอกชนภาคใต้ ได้ให้ความสนใจในมาตรฐานฐานอาชีพของสคช.ซึ่งจะนำไปจัดทำหลักสูตรฝึกอบรมให้เป็นประโยชน์กับกลุ่มนักเรียนในสังกัด โดยมุ่งเน้นในสาขาอาชีพที่สอดคล้องกับสภาพสังคมและเศรษฐกิจของพื้นที่ เช่น ด้านระบบขนส่งทางราง ด้านแฟชั่นและ E-Commerce ด้านการคัดแยกผลิตผลทางการเกษตร ด้านยางพารา เป็นต้น เพื่อที่จะผลักดันให้เข้าสู่กระบวนการประเมินสมรรถนะของสคช.ให้ได้รับการการันตีความสามารถ เป็นการสร้างความเชื่อมั่นในสมรรถนะของนักเรียนจากโรงเรียนสอนศาสนาเอกชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มีสมรรถนะในการทำงานในสาขาอาชีพต่างๆ อย่างมีมาตรฐาน เป็นการสร้างอาชีพให้คนในพื้นที่อย่างยั่งยืน ทั้งนี้ ได้มีการหารือถึงแนวทางการทำงานร่วมกัน ซึ่งสคช.พร้อมที่จะส่งเสริม และสนับสนุนให้นำมาตรฐานไปใช้ในจัดทำหลักสูตรฝึกอบรมที่เป็นไปตามมาตรฐานอาชีพ ตรงตามความต้องการของสถานประกอบการ และทันต่อสภาพสังคมและเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป เเละส่งเสริม สนับสนุนกลุ่มนักเรียนในสังกัดโรงเรียนเอกชนภาคใต้ให้ได้รับการพัฒนาสมรรถนะฯ ตามมาตรฐานอาชีพ สู่การมีอาชีพในพื้นที่ เสริมสร้างสันติสุขอย่างยั่งยืนต่อไป

ขอเชิญชวนประชาชน ร่วมในพิธีสวดเจริญมหามงคลรวมศาสนา 3 ธันวาคม 2563 สืบสานพระราชปณิธาน “ธรรมราชินี” รวมใจภักดิ์ น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ “พ่อแห่งแผ่นดิน” เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพล อดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร 5 ธันวาคม 2563 โดยพิธีดังกล่าว ประกอบด้วย การบำเพ็ญ พระราชกุศลอุทิศถวายพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพล อดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช การเจริญพระพุทธมนต์และสวดถวายพระพรชัยมงคล 5 ศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู และศาสนาซิกข์ ในวันพฤหัสบดี ที่ 3 ธันวาคม 2563 ณ พระลานพระราชวังดุสิต ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป ดาวน์โหลดบทสวดมนต์ได้ที่ www.prd.go.th และ http://www.phralan.in.th/images/info/1606787808_d_1.pdf http://www.phralan.in.th/images/info/1606787808_d_2.pdf http://www.phralan.in.th/images/info/1606787808_d_3.pdf http://www.phralan.in.th/newsdetail.php?id=7&d=1347

นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ และเจ้าหน้าที่สถาบันฯ นำเสนอภารกิจหน้าที่และแนวทางการทำงานของสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ซึ่งทางนายมนต์ชีพ ศิวะสินางกูร กรรมการบริหารพรรคกล้า และคณะได้มาศึกษาดูงาน เพื่อนำไปปรับใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาประเทศในอนาคต โดยให้ความสนใจเป็นพิเศษในเรื่องทางด้านสังคม โดยเฉพาะกรณีผู้ดูแลเด็ก หลังเกิดปัญหาพี่เลี้ยงทำร้ายร่างกายเด็กเล็ก ซึ่ง สคช. เองได้มีการจัดทำมาตรฐานอาชีพ พร้อมรับการประเมินสมรรถนะบุคคลให้กับผู้ดูแลเด็ก ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งกลไกในการกลั่นกรองบุคลากรที่ประกอบอาชีพอย่างมีมาตรฐานต่อไป

นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ในฐานะผู้แทนสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการบริหาร Board of Director Meeting of International Professional Standard Network ผ่านวีดิโอคอนเฟอเรนซ์ ในฐานะตัวแทนประเทศไทยใน สมาคมวิชาชีพธุรกิจความงาม International Professional Standards Network (IPSN) ประชุมร่วมกับประเทศสมาชิกอีก 5 ประเทศ ประกอบด้วย นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และฮ่องกง ซึ่งนางสาว วรชนาธิป ได้นำเสนอให้เห็นการปรับตัวของหน่วยงานภาครัฐของไทยหลังเกิดสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ปรับตัวประเมินสมรรถนะบุคคลเพื่อให้ได้การรับรองมาตรฐานอาชีพจากสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ด้วยการประยุกต์นำเทคโนโลยีมาใช้ นำระบบการฝึกอบรม และประเมินผ่านระบบ VDO Conference ทำให้สามารถขับเคลื่อนงานภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคได้ นอกจากนี้ สคช. ยังได้จัดทำมาตรฐานอาชีพในสาขาวิชาชีพธุรกิจเสริมสวย เพิ่มเติม ทั้งการแต่งหน้า, ทำเล็บ, ต่อขนตา, สักคิ้ว, ผู้สอนเสริมสวย, และผู้บริหารธุรกิจเสริมสวย ซึ่งจะได้ขับเคลื่อนสู่การยอมรับในระดับประเทศก่อนที่จะเสนอเพื่อให้มีการศึกษาเปรียบเทียบมาตรฐานให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากลต่อไปในอนาคต ขณะที่การประชุมยังได้มีการหารือเกี่ยวกับการพัฒนาเครือข่าย IPSN โดยเห็นชอบกรอบแผนยุทธศาสตร์ IPSN Stategic Plan รวมถึงการมอบรางวัล IPSN Awards of Honour ให้แก่ผู้ทรงคุณวุฒิที่ควรแก่การยกย่องเชิดชูในระดับสากล ซึ่ง สคช. ในฐานะตัวแทนประเทศไทย จะดำเนินการกลั่นกรองเพื่อเสนอรายชื่อผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 2 ราย เป็นตัวแทนประเทศไทยรับรางวัล IPSN Award of Honour สำหรับปี 2021 ด้วย

นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมคณะ พูดคุยหารือร่วมกับดร.ณพพงศ์ ธีระวร ประธานสมาพันธ์ SME ไทย ดร.อุดมธิปก ไพรเกษตร รองประธานสมาพันธ์ SME ไทย และประธานสถาบันส่งเสริมและ พัฒนา SME แห่งสมาพันธ์ SME ไทย ถึงแนวทางความร่วมมือการทำงานร่วมกัน ในการพัฒนากำลังคนมืออาชีพที่ผ่านการรับรองเป็นมืออาชีพกับ สคช. ให้สามารถต่อยอดทำธุรกิจของตัวเองได้ รวมทั้งในกลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SME ซึ่งเป็นกลุ่มที่ขับเคลื่อนมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ประเทศมากกว่าร้อยละ 42 ของเศรษฐกิจมวลรวมทั้งประเทศ มีผู้ประกอบการอยู่มากกว่า 3 ล้านราย ที่ช่วยทำให้เกิดการจ้างงานมากกว่า 11.2 ล้านคน ที่สามารถเข้าสู่ระบบการประเมินเป็นคนมืออาชีพที่ภาครัฐให้การรับรอง การันตีว่าเป็นคนที่มีคุณภาพ มาตรฐาน เทียบเท่าระดับสากล เรียกว่าจะกลายเป็นอีกความร่วมมือสำคัญที่จะช่วยพัฒนาศักยภาพกำลังคนของประเทศ

นางสาวจุลลดา มีจุล รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) แถลงผลการจัดทำมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ สาขาวิชาชีพพลังงานและพลังงานทดแทน สาขางานระบบผลิตไฟฟ้า เพื่อยกระดับคนในอาชีพ รองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมไฟฟ้าไทย สู่การเป็นศูนย์กลางพลังงานไฟฟ้าของอาเซียนในอนาคต รวมทั้งเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนให้บุคลากรที่มีความรู้ มีทักษะ พัฒนาตัวเองให้ทันเทคโนโลยี และความต้องการของผู้ประกอบการ นอกจากนี้ยังเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับภาคการศึกษา โดยเฉพาะอาชีวศึกษา ให้มีทักษะในเชิงเทคนิคพร้อมเข้าสู่การทำงานได้ทันทีหลังสำเร็จการศึกษา ด้าน นางสาวจุลลดา บอกว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับนโยบายความมั่นคงด้านพลังงาน โดยบรรจุอยู่ในแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ และสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. เป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการส่งเสริมให้กลุ่มอาชีพจัดทำมาตรฐานอาชีพ จึงได้ร่วมมือกับ มจธ. และ กฟผ. กำหนดสมรรถนะทางด้านเทคนิคของผู้ปฏิบัติงานในอุตสาหกรรมผลิตไฟฟ้า เพื่อใช้เป็นมาตรฐานการปฏิบัติงานของกำลังคนตามมาตรฐานอาชีพ ให้มีมาตรฐานเดียวกันและมีความเชี่ยวชาญ ทั้งในด้านความรู้ ทักษะ สอดคล้องกับความต้องการของอุตสาหกรรม รองรับนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ที่มีการปรับเปลี่ยนตลอดเวลา เป็นที่ยอมรับในระดับสากล

