ข่าวประชาสัมพันธ์

  • สคช. ส่งเสริมเยาวชนชายแดนใต้ ฝึกประสบการณ์ตามมาตรฐานอาชีพสู่การเรียนรู้ตลอดชีวิต ผ่าน E-Workforce Ecosystem

    19.02.2567
    1,086 View

    สคช. ส่งเสริมเยาวชนชายแดนใต้ ฝึกประสบการณ์ตามมาตรฐานอาชีพสู่การเรียนรู้ตลอดชีวิต ผ่าน E-Workforce Ecosystem นางสาวจุลลดา มีจุล ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ นำทีม สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) เดินทางลงพื้นที่อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้เยาวชนได้รับการฝึกอบรมตามหลักสูตรระยะสั้นที่สอดคล้องกับมาตรฐานอาชีพหรือสมรรถนะสนับสนุนการทำงาน มีจุดมุ่งหมายสำคัญในการพัฒนากำลังคนให้เข้าสู่ตลาดแรงงานของประเทศด้วยระบบคุณวุฒิวิชาชีพ โดยมุ่งเน้นการฝึกฝนความรู้ ความสามารถ และทักษะ ที่จำเป็นในการทำงานในอาชีพนั้น ๆ ให้ตรงตามความต้องการของตลาดแรงงาน โดยมีนายแวอิสเฮาะ แวบาราเฮ็ง รองนายกเทศมนตรีตำบลปะนาเระ ให้การต้อนรับและสนับสนุนการการดำเนินงานดังกล่าว สถาบันคุณวุฒิวชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. ร่วมกับองค์การยูนิเซฟประเทศไทย จัดโครงการฝึกอบรมตามมาตรฐานอาชีพและจัดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต ผ่าน E-Workforce Ecosystem สำหรับเยาวชน ช่วงอายุ 15-24 ปี ที่ขาดโอกาส ไม่ได้เข้าสู่ระบบการศึกษาหรือหลุดจากภาคการศึกษา ไม่สามารถเข้าถึงบริการฝึกอบรม ไม่ได้ทำงาน ให้ได้รับโอกาสและเพื่อให้เยาวชนเข้าถึงระบบคุณวุฒิวิชาชีพ เข้าถึงข้อมูลหลักสูตรการฝึกอบรม สร้างโอกาสในการต่อยอดพัฒนาทักษะ (upskill, reskill) สามารถสะสมผลงาน สร้างเรซูเม่ เพิ่มโอกาสในการหางาน สะสมผลลัพธ์การเรียนรู้ผ่าน digital competency credit bank รวมถึงมีเครื่องมือในการกำหนดเส้นทางอาชีพ การวางแผนพัฒนาตนเองและการเรียนรู้ตลอดชีวิต ผ่าน E-Workforce Ecosystem สำหรับโครงการฝึกอบรมดังกล่าว จะจัดขึ้นใน 2 พื้นที่ได้แก่ อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี ระหว่างวันที่ 17 – 21 กุมภาพันธ์ 2567 และ หมู่บ้านยาง ตำบลแม่งอน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 1 – 5 มีนาคม 2567 สำหรับเนื้อหาในการฝึกอบรมในโครงการนี้ ได้มีการนำมาตรฐานอาชีพ สาขาวิชาชีพการท่องเที่ยว การโรงแรม ภัตตาคารและร้านอาหาร สาขาการจัดการการท่องเที่ยวในท้องถิ่น อาชีพนักเล่าเรื่องท้องถิ่น ระดับ 4 มาปรับใช้เป็นหลักสูตร นักเล่าเรื่องท้องถิ่นมืออาชีพ ประกอบด้วย 7 หน่วยสมรรถนะ ระยะเวลาการฝึกอบรม 24 ชั่วโมง (ภาคทฤษฎี 9 ชั่วโมง และภาคปฏิบัติ 15 ชั่วโมง) อาชีพผู้ประกอบการอาหารท้องถิ่น ระดับ 4 หลักสูตร ผู้ประกอบการอาหารท้องถิ่นมืออาชีพ ประกอบด้วย9 หน่วยสมรรถนะ ระยะเวลาการฝึกอบรม 15 ชั่วโมง (ภาคทฤษฎี 9 ชั่วโมง และภาคปฏิบัติ 6 ชั่วโมง) และสมรรถนะสนับสนุนการทำงานด้านการใช้อีคอมเมิร์ซ ระดับ 2 หลักสูตร นักขายออนไลน์มือใหม่สู่มืออาชีพด้วย Content Marketing ประกอบด้วย 8 หน่วยสมรรถนะ ระยะเวลาการฝึกอบรม 18 ชั่วโมง (ภาคทฤษฎี 7 ชั่วโมง และภาคปฏิบัติ 11 ชั่วโมง) และเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการนี้จะได้รับวุฒิบัตรการฝึกอบรม และหากผ่านการประเมินด้วยวิธีการและเกณฑ์ที่กำหนด รวมถึงมีคุณสมบัติการเลื่อนระดับคุณวุฒิวิชาชีพตามที่มาตรฐานอาชีพกำหนด จะได้รับหนังสือรับรองสมรรถนะหรือคุณวุฒิวิชาชีพในภายหลังต่อไป

  • สคช. - ศูนย์วิจัยป่าไม้ ม.เกษตร จัดประเมินฯ รุกขกร และผู้ปฏิบัติงานบนต้นไม้ รุ่นแรก เร่งผลิตบุคลากรที่มีคุณวุฒิวิชาชีพ รองรับการเพิ่มพื้นที่สีเขียว

    17.02.2567
    1,208 View

    สคช. - ศูนย์วิจัยป่าไม้ ม.เกษตร จัดประเมินฯ รุกขกร และผู้ปฏิบัติงานบนต้นไม้ รุ่นแรก เร่งผลิตบุคลากรที่มีคุณวุฒิวิชาชีพ รองรับการเพิ่มพื้นที่สีเขียว สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. โดย ศูนย์วิจัยป่าไม้ คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในฐานะองค์กรที่มีหน้าที่รับรองสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ จัดการประเมินสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ เพื่อให้การรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ ในสาขาวิชาชีพธุรกิจจัดการพื้นที่สีเขียว สาขาการจัดการดูแลต้นไม้ อาชีพรุกขกร ระดับ 4 และผู้ปฏิบัติงานบนต้นไม้ ระดับ 3 โดยมีคนในอาชีพ จากหน่วยงานทั้งรัฐและเอกชนเข้าร่วมการประเมินกว่า 70 คน นายณัฐวัฒน์ คลังทรัพย์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยป่าไม้ กล่าวว่า ถือเป็นครั้งแรก ของศูนย์วิจัยป่าไม้ ที่มีการประเมิน ผู้ประกอบอาชีพรุกขกร และผู้ปฏิบัติงานบนต้นไม้ ซึ่งถือเป็นอาชีพที่มีความสำคัญกับสังคมปัจจุบัน ที่ต้องการพื้นที่สีเขียวมากขึ้น โดยเฉพาะในเขตเมืองที่ต้องมีการจัดการต้นไม้อย่างเป็นระบบ โดยปัจจุบันประเทศไทยขาดแคลนบุคลากร ในอาชีพ รุกขกร ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการดูแลต้นไม้ ส่งผลให้เกิดปัญหากับต้นไม้ที่ปลูกในเขตเมือง อาทิ การตัดต้นไม้ให้เหลือแต่ตอ ตัดแต่งที่กิ่งใบ ไม่สวยงาม และไม่เป็นไปมาตรฐานความปลอดภัยส่งผลให้เกิดอันตรายและอุบัติเหตุจากต้นไม้อยู่บ่อยครั้ง ดังนั้น การผลักดันให้ผู้ประกอบอาชีพที่เกี่ยวข้องดังกล่าว ได้รับการรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ จะเป็นเครื่องมือที่แสดงให้เห็นว่าคนทำงานมีมาตรฐาน ผู้ปฏิบัติงานภาคสนามดำเนินการได้อย่างถูกต้อง และมีความปลอดภัย สามารถสร้างความมั่นใจให้กับผู้รับบริการได้ ขณะเดียวกัน ก็เพื่อให้ต้นไม้อยู่รอดได้ ตามสภาพของแต่ละพื้นที่ และปลอดภัยกับคนที่อยู่ใกล้ต้นไม้อีกด้วย สำหรับผู้ปฏิบัติงานบนต้นไม้ จะต้องมีการเตรียมอุปกรณ์สำหรับการปฏิบัติงานบนต้นไม้ การตรวจสอบอุปกรณ์ให้มีความสมบูรณ์ ก่อนเริ่มปฏิบัติงานต้องมีการตรวจสอบความปลอดภัยของต้นไม้ และพื้นที่ปฏิบัติงาน ก่อนทำการติดตั้งเชือกปีน เคลื่อนที่เพื่อปฏิบัติงานบนต้นไม้อย่างถูกต้อง รวมถึงต้องสามารถลงจากต้นไม้ด้วยความปลอดภัยด้วย ทั้งนี้ผู้ปฏิบัติงานบนต้นไม้ต้องทำงานร่วมต่อกับรุกขกร ซึ่งเป็นผู้มีความรู้ ในการวางแผนการจัดการต้นไม้ การดูแลรักษาต้นไม้ การตัดแต่งต้นไม้ ตลอดจนการป้องกันต้นไม้จากอันตรายต่าง ๆ เช่น ภัยธรรมชาติ โรค และแมลงศัตรู รวมทั้งสามารถจัดการต้นไม้ให้สามารถอยู่ร่วมกัน และตองสนองความต้องการของมนุษย์อย่างสมบูรณ์ และยั่งยืน

  • สคช.เตรียมพัฒนาคุณภาพกำลังคนในท้องถิ่นจังหวัดร้อยเอ็ดด้วยคุณวุฒิวิชาชีพ

    16.02.2567
    1,144 View

    นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ประชุมหารือร่วมกับ นางราณี วงศ์ลุน รักษาการพัฒนาชุมชนจังหวัดร้อยเอ็ด พัฒนาชุมชนอำเภอ 8 แห่ง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นร้อยเอ็ด ถึงแนวทางในการพัฒนาคุณภาพกำลังคนในท้องถิ่นจังหวัดร้อยเอ็ดด้วยคุณวุฒิวิชาชีพ โดยแต่ละพื้นที่มีความสนใจยกระดับทักษะการประกอบอาชีพให้ชุมชนตามมาตรฐานอาชีพของสถาบัน เพื่อส่งเสริมให้คนในท้องถิ่นมีโอกาสนำไปต่อยอดในการประกอบอาชีพ สร้างรายได้หรือสร้างอาชีพเสริมต่อไป เบื้องต้นพัฒนาชุมชนแต่ละอำเภอได้นำเสนอกลุ่มอาชีพตามความต้องการของแต่ละพื้นที่ในการพัฒนาคน โดยส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มอาชีพที่ต้องการต่อยอดผลิตภัณฑ์จากผลผลิตทางการเกษตรในชุมชน ผลิตภัณฑ์จักสาน ผ้าทอ และช่องทางการตลาดเพื่อการจัดจำหน่าย นางสาววรชนาธิป ระบุ สถาบันมีความพร้อมสนับสนุนพัฒนาคนในพื้นที่ด้วยมาตรฐานอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นการฝึกอบรม และการประเมินเพื่อการรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ ซึ่งที่ประชุมเห็นตรงกันให้จัดการฝึกอบรมตามมาตรฐานอาชีพในอาชีพเสริมสวย อาหาร บาริสต้า และส่งเสริมให้มีการต่อยอดช่องทางการจำหน่ายด้วยการตลาดออนไลน์ ก่อนนำไปสู่การรับรองคุณวุฒิวิชาชีพให้คนในอาชีพที่ผ่านการอบรมต่อไป เพื่อเป็นการเสริมความมั่นคงทางอาชีพ เพิ่มโอกาสในการนำผลผลิตในพื้นที่มาพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพมาตรฐานตรงตามความต้องการของตลาด ซึ่งนำไปสู่การสร้างรายได้และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของคนในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด

  • สคช. ติวเข้ม องค์กรรับรองฯ -องค์กรฝึกอบรม เตรียมนำร่องใช้งานระบบ E-Coupon เพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต ต่อยอดไปสู่การรับคุณวุฒิวิชาชีพ