ดร.นพดล ปิยะตระภูมิ ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมนางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันฯ เยี่ยมเยียนร้านเจ๊ไฝ (นางสุภินยา จันสุตะ) รางวัล 1 ดาวมิชลิน ร้านอาหารคุณภาพสูงที่ควรค่าแก่การหยุดแวะชิม พร้อมทาบทามช่วยชาวบ้านด้วยการสอนเมนูอาหารที่มีคุณภาพ มาตรฐาน สะอาด ปลอดภัย ในฐานะเป็นผู้เชี่ยวชาญในอาชีพ สามารถประกอบอาชีพสร้างรายได้เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจวันละมากกว่าแสนบาท โดยเฉพาะไข่เจียวปู เมนูขึ้นชื่อร้านเจ๊ไฝ เพื่อเป็นวิทยาทานให้กับคนในอาชีพที่สามารถนำไปพัฒนาต่อยอดในอาชีพ และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับการทำอาหารจำหน่ายได้ เนื่องจากหัวใจการทำอาหารของเจ๊ไฝคือคุณภาพของวัตถุดิบ ที่ต้องสด สะอาด ซึ่งสามารถช่วยยกระดับให้กับผู้จำหน่ายอาหารได้ โดยมีเชผวิลเมนต์ ลีออง จากรายการ TOP CHEF THAILAND เชฟชาวสิงคโปร์หัวใจเป็นไทย ที่มาร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์และแนวทางการทำอาหารอย่างมืออาชีพ ที่ไม่เพียงความอร่อย แต่ต้องเน้นคุณภาพ มาตรฐาน ความสะอาด และปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค จากการพูดคุย เจ๊ไฝบอกว่ายินดีที่จะช่วยเหลือชาวบ้าน ถ่ายทอดความรู้ในการทำอาหาร เนื่องจากเป็นการสร้างโอกาส สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนในอาชีพ และเป็นเรื่องที่ดีที่สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ อยากช่วยชาวบ้าน ช่วยคนในอาชีพ โดยเฉพาะเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนเปิดประเทศที่คนทำอาหารจะต้องเตรียมตัว เพราะการทำอาหารจะต้องใส่ใจในการทำ ก็จะสร้างความประทับใจให้กับคนกิน

ดร.นพดล ปิยะตระภูมิ ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมนางสาววรชนาธิป จันทนู ประชุมระดมความคิดเห็นร่วมกับตัวแทนจาก อ.ต.ก. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มหาวิทยาลัยปัญญาภิวัฒน์ มทร.รัตนโกสินทร์ มหาวิทยาลัยเกษตร และมสธ. ถึงแนวทางการจัดทำมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ สาขาวิชาชีพการผลิตอาหารและเครื่องดื่ม อาชีพการคัดแยกผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งข้อมูลสถิติจากกระทรวงเกษตรพบว่า กว่า 50% ในกลุ่มเกษตรกรไร่นาสวนผสม เป็นผู้ที่มีความสามารถในการคัดแยกผลผลิตทางการเกษตร แต่ยังไม่มีการจัดทำมาตรฐานอาชีพ การจัดทำมาตรฐานการคัดแยกผลผลิตขึ้นมารองรับ และให้การรับรองเกษตรกรกลุ่มดังกล่าว โดยเฉพาะเกษตรกรที่มีความสามารถในการคัดแยกผลผลิตทางการเกษตร เป็นกลุ่มที่มีความสำคัญที่ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ ได้จากการเพิ่มมูลค่าสินค้าทางการเกษตร เพราะการคัดแยกผลิตผลทางการเกษตรไม่เพียงทำให้สินค้าเพิ่มมูลค่าได้แล้ว แต่ยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคที่สามารถบริโภคสินค้าคุณภาพ และคุ้มค่า คุ้มราคาที่เสียไป ซึ่งการจัดทำมาตรฐานให้การรับรองเกษตรกรผู้คัดแยกจะเป็นการตอบโจทย์ทั้งเกษตรกร ผู้บริโภค และเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของประเทศด้วย