    15.02.2567
    1,575 View

    สคช. ติวเข้ม องค์กรรับรองฯ - องค์กรฝึกอบรม เตรียมนำร่องใช้งานระบบ E-Coupon เพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต ต่อยอดไปสู่การรับคุณวุฒิวิชาชีพ 15 กุมภาพันธ์ 2567 นางสาวจุลลดา มีจุล ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ได้มอบหมายให้ นางสาวพรภัทรา ฉิมพลอย ผู้อำนวยการสำนักขับเคลื่อนภารกิจพิเศษ และนางสาวมะลิ จันทร์สุนทร ผู้อำนวยการสำนักรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. จัดการฝึกอบรมการใช้งานระบบคูปองอิเล็กทรอนิกส์เพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต หรือ E-Coupon ให้แก่องค์กรที่ทำหน้าที่ให้บริการฝึกอบรม และองค์กรที่มีหน้าที่รับรองสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ ได้รับรู้ถึงแนวทางการจัดการฝึกอบรมที่ช่วยเพิ่มทักษะ Up-Skill หรือพัฒนาทักษะ Re-Skill ผ่านการให้บริการด้วยระบบ E-Coupon ที่จะช่วยสนับสนุนค่าใช้จ่ายการฝึกอบรม และเก็บสะสมสมรรถนะที่เกิดจากการเรียนรู้ผ่าน Competency Credit Bank และนำไปสู่การได้รับคุณวุฒิวิชาชีพได้ในอนาคต โดยมีองค์กรที่เข้าร่วมการอบรมทั้งผ่านระบบออนไลน์ และออนไซต์ จำนวนกว่า 60 แห่ง สำหรับระบบ E-Coupon ถือเป็นหัวใจสำคัญ ในการสร้างแรงจูงใจในการให้กำลังคนมีการพัฒนาตัวเอง ผ่านการฝึกอบรม เพื่อสร้างการเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยจะต้องมีการลงทะเบียนเพื่อเข้าสู่ระบบ E-Portfolio ที่เป็นการทำงานภายใต้ E-Workforce Ecosystem Platform (EWE) ซึ่งเชื่อมโยงข้อมูลของแต่ละหน่วยงานให้เป็นฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้คนมีงานทำ นอกจากระบบ E-Coupon และ E-Portfolio ที่สามารถเก็บประวัติ ข้อมูลวุฒิการศึกษา ผลงานประสบการณ์ทำงาน การฝึกอบรมแล้ว ยังมีระบบย่อยอื่นๆ ที่ครอบคลุมการส่งเสริมการมีงานทำในทุกมิติ ประกอบไปด้วย การแนะแนวอาชีพและค้นหาทักษะ (Career Guidance and Skill Check) เพื่อประเมินทักษะและความรู้ของตนเอง เพื่อนำไปสู่การแนะแนวอาชีพที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ระบบการสั่งสมสมรรถนะการเรียนรู้ (Digital Competency Credit Bank) เกิดจากการเรียนรู้ การฝึกอบรม และการทำงานเพื่อเชื่อมโยงโลกของการทำงานและการเรียนรู้เข้าด้วยกัน ระบบจับคู่งาน (Job Matching) สำหรับคนที่กำลังมองหางานและผู้ประกอบการที่กำลังมองหาคนทำงานได้มาเจอกันทำให้เกิดการจ้างงานในทุกระดับ ผู้ประกอบการได้แรงงานมีคุณภาพ มีทักษะฝีมือตรงตามความต้องการ และการให้บริการข้อมูลด้านกำลังคน (Labour Market Information) ที่สามารถใช้ในการวางแผนนโยบายด้านกำลังคนเพื่อการพัฒนาประเทศในอนาคต ส่วนหลักเกณฑ์การขอรับเงินสนับสนุนการประเมินและการฝึกอบรมผ่านระบบ E-Coupon นั้น สถาบันจากพิจารณาคำขอ ตามขั้นตอน โดยเป็นไปตามข้อบังคับคณะกรรมการสถาบันคุณวุฒวิชาชีพว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการในการจัดให้มีและให้ทุนเพื่อสนับสนุนเป็นค่าธรรมเนียมการประเมินมาตรฐานอาชีพ 2565 และข้อบังคับคณะกรรมการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการในการจัดให้มีและให้ทุน เพื่อสนับสนุนเป็นค่าธรรมเนียมการฝึกอบรม พ.ศ.2567 ซึ่งเปิดกว้างสำหรับองค์กรที่มีหน้าที่รับรองฯ องค์กรที่ทำหน้าที่ให้บริการฝึกอบรม สามารถยื่นขอรับการจัดสรรทุน เพื่อรับ E-Coupon สำหรับการพัฒนาตัวเอง ขณะที่ในส่วนของบุคคล สามารถประสานไปยังองค์กรรับรองฯ ในแต่ละสาขาวิชาชีพ เพื่อติดต่อขอรับ E-Coupon เพื่อการเรียนรู้ได้เช่นกัน ทั้งนี้ คาดว่าระบบ E-Coupon จะสามารถเปิดบริการให้กับประชาชนทั่วไปอย่างเต็มรูปแบบ ภายในเดือนมีนาคมนี้ สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสมัครเข้าสู่การใช้งาน E-Portfolio ภายใต้ EWE Platform เพื่อเตรียมความพร้อมการใช้ E-Coupon ได้ที่ ewe.go.th หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชันผ่าน Apple Store และ Play Store

  • สคช. ร่วมประชุมอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านอาหาร เดินหน้าตั้งคณะทำงานรับผิดชอบ 4 โครงการสำคัญ เร่งเครื่องชู Soft Power ด้านอาหารสู่สายตาชาวโลก

    12.02.2567
    1,212 View

    สคช. ร่วมประชุมอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านอาหาร เดินหน้าตั้งคณะทำงานรับผิดชอบ 4 โครงการสำคัญ เร่งเครื่องชู Soft Power ด้านอาหารสู่สายตาชาวโลก นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ในฐานะรองประธานอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านอาหาร (คณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ) เข้าร่วมประชุมครั้งที่ 1/2567 โดยมีเชฟชุมพร แจ้งไพร เป็นประธานอนุฯ พร้อมหน่วยงานภาครัฐและเอกชน โดยในที่ประชุมได้มีการตั้งคณะทำงาน เพื่อเดินหน้าขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ด้านอาหาร ใน 4 โครงการ ที่ได้รับงบประมาณในปีงบประมาณ 2567 ประกอบไปด้วย โครงการหนึ่งหมู่บ้าน หนึ่งเชฟอาหารไทย ซึ่งจะเป็นการขับเคลื่อนนโยบายเพื่ออาหารไทย ด้วยการจัดทำหลักสูตร คู่มือการเรียนการสอน สร้างเทรนเดอะเทรนเนอร์ ส่งเสริมในเรื่องเรียนทำอาหาร โดยมีสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เป็นผู้ให้การรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ แก่ผู้ที่ผ่านการเรียนการสอนการอบรมตามหลักสูตร โดยตั้งเป้ามีผู้ที่ผ่านการเรียนรู้ 10,000 คน ทั่วประเทศในปี 2567 นอกจากนี้ยังมีการตั้งคณะทำงานในโครงการ Thai Food Channel เพื่อดำเนินการประชาสัมพันธ์อาหารไทย ด้วยการเผยแพร่คอนเทนต์อาหารไทยไปยังแพลตฟอร์มและสื่อต่างๆ เช่น YouTube, TikTok, Facebook, Instagram และ Line OM เป็นต้น เพื่อต่อยอดวัตถุดิบท้องถิ่นมาทำเป็นอาหาร สร้างตัวตนให้อาหารท้องถิ่นให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น สร้างร้านค้าชุมชน ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน ส่วนโครงการ Thai Food Soft Power and World Tour จะเป็นการยกระดับอาหารไทยไปสู่ระดับสากล ถ่ายทอดวัฒนธรรมอาหารไทย รวมถึงการสร้างนวัตกรรมอาหารและเครื่องดื่มออกสู่ตลาดสากลต่อไป รวมถึงโครงการ Local Chef Restaurant ซึ่งเป็นการสร้างร้านอาหารเชฟชุมชน อาหารถิ่น อาหารไทย เพื่อถ่ายทอดวัฒนธรรมด้านอาหารพื้นถิ่น ที่มีเอกลักษณ์ สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวมาเรียนรู้และสัมผัสกับอาหารไทย

  • สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ - รพ.บำรุงราษฎร์ เดินหน้ารับรองหลักสูตรฝึกอบรมในสถานประกอบการ ครอบคลุมทุกอาชีพด้านการให้บริการทางการแพทย์

    12.02.2567
    1,272 View

    สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ - รพ.บำรุงราษฎร์ เดินหน้ารับรองหลักสูตรฝึกอบรมในสถานประกอบการ ครอบคลุมทุกอาชีพด้านการให้บริการทางการแพทย์ นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ มอบหนังสือรับรองหลักสูตรฝึกอบรมในสถานประกอบการหลักสูตร การอบรมมาตรฐานอาชีพนักต้อนรับผู้ป่วย ระดับ 3 และหลักสูตรการอบรมมาตรฐานอาชีพนักบริหารการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพ (Medical and Wellness Travel Facilitator) ระดับ 5 ของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ โดยมอบให้กับ ดร.ฉัตรชัย ยาจันทร์ทา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานประสบการณ์ผู้ป่วย เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมและประเมินหลักสูตรดังกล่าว มีช่องทางในการได้รับประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพในอาชีพนักต้อนรับผู้ป่วย และนักบริหารการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพ (Medical and Wellness Travel Facilitator) ต่อไป โดยนางสาววรชนาธิป ระบุว่า โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ถือเป็นโรงพยาบาลต้นแบบ ที่มุ่งเน้นการพัฒนาบุคลากรสนับสนุนทางการแพทย์ในสถานประกอบการ มีคุณภาพและมาตรฐานจนได้รับคุณวุฒิวิชาชีพมาแล้ว ทั้งอาชีพล่ามและนักแปลภาษาทางการแพทย์ และนักเคลื่อนย้ายผู้ป่วย ซึ่งเป็นบุคลากรที่จะทำหน้าที่เชื่อมโยงการรักษาระหว่างแพทย์และผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ จะมีการผลักดันในการนำมาตรฐานอาชีพ ไปพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมพนักงานในตำแหน่งอื่นๆ ประกอบไปด้วย อาชีพนักเวชสารสนเทศทางพยาธิวิทยา (Pathology Informatician) นักพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาล และนักโสตทัศนศึกษาทางการแพทย์ ซึ่งจะครอบคลุมทุกอาชีพในด้านการให้บริการทางการแพทย์ นำไปสู่การสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้รับบริการถึงความปลอดภัย และการให้บริการที่เป็นไปตามมาตรฐานที่สากลให้การยอมรับ จะนำไปสู่การผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพ ขณะที่บุคลากรของสถานประกอบการเอง ก็จะได้รับแรงจูงใจในการทำงาน ทั้งการได้รับการเลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่ง ค่าตอบแทนที่เพิ่มขึ้น สร้างความมั่นคงในการทำงานในสถานประกอบการต่อไป

  • สคช. ร่วมกับสำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย โครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก และ มศว. เตรียมความพร้อมจัดทำชุดฝึกอบรมระยะสั้น ในกลุ่มงานผ้าทอและออกแบบ เพื่อเก็บเครดิตสมรรถนะและรับการรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ

    12.02.2567
    1,139 View

    สคช. ร่วมกับสำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย โครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก และ มศว. เตรียมความพร้อมจัดทำชุดฝึกอบรมระยะสั้น ในกลุ่มงานผ้าทอและออกแบบ เพื่อเก็บเครดิตสมรรถนะและรับการรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ 11 กุมภาพันธ์ 2567 ณ โรงแรม พลูแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด นางสาวจุลลดา มีจุล ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เข้าร่วมสังเกตการณ์ประชุมเชิงปฏิบัติการสร้างการรับรู้และเผยแพร่พระอัจฉริยภาพทางด้านการอนุรักษ์และต่อยอดมรดกภูมิปัญญาการทอผ้าของไทย ของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ในการสืบสาน รักษา และต่อยอด พระราชปณิธานของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จัดโดย สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ร่วมกับ ศูนย์บริการวิชาการ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวีโรฒ และคณะทำงานโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก โดยมี นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธี นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึง สคช. ว่าเป็นหน่วยงานที่สำคัญที่จะมาช่วยให้การรับรองและให้คุณวุฒิวิชาชีพกับผู้ผลิตงานหัตถกรรมพื้นบ้าน ซึ่งในการประชุมเชิงปฏิบัติการฯ ในครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อสนับสนุนบุคคลากรหน้าใหม่ที่ยังไม่ได้อยู่ในกลุ่ม OTOP จึงได้ร่วมมือกับสถาบันการศึกษาโดยเน้นที่ วิทยาลัยอาชีวศึกษา วิทยาลัยเทคนิค วิทยาลัยการอาชีพ โดยครั้งนี้มีกลุ่มผู้เข้าร่วมจากสถาบันการศึกษา 7 แห่ง อาทิ วิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่น วิทยาลัยอาชีวศึกษานครราชสีมา วิทยาลัยเทคนิคบุรีรัมย์ วิทยาลัยอาชีวศึกษามหาสารคาม วิทยาลัยอาชีวศึกษาร้อยเอ็ด มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ และมหาวิทยาลัยมหาสารคาม และกลุ่มผู้ประกอบการด้านผ้าทอ ในการปฏิบัติการ (Workshop) ได้แบ่งกลุ่มให้ความรู้เป็น 5 กลุ่ม ซึ่งประกอบด้วย กลุ่มที่ 1 : การสร้างแบรนด์ให้กับผลิตภัณฑ์ผ้าและงานหัตถกรรมสู่ตลาดสากล โดย ผศ.ดร รวิเทพ มุสิกะปาน และนายศิริชัย ทหรานนท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อยอดผลิตภัณฑ์ผ้าและงานหัตถกรรมตามเทรนด์แฟชั่นที่ร่วมสมัย กลุ่มที่ 2 : การต่อยอดผลิตภัณฑ์ผ้าและงานหัตถกรรมตามเทรนด์แฟชั่นร่วมสมัย โดย อาจารย์ ดร. กรกลด คำสุข ผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อยอดผลิตภัณฑ์ผ้าและงานหัตถกรรมตามเทรนด์แฟชั่นที่ร่วมสมัย กลุ่มที่ 3 : การพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการของตลาด โดย อาจารย์ ดร.กิติศักดิ์ เยาวนานนท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการของตลาด กลุ่มที่ 4 : การผลิตเส้นใยและการย้อมสีธรรมชาติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (BGC) โดย นายนุวัฒน์ พรมจันทึก ผู้เชี่ยวซาญด้านการผสิตเส้นใยและการย้อมสีธรรมชาติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (BCG) กลุ่มที่ 5 : กลยุทธ์ทางการตลาดและการจำหน่ายผลิตภัณฑ์นค้า โดย อาจารย์ ดร.ฐิศิรักน์ โปตะวณิช ผู้เชี่ยวซาญด้านกลยุทธ์ทางการตลาดและการจำหน่ายผลิตภัณฑ์สินค้า

  • สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ร่วมนั่งอนุกรรมการขับเคลื่อนนโยบาย OFOS หนุนขับเคลื่อนนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ไทยอย่างยั่งยืน