นางสาวจุลลดา มีจุล รองผู้อำนวยการสถาบัน ประชุมร่วมกับสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าไทย กระทรวงสาธารณสุข สมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย สมาพันธ์สมาคมสปาแอนด์เวลเนสไทย โรงแรมพัทยาการ์เด้น บ.สมบัติเลิศ จำกัด ในเครือนายเลิศกรุ๊ป บ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา (มหาชน) โรงแรมแลนด์มาร์ก และอื่นๆ ถึงแนวทางการจัดตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษาเพื่อการพัฒนากำลังคน ด้านอุตสาหกรรมบริการและการท่องเที่ยว (ICB: Tourism, Travel and Hospitality) เพื่อให้หน่วยงานต่างๆ ที่เข้าร่วมได้ทำความเข้าใจถึงวัตถุประสงค์ ประโยชน์ โครงสร้าง และบทบาทของการจัดตั้ง ซึ่งคณะทำงานฯ จะได้ดำเนินการรวบรวม EOI จากผู้ทรงคุณวุฒิที่แสดงเจตนารมณ์ ขอคัดเลือกเข้าเป็น ICB: Tourism, Travel and Hospitality เพื่อประโยชน์ในการสร้างกำลังคนให้เป็นที่ยอมรับและได้มาตรฐานเป็นมืออาชีพ

นางสาวจุลลดา มีจุล รองผู้อำนวยการสถาบัน และเจ้าหน้าที่สำนักบริหารคุณวุฒวิชาชีพ 4 ประชุมหารือกับอธิการบดี มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช พร้อมด้วยรองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ และประธานหลักสูตรในสาขาวิชาต่างๆ เพื่อการลงนามบันทึกข้อตกลงทางวิชาการในการเทียบโอนคุณวุฒิวิชาชีพเข้าสู่คุณวุฒิทางการศึกษา ภายใต้หลักสูตรที่เปิดสอนในมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ปัจจุบันได้มีการจัดการเรียนการสอนแบบมอดูล ซึ่งเป็นแนวทางการเรียนการสอนแบบความปกติใหม่ (New Normal) ที่ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมการศึกษาทางไกล ที่ออกแบบให้ผู้เรียนสามารถศึกษาได้ด้วยตนเอง มีปฏิสัมพันธ์กับผู้สอนออนไลน์ อีกทั้งยังสามารถเก็บสะสมหน่วยกิต กิจกรรมร่วมเรียนรู้ มีจำนวนหน่วยกิต 1 – 3 หน่วยกิต โดยที่ผู้เรียนสามารถออกแบบการเรียนด้วยตนเองที่สำคัญผู้เรียนสามารถเทียบโอนความรู้และประสบการณ์ในระบบคลังหน่วยกิต (Credit Bank) เพื่อเข้าสู่ระบบการศึกษาของมหาวิทยาลัยได้ เน้นผลลัพธ์การเรียนรู้ที่เกิดขึ้นกับผู้เรียน สอดคล้องกับแนวทางที่ สคช. จะดำเนินการนำหน่วยสมรรถนะตามมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพสะสมในระบบสะสมผลลัพธ์การเรียนรู้และประสบการณ์ รองรับการเทียบโอนระหว่างโลกของการทำงานและการศึกษาร่วมกันได้ต่อไป นอกจากนี้ อธิการบดีได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการให้ผู้เรียนมีใบคุณวุฒิวิชาชีพควบคู่ไปกับการได้รับใบปริญญา จึงขอให้มีการจัดประชุมเชิงปฎิบัติการร่วมกันระหว่าง สคช. กับ มสธ. เพื่อเทียบเคียงเนื้อหาวิชาตามหลักสูตรกับสมรรถนะตามมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพต่อไป

นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบัน และเจ้าหน้าที่สำนักบริหารคุณวุฒิวิชาชีพ 4 และส่วนงานสร้างความร่วมมือ หารือการพัฒนาบุคลากรด้านการพัฒนาระบบคุณภาพด้านการท่องเที่ยวทางการแพทย์ (Medical & Wellness Tourism Quality) ร่วมกับนายแพทย์สมพร คำผง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารภาคพื้นเอเซียแปซิฟิก American Accreditation Commission International (AACI) ซึ่งเป็นหน่วยงานรับรองมาตรฐานคุณภาพในระดับสากลในด้านต่างๆ ในกลุ่ม Medical & Wellness Tourism ทั้งนี้ ความร่วมมือจะมุ่งเน้นการร่วมเอาหลักเกณฑ์การรับรองบุคลากรด้านการพัฒนาระบบคุณภาพ เช่น Certified Medical Tourism Professional และ Certified Wellness Tourism Professional ของต่างประเทศ (AACI) มาพัฒนาเป็นมาตรฐานอาชีพของประเทศไทย เพื่อประโยชน์ในการสร้างกำลังคนที่จะไปพัฒนายกระดับคุณภาพหน่วยงานต่างๆ เช่น สปา ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ โรงแรม และคลินิคต่างๆ ให้มีกระบวนการบริหารจัดการที่มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับในระดับสากล พร้อมรองรับการเป็น Medical & Wellness Travel Destination ภายหลังสถานการณ์ COVID-19 คลี่คลายลง โดยเฉพาะในอนาคตอันใกล้ที่มีแนวโน้มที่จะมีการผ่อนคลายการเดินทางต่างประเทศ จากการวิจัยและพัฒนาวัคซีน COVID-19 สำเร็จเป็นที่น่าพึงพอใจ นอกจากนี้ จะมีกิจกรรมร่วมกันในการยกระดับพัฒนาสถานประกอบการที่ได้นำระบบคุณวุฒิวิชาชีพไปใช้อย่างเป็นรูปธรรม ให้ได้พัฒนาระบบงานสอดคล้องตามมาตรฐานสากล เป็นที่ยอมรับและเชื่อมั่นในศักยภาพการให้บริการที่เป็นมาตรฐานสากลจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติต่อไปอีกด้วย

นายนคร ศิลปอาชา ประธานกรรมการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อม ดร.นพดล ปิยะตระภูมิ ผู้อำนวยการสถาบันฯ นำคณะกรรมการสถาบันฯ และคณะผู้บริหารสถาบันฯ ลงพื้นที่สำนักงานการพัฒนาฝีมือแรงงานระนอง เพื่อหารือแนวทางการทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนากำลังคนให้ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดแรงงาน โดยมีนายยอดเมือง ศิริประธาน ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานระนอง และคณะผู้บริหาร เข้าร่วมหารือ ซึ่งนายยอดเมือง ระบุว่าการพัฒนาฝีมือแรงงานในจังหวัดระนองโดยส่วนใหญ่จะมุ่งเน้นในเรื่องเกษตร การแปรรูปอาหารทะเล การประกอบอาหาร ประกอบกิจการท่องเที่ยวทางทะเล โดยส่วนมากจะเป็นสถานประกอบการขนาดเล็ก ที่ผ่านมามีคำกล่าวว่า จังหวัดระนองเป็นจังหวัดที่ หากไม่ตั้งใจมา ไม่ได้มา แต่ด้วยจังหวัดระนองมีจุดแข็งที่เมืองท่า และได้รับการพัฒนาเป็นเมืองท่าเรือน้ำลึก เมืองของการขนส่งทางฝั่งอันดามัน ทำให้มีการพัฒนากำลังคนด้านโลจิสติกส์ รองรับเรือการเป็นเมืองท่าขนาดใหญ่ ที่เชื่อว่าจะทำให้ระนองกลายเป็นจังหวัดที่มีความน่าสนใจต่อการลงทุนได้ในอนาคต หากสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพสามารถเข้ามาร่วมพัฒนากำลังคนได้ก็นับว่าจะช่วยยกระดับให้กำลังคนเตรียมพร้อมสำหรับการเติบโตของเมืองได้ในอนาคต ด้าน ดร.นพดล ระบุว่า สคช. พร้อมที่จะเข้ามาเป็นส่วนช่วยเสริมทักษะให้กำลังคนในพื้นที่ โดยเฉพาะปัจจุบันมีมาตรฐานอาชีพด้านโลจิสติกส์ที่พร้อมให้กำลังคนเข้าสู่การประเมิน และได้การรับรองเพื่อยกระดับในอาชีพได้อยู่แล้ว และ สคช. ก็พร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างชุมชนคนระนองให้เข้มแข็ง พึ่งพาตัวเองได้อย่างยั่งยืน