    09.02.2567
    1,244 View

    สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ร่วมนั่งอนุกรรมการขับเคลื่อนนโยบาย OFOS หนุนขับเคลื่อนนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ไทยอย่างยั่งยืน นางสาวจุลลดา มีจุล ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมนางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ซึ่งมีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นประธาน ซึ่งได้มีการพิจารณาเห็นชอบประเด็นสำคัญในการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ ตามข้อเสนอของ สำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง หรือ ป.ย.ป. ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน แต่งตั้งให้เป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ โดยแผนขับเคลื่อนระหว่างการจัดตั้งหน่วยงาน THACCA ได้มีการจัดทำฐานข้อมูลกลางเพื่อบูรณาการและขับเคลื่อนแผนงานในภาพรวม รวมถึงการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ 6 ชุดในการขับเคลื่อนและติดตามแผนงานประกอบด้วยคณะอนุกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์นโยบายและแผนระดับชาติ คณะอนุกรรมการจัดทำมาตรการและสิทธิประโยชน์ คณะอนุกรรมการกลั่นกรองและกำกับติดตามการดำเนินโครงการ คณะอนุกรรมการด้านการสื่อสารประชาสัมพันธ์ คณะอนุกรรมการพัฒนาระบบและฐานข้อมูล และคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนนโยบาย OFOS ซึ่งมีสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพร่วมเป็นฝ่ายเลขานุการ ที่ประชุมยังเห็นชอบให้ยกระดับ THACCA Web Portal ให้เป็น THACCA Platform เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ภารกิจได้ครอบคลุมทุกมิติ โดยสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพได้ร่วมอยู่ในหน่วยงานพัฒนาระบบลงทะเบียน OFOS ซึ่งจะแหล่งรวบรวมข้อมูลผู้ลงทะเบียน ข้อมูลการฝึกอบรมทักษะต่างๆ การรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ และรับรองมาตรฐานฝีมือแรงงาน ระบบ Matching ระบบตลาดงานกับผู้ประกอบการด้วย รวมถึงการผลักดันกลุ่มผู้มีความสามารถพิเศษเพื่อเป็นการต่อยอดขยายโอกาสทางอาชีพ ที่ประชุมยังเห็นชอบแนวทางการจัดงาน SPLASH งานพลังวัฒนธรรมสร้างสรรค์ใหม่ หรือเดิมคือ Soft Power Forum ซึ่งคาดว่าจะจัดในช่วงเดือนมิถุนายนนี้ ในงานจะเป็นการรวบรวมแหล่งข้อมูลที่ทำให้เกิดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับ Soft Power ของไทย ซึ่งไม่เพียงแค่การจัดงาน แต่จะเป็นการสร้างการพัฒนา ยกระดับคนสู่ความยั่งยืนด้วย ทั้งนี้ที่ประชุมยังรับทราบว่า จะมีการเสนอนายกรัฐมนตรี แต่งตั้งนางอัจฉรา อัมพุช เป็นกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ด้านแฟชั่น และแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านศิลปะเพิ่มเติม ในสัดส่วนศิลปะการแสดง เพิ่มอีกจำนวน 4 คนด้วย

  • ครั้งแรกของประเทศ สคช.- มรวอ. เปิดฟาร์มโคนม ยกระดับนักผลิตผลิตภัณฑ์นม ผ่านระบบคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมผลักดันเข้าสู่ระบบ EWE เพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต

    07.02.2567
    1,190 View

    ครั้งแรกของประเทศ สคช.- มรวอ. เปิดฟาร์มโคนม ยกระดับนักผลิตผลิตภัณฑ์นม ผ่านระบบคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมผลักดันเข้าสู่ระบบ EWE เพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 ณ สหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น จังหวัดสระแก้ว นางสาวจุลลดา มีจุล ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ได้มอบหมายให้ นางสาวพรภัทรา ฉิมพลอย ผู้อำนวยการสำนักขับเคลื่อนภารกิจพิเศษ และนางสาวมะลิ จันทร์สุนทร ผู้อำนวยการสำนักรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ เข้าร่วมพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือการส่งเสริมและการพัฒนากำลังคนผ่านระบบคุณวุฒิวิชาชีพและระบบ E-Workforce Ecosystem ระหว่าง สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) กับมหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยมี รศ.ดร.สมบัติ คชสิทธิ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นผู้ลงนาม ท่ามกลางสักขีพยาน ประกอบไปด้วย ดร.อำนวย ทงก๊ก ประธานกรรมการสหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น จำกัด ผศ.ดร.ชัยวุฒิ เทโพธิ์ ผศ.ดร.ภิศักดิ์ กัลยาณมิตร รองอธิการบดี นางศิริรัตน์ ทงก๊ก ประธานส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัย ผศ.ดร.สุภณิดา พัฒธร ผู้อำนวยการ AFCC และคณะผู้บริหารของแต่ละหน่วยงาน อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า การลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือในครั้งนี้ มีเจตนารมณ์ที่จะร่วมมือกันส่งเสริมและพัฒนากำลังคนเพื่อเชื่อมโยงคุณวุฒิวิชาชีพ กับคุณวุฒิการศึกษา ผ่านการวิเคราะห์หลักสูตรการศึกษาเพื่อพัฒนาให้เป็นหลักสูตรที่สอดคล้องตามมาตรฐานอาชีพ นำไปสู่การสั่งสมสมรรถนะการเรียนรู้ หรือ Competency Credit Bank พัฒนาผู้เรียนให้ได้รับการรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ ซึ่งกำลังคนดังกล่าวจะเข้าสู่ระบบแฟ้มสะสมงานอิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-Portfolio ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มอัจฉริยะในการบริหารจัดการข้อมูลด้านกำลังคนและการพัฒนาสมรรถนะเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิตของประเทศไทย สำหรับสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ได้มีการพัฒนา E-Workforce Ecosystem Platform (EWE Platform) เพื่อการบริหารจัดการข้อมูลด้านกำลังแรงงานสำหรับภาครัฐ และการพัฒนาสมรรถนะด้วยการเรียนรู้ตลอดชีวิตและการมีงานทำของประเทศ ซึ่งการลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือในวันนี้ ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีที่มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และภาคีเครือข่ายได้ร่วมกันขับเคลื่อน EWE Platform โดยการให้ผู้เรียน บุคลากร และประชาชนทั่วไปได้เข้าใช้งานระบบแฟ้มสะสมงานอิเล็กทรอนิกส์ (E-portfolio) ซึ่งสามารถเก็บข้อมูลด้านการศึกษา ผลงาน ประสบการณ์ทำงาน การฝึกอบรมต่างๆ รวมทั้งสามารถสร้างรีซูเม่ ที่นำไปสู่การมีงานทำ ผ่านระบบจับคู่งาน (Job Matching) กับสถานประกอบการต่างๆ ก่อให้เกิดการมีงานทำและมีรายได้ ตลอดจนสามารถฝึกอบรมเพิ่มทักษะ Up-skill และ Re-skill หรือทักษะใหม่ New skill พร้อมสามารถขอรับ E-Coupon ที่จะช่วยสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม และเก็บสะสมสมรรถนะที่เกิดจากการเรียนรู้ การฝึกอบรมไว้ได้ที่ระบบสั่งสมสมรรถนะการเรียนรู้ (Digital Competency Bank) นำไปสู่การได้รับคุณวุฒิวิชาชีพ ที่เทียบได้กับคุณวุฒิการศึกษา เพื่อยกระดับสมรรถนะกำลังคนของประเทศต่อไปในอนาคต ภายหลังการลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือระหว่างทั้ง 2 หน่วยงาน ได้มีการจัดพิธีมอบประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ ให้ผู้ที่ผ่านการประเมินสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ สาขาวิชาชีพการผลิตอาหารและเครื่องดื่ม สาขาการแปรรูปนม อาชีพนักผลิตผลิตภัณฑ์นม ระดับ 3 จากองค์กรที่มีหน้าที่รับรองสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ จำนวน 13 คน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของประเทศ ในการมอบประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพเพื่อยกระดับ นักผลิตผลิตภัณฑ์นม ด้วยคุณวุฒิวิชาชีพ โดยเป็นผู้ที่สามารถดำเนินการผลิตและแปรรูปนมเบื้องต้นได้ ทั้งการรับและจัดเก็บน้ำนมดิบ จัดเก็บวัตถุดิบ จัดเก็บบรรจุภัณฑ์ และสามารถปรุงแต่งน้ำนม ที่ใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์นมได้ตามมาตรฐาน ซึ่งสามารถปฏิบัติงานได้อย่างปลอดภัย รักษาจรรยาบรรณ จริยธรรมในการทำงาน เพื่อให้การผลิตและแปรรูปผลิตภัณฑ์นมมีประสิทธิภาพและเป็นที่ยอมรับ อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ มรวอ. จะสานต่อขยายผลการพัฒนาคนในอาชีพที่เกี่ยวข้อง เช่น อาชีพนักประกันคุณภาพผลิตภัณฑ์นม นักวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์นม รวมถึงอาชีพนักซ่อมบำรุงอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์นม เพื่อรองรับกำลังแรงงานในสถานประกอบการสายการผลิตอุตสาหกรรมนมต่อไป

  • สกพอ. พร้อมเป็นพันธมิตร สคช. พัฒนากำลังคนในพื้นที่ EEC

    06.02.2567
    1,322 View

    สกพอ. พร้อมเป็นพันธมิตร สคช. พัฒนากำลังคนในพื้นที่ EEC นางสาวจุลลดา มีจุล ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (สคช.) นำคณะผู้บริหาร เข้าพบหารือกับนายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) และคณะผู้บริหาร สกพอ. เพื่อหารือถึงแนวทางความร่วมมือในการพัฒนากำลังคนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC นายจุฬา ได้ให้ความสนใจแนวทางการพัฒนาคนด้วยหลักสูตรฝึกอบรมซึ่งหากได้การรับรองจาก สคช. ก็จะนำไปสู่การได้คุณวุฒิวิชาชีพไปด้วย โดยเฉพาะในกลุ่มสายงานบริการ ซึ่ง EEC มีอยู่มากกว่า 300 หลักสูตรในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายในการพัฒนาพื้นที่ นอกจากนี้ยังให้ความสนใจ การใช้แพลตฟอร์ม E-Workforce Ecosystem (EWE) เป็นแหล่งเรียนรู้ และเป็นฐานข้อมูลในการพัฒนาคนในกลุ่ม EEC ที่เดิมมีฐานข้อมูลอยู่แล้วแต่ยังไม่มีแพลตฟอร์มกลางที่เชื่อมโยงการใช้งานจากทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ประกอบกับ ewe เป็นแพลตฟอร์มที่น่าสนใจดึงดูดการใช้งาน โดยเฉพาะการมีระบบจับคู่งานในแพลตฟอร์ม ทำให้ EWE จะตอบโจทย์ให้กับสถานประกอบการและกำลังคนในเขต EEC โดยไม่จำเป็นต้องสร้างแพลตฟอร์มใหม่เพิ่มเติม การเป็นพันธมิตรทำงานร่วมกันระหว่าง สกพอ. และ สคช. จึงเป็นเรื่องที่ดีและเป็นประโยชน์กับกำลังคนของประเทศไทยอย่างมาก

  • สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จทอดพระเนตรนิทรรศการและการจัดงานแสดงผลิตภัณฑ์ผ้าไทย และงานหัตกรรมชุมชมภาคใต้ ณ อาคารแหล่งสมาคมนายทหารสัญญาบัตร กองบัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 ค่ายสมเด็จพระสุริโยทัย ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี

    25.01.2567
    2,934 View

    เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2567 เวลา 13.30 น. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จทอดพระเนตรนิทรรศการและการจัดงานแสดงผลิตภัณฑ์ผ้าไทย และงานหัตกรรมชุมชมภาคใต้ ณ อาคารแหล่งสมาคมนายทหารสัญญาบัตร กองบัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 ค่ายสมเด็จพระสุริโยทัย ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นางสาวจุลลดา มีจุล ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ข้าราชการ ประชาชน และคณะทำงานโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก เฝ้ารับเสด็จ โอกาสนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงให้ชุมชนในพื้นที่ภาคใต้จำนวน 30 กลุ่ม อาทิ จังหวัดพัทลุง จังหวัดปัตตานี จังหวัดนราธิวาส และจังหวัดยะลา เข้าเฝ้าถวายรายงาน และถวายผลงานให้ทอดพระเนตรเพื่อทรงมีพระวินิจฉัยพระราชคำแนะนำกับผู้ที่ทำงานด้านศิลปะ เพื่อนำไปต่อยอดผลงานและผลิตภัณฑ์ในกลุ่มงานผ้าบาติก และงานจักสาน อย่างใกล้ชิด และทอดพระเนตรนิทรรศการและการจัดงานแสดงผลิตภัณฑ์ผ้าไทย และงานหัตกรรมชุมชน สำหรับสถาบันคุณวุฒิวิชีพ (องค์การมหาชน) เข้าร่วมงานในครั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมการรับรองบุคลากรในกลุ่มอาชีพศิลปหัตถกรรม และกำหนดมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ ในกลุ่มผู้ผลิตผ้าบาติก นำไปสู่เป็นการยกระดับบุคลากรและผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่า ในชุมชนท้องถิ่นในพื้นที่ภาคใต้ต่อไป

  • สคช. หารือ มว. พัฒนากำลังคนด้านมาตรวิทยา

    29.01.2567
    3,044 View

    นางสาวจุลลดา มีจุล ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ นำคณะผู้บริหารสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. ประชุมร่วมกับ พล.ต.ท.นพ.พรชัย สุธีรคุณ ผู้อำนวยการสถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ (มว.) และผู้บริหาร เพื่อหารือแนวทางความร่วมมือที่เกี่ยวข้องการประเมินสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานวิชาชีพ เพื่อพัฒนากำลังคนที่เกี่ยวข้องกับมาตรวิทยา และแนวทางการเป็นองค์กรที่มีหน้าที่ให้บริการฝึกอบรมที่สอดคล้องกับมาตรฐานอาชีพ (Training Provider) รวมถึงความร่วมมือในการเทียบโอนหลักสูตรของสถาบันมาตรวิทยากับมาตรฐานอาชีพ ของสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ซึ่งจะนำไปสู่การรับรองคุณวุฒิวิชาชีพต่อไป สำหรับสถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ เป็นองค์กรหลักที่ทำการพัฒนาระบบมาตรวิทยาของชาติให้สอดคล้องกับระบบมาตรวิทยาสากล เพื่อพัฒนามาตรฐานการวัดให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล และถ่ายทอดความถูกต้องของการวัดต่างๆ ในประเทศ รวมทั้งเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจ และความสำคัญของมาตรวิทยาที่ถูกต้อง รองรับการเติบโตของเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ในอนาคต

  • สคช. ร่วมเปิดมุมมอง Digital Transformation ในงาน "Automation & Robotic Day 2024"

    29.01.2567
    3,044 View

    26 มกราคม 2567 ณ สถาบันไทย-เยอรมัน นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี นายนิธิวัชร์ ศิริปริยพงษ์ รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ร่วมเวทีเสวนา “กลไกและการสนับสนุนอุตสาหกรรมเพื่อการเปลี่ยนผ่านสู่การผลิตสมัยใหม่ Industrial Digital Transformation” ในงาน "Automation & Robotic Day 2024" ซึ่งจัดโดย สถาบันไทย-เยอรมัน และศูนย์ความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ (Center of Robotic Excellence :CoRE) ภายใต้แนวคิด The Future of Industrial Digital Transformation : ก้าวสู่อุตสาหกรรมแห่งอนาคตด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อเป็นการแสดงความก้าวหน้าทางด้านหุ่นยนต์อุตสาหกรรม และเทคโนโลยีดิจิทัล จากผู้ประกอบการและผู้ให้บริการที่เชี่ยวชาญในด้านระบบอัตโนมัติ หุ่นยนต์ และดิจิทัล อันจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการบริหารจัดการ ลดความสิ้นเปลืองทรัพยากรการผลิต และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันระดับประเทศ โดยร่วมกับวิทยากร ประกอบไปด้วย นายสมชาย จักร์กรินทร์ จากศูนย์ความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ (CORE) นายโชยศ เพียนจันทร์ สมาคมผู้ประกอบการระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ไทย (TARA) นายอุดม ลิ่วลมไพศาล ศูนย์นวัตกรรมการผลิตยั่งยืน (SMC) ดร.บรรพต หอบรรลือกิจ สถาบันพัฒนาบุคลากรแห่งอนาคต (CFA) โดยมี นายวรินทร์ รอดโพธิ์ทอง เป็นผู้ดำเนินรายการ นายนิธิวัชร์ กล่าวในการเสวนาว่า มองว่าแนวทาง Digital Transformation คือการเปลี่ยนภาพใหญ่ทั้งหมดของอุตสาหกรรมให้เป็นดิจิทัล ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับรูปแบบ และกระบวนการ ของแต่ละองค์กร ไม่ใช่แค่ในส่วนของอุปกรณ์และเครื่องจักรไปไว้ในการผลิต บุคลากรในองค์กรก็จะเป็นหนึ่งในปัจจัย ที่จะทำหน้าที่ในการขับเคลื่อนด้านดิจิทัล ที่จะต้องเดินไปพร้อมกันกับอุตสาหกรรม และความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. เป็นหน่วยงานที่ตั้งขึ้นเพื่อการพัฒนากำลังคน และส่งเสริมให้ได้รับการรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ ซึ่งจะเป็นเครื่องยืนยันได้ว่าสามารถทำงานได้จริง ที่ผ่านมา สคช. มีมุ่งพัฒนาคน ให้มีความเชี่ยวชาญด้านดิจิทัลมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการร่วมกับ กพ. และ DGA ในการร่วมกันกำหนดทักษะด้านดิจิทัลสำหรับข้าราชากรและหน่วยงานภาครัฐ เพื่อส่งเสริมนโยบายรัฐบาลดิจิทัล พร้อมกันนี้ สคช. ได้มีการพัฒนาแพลตฟอร์ม E-Workforce Ecosystem หรือ EWE ที่ช่วยบริหารจัดการกำลังคนของประเทศอย่างเป็นระบบ จากการเชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน กว่า 50 หน่วยงาน โดยมีการให้บริการ ผ่านระบบย่อย ไม่ว่าจะเป็น E-portfolio ที่สามารถเก็บประวัติ ข้อมูลวุฒิการศึกษา ผลงานประสบการณ์ทำงาน และการฝึกอบรม การแนะแนวอาชีพและค้นหาทักษะ Career Guidance and Skill Check ระบบจับคู่งาน Job Matching ที่ช่วยองค์กรที่ต้องการหาคนทำงาน และคนที่ต้องการหางาน ระบบสั่งสมสมรรถนะการเรียนรู้ Digital Competency Bank ระบบ E-Coupon สำหรับการ Up Skill Re Skill รวมไปถึงฐานข้อมูลด้านแรงงานของประเทศ ซึ่งฐานข้อมูลดังกล่าว จะเป็นประโยชน์กับองค์กรต่างๆ นำไปสู่การวิเคราะห์ข้อมูลด้านกำลังคนที่เกี่ยวข้องในภาคอุตสาหกรรมต่อไป

  • AAT ตอกย้ำทำงานร่วมกับ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เตรียมขยายผลยกระดับทักษะให้แรงงานในอุตสาหกรรมยานยนต์ และเครือข่าย EEC หลังคุณวุฒิวิชาชีพช่วยตอบโจทย์ความต้องการของพนักงานและสถานประกอบการ

    25.01.2567
    2,962 View

    นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ได้รับมอบหมายจากผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เข้าให้การต้อนรับนายสถิรยุทธ์ แสงสุวรรณ รองประธานกรรมการฝ่ายทรัพยากรบุคคล บริษัท ออโต้ อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ AAT และคณะ ซึ่งเข้าพบเพื่อหารือแผนความร่วมมือในการพัฒนากำลังคนในสถานประกอบการด้วยมาตรฐานอาชีพ และนำระบบคุณวุฒิวิชาชีพไปใช้ในการบริหารงานบุคคลในสถานประกอบการของ AAT และพร้อมขยายผลความร่วมมือไปสู่การผลักดันให้สถานประกอบการอื่นๆ ในอุตสาหกรรมยานยนต์ และในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) นำมาตรฐานอาชีพไปใช้ในการพัฒนากำลังคน ให้ครอบคลุมกลุ่มอาชีพในภาคส่วนต่างๆ ที่สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ได้จัดทำมาตรฐานอาชีพขึ้น นายสถิรยุทธ์ กล่าวว่า สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ได้สนับสนุนการยกระดับคุณวุฒิวิชาชีพให้พนักงานใน AAT ไปแล้วกว่า 230 คน ซึ่งบริษัท ได้ต่อยอดให้พนักงานเหล่านั้นได้มีโอกาสเป็นตัวเลือกของบริษัทในการพิจารณาเลื่อนระดับ ปรับตำแหน่ง หรือวางเส้นทางความก้าวหน้าของพนักงาน การใช้คุณวุฒิวิชาชีพที่มีศักดิ์และสิทธิ์เทียบเท่าคุณวุฒิการศึกษา เป็นสิ่งที่บริษัทเชื่อมั่นในการให้พนักงานที่มีประสบการณ์ ผ่านการ Reskill Upskill ที่บริษัทจัดให้อย่างต่อเนื่อง แต่ขาดวุฒิการศึกษาสามารถก้าวหน้าในสายงานของตนเองใน AAT ได้เช่นกัน นอกจากนี้ การสนับสนุนการฝึกอบรมสร้างทักษะอาชีพใหม่ Newskill ให้พนักงาน ได้มีอาชีพสำรอง เป็นทางรอด ทางเลือกของพนักงาน เปิดโอกาสให้พนักงานได้มีทักษะอาชีพใหม่ นำไปสร้างอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ได้อีกด้วย ซึ่งทุกบริการที่สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ร่วมสนับสนุนให้พนักงานของ AAT ถือว่าเป็นงานที่ตอบโจทย์ตรงใจความต้องการของทั้งพนักงานและสถานประกอบการอย่างแท้จริง นางสาววรชนาธิป จันทนู กล่าวว่า AAT ถือเป็นสถานประกอบการต้นแบบในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ทำให้เห็นภาพที่ชัดเจนว่าระบบคุณวุฒิวิชาชีพสามารถนำไปสนับสนุนการพัฒนาบุคลากร และการบริหารงานบุคคลในสถานประกอบการได้อย่างแท้จริง สอดคล้องกับนโยบายของผู้อำนวยการสถาบัน ที่ต้องการให้บริการของสถาบันฯ เป็นที่น่าเชื่อถือและไว้ใจ (Trust) ของสถานประกอบการ ซึ่งถือเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่สำคัญของสถาบันฯ ซึ่งสถาบันฯ พร้อมร่วมมือกับ AAT ยกระดับทักษะ สร้างอาชีพเสริม อาชีพทางรอด อาชีพทางเลือกให้พนักงาน AAT อย่างต่อเนื่อง

  • NIC-Japan ร่วมศึกษาเรียนรู้แนวทางพัฒนากรอบคุณวุฒิวิชาชีพ ยกระดับกำลังคนด้วยคุณวุฒิวิชาชีพเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต

    23.01.2567
    3,355 View

    Mr. Taiji Hotta ที่ปรึกษาอาวุโส National Information Center for Academic Recognition Japan (NIC-Japan) พร้อมด้วยคณะนักวิจัย เข้าพบนางสาวจุลลดา มีจุล ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนากรอบคุณวุฒิวิชาชีพ การพัฒนาและรับรองสมรรถนะตามมาตรฐานอาชีพ รวมถึงการสนับสนุนการเคลื่อนย้ายกำลังคน โดย NIC-Japan อยู่ระหว่างร่างข้อเสนอในการพัฒนากรอบคุณวุฒิให้กับรัฐบาลของประเทศญี่ปุ่น เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต และการเทียบโอนประสบการณ์ให้กับกำลังคนของประเทศญี่ปุ่นในอาชีพต่างๆ รวมถึงสนับสนุนการเคลื่อนย้ายกำลังคนตาม Tokyo Convention ทั้งนี้ คณะจาก NIC-Japan ได้ตระหนักถึงความสำคัญของคุณวุฒิวิชาชีพในฐานะเป็นปริญญาทางอาชีพซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการยกระดับกำลังคนที่คุณวุฒิทางการศึกษาไม่สูงนัก รวมถึงคนที่อยู่ในระบบการศึกษาทางเลือก ศูนย์ฝึกอาชีพ และอาสาสมัคร เป็นต้น

  • สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพพร้อมร่วมมือกรมราชทัณฑ์ ให้โอกาสผู้ต้องขังพัฒนาตนเองกลับคืนเป็นคนดีของสังคม

    19.01.2567
    3,440 View

    สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพพร้อมร่วมมือกรมราชทัณฑ์ ให้โอกาสผู้ต้องขังพัฒนาตนเองกลับคืนเป็นคนดีของสังคม นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ นำคณะผู้บริหารสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. ประชุมร่วมกับกรมราชทัณฑ์ และสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เพื่อหารือแนวทางความร่วมมือ ในการพัฒนาผู้ต้องราชทัณฑ์ด้วยระบบคุณวุฒิวิชาชีพเพื่อการมีงานทำ โดยมี นายสิทธิ สุธีวงศ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เป็นประธานการประชุม และมีนายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย และตัวแทนผู้ประกอบการ เข้าร่วม รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า กระทรวงยุติธรรม มีนโยบายส่งเสริมคนดีสู่สังคม โดยการพัฒนาและส่งเสริมอาชีพผู้ต้องขัง ผู้พ้นโทษ รวมถึงครอบครัวผู้ต้องขัง ให้มีอาชีพสามารถดำรงชีพในสังคมได้อย่างปกติสุข ไม่หวนกลับไปจะทำความผิดซ้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมุ่งเน้นให้ผู้ต้องขังได้ฝึกทักษะอาชีพ และทำงานาในระหว่างที่ต้องโทษหรือหลังพ้นโทษให้สามารถนำทักษะ ความรู้ที่ได้ไปประกอบอาชีพเองหรือในสถานประกอบการ มีรายได้เลี้ยงดูครอบครัวได้ภายหลังกลับสู่สังคม นางสาววรชนาธิป กล่าวว่า จากสถิติผู้ต้องขังกว่า 270,000 คน จากทัณฑสถาน 143 แห่งทั่วประเทศอยู่ในวัยทำงานมากกว่า 240,000 คน สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมจะร่วมกับกรมราชทัณฑ์ สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย และสถาบันการเงิน ได้แก่ ธนาคารออมสินในการพัฒนา ฝึกอบรม พร้อมรับการรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ เพื่อยกระดับศักยภาพของผู้ต้องขัง เพื่อเป็นส่วนสำคัญในการเตรียมความพร้อมต่อการประกอบอาชีพหลังพ้นโทษ เพื่อสร้างรายได้ในอนาคต อันจะส่งผลให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และป้องกันการกระทำความผิดซ้ำอีกทางหนึ่ง และใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างปกติสุข ทั้งนี้ ที่ผ่านมาสถาบัน ได้ทำงานร่วมกับกรมราชทัณฑ์และครัวการบินไทย ในการพัฒนาผู้ต้องขังหญิงจากทัณฑสถานหญิง ให้มีความรู้ และทักษะในอาชีพผู้ประกอบอาหารไทย พร้อมได้รับการรับรองรับคุณวุฒิวิชาชีพแล้วกว่า 500 คน โดยสามารถนำไปประกอบอาชีพได้หลังพ้นโทษ และประพฤติตนเป็นพลเมืองที่ดีของสังคม สำหรับ แนวทางความร่วมมือในการพัฒนาผู้ต้องราชทัณฑ์ด้วยระบบคุณวุฒิวิชาชีพเพื่อการมีงานทำ จะเริ่มต้นจากการคัดเลือกอาชีพนำร่องทั้งอาชีพอิสระ และความต้องการของสถานประกอบการ พร้อมมีการเติมเต็มทักษะด้วยการฝึกอบรม และพัฒนาศักยภาพของผู้ต้องขัง ด้วยการสนับสนุนจากธนาคารออมสินและสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย รวมถึงให้การรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ จากสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เมื่อพ้นโทษ ผู้ต้องขังที่ได้รับคุณวุฒิวิชาชีพ จะสามารถนำทักษะและคุณวุฒิวิชาชีพไปประกอบอาชีพได้ทั้งอาชีพอิสระ และทำงานในสถานประกอบการที่ให้การยอมรับที่ต้องการจ้างแรงงานที่เป็นผู้พ้นโทษ หรือกลับสู่โลกของการศึกษาได้ โดยสถานประกอบการเหล่านั้นยังสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย โดยมีศูนย์ CARE หรือศูนย์ประสานงานส่งเสริมการมีงานทำ จากกรมราชทัณฑ์ ติดตามผลและให้คำแนะนำกับผู้ต้องขังที่พ้นโทษและไปทำงานในที่ต่างๆ เพื่อให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมตอบโจทย์การส่งเสริมให้โอกาสผู้ก้าวพลาด ได้กลับสู่สังคมและใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพในอนาคตต่อไป