ข่าวประชาสัมพันธ์

  • สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ถกสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 2 สุพรรณฯ เทียบสมรรถนะเพื่อการยอมรับมาตรฐานฯ และนำไปสู่การรับคุณวุฒิวิชาชีพ

    24.03.2566
    11,009 View

    สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ถกสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 2 สุพรรณฯ เทียบสมรรถนะเพื่อการยอมรับมาตรฐานฯ และนำไปสู่การรับคุณวุฒิวิชาชีพ นายสุรพล พลอยสุข ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมนางสาวจุลลดา มีจุล รองผู้อำนวยการสถาบันฯ นำคณะประชุมหารือร่วมกับสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 2 สุพรรณบุรี นำโดยนายสมศักดิ์ สุวัฒฑโก ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 2 สุพรรณบุรี เพื่อศึกษารายการสมรรถนะของอาชีพนำร่อง ในการยอมรับมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติเป็นมาตรฐานอาชีพเพื่อให้คุณวุฒิวิชาชีพ เบื้องต้นแบ่งกลุ่มย่อยเทียบมาตรฐานอาชีพกับมาตรฐานฝีมือแรงงาน เป็นรายสมรรถนะ นำร่องแล้ว 16 อาชีพ ประกอบด้วย อาชีพช่างไฟฟ้าภายในอาคาร ช่างเครื่องปรับอากาศในบ้านและการพาณิชย์ขนาดเล็ก ช่างเชื่อมอาร์กโลหะด้วยมือ ช่างเชื่อมแม็ก ช่างเชื่อมทิก ช่างบำรุงรักษารถยนต์ ช่างซ่อมรถยนต์ ช่างก่ออิฐ ช่างปูกระเบื้องผนังและพื้น พนักงานประมวลผลคำ พนักงานการใช้คอมพิวเตอร์ (ตารางทำงาน) ช่างซ่อมไมโครคอมพิวเตอร์ พนักงานการใช้คอมพิวเตอร์ (การนำเสนอผลงาน) ช่างเขียนแบบเครื่องกลด้วยคอมพิวเตอร์ CAD อาชีพช่างควบคุมด้วยระบบโปรแกรมเมเบิ้ลลอจิกคอนโทรลเลอร์ และอาชีพช่างติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ นายสุรพล ย้ำว่าการยอมรับมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ กับมาตรฐานอาชีพเป็นไปเพื่อสร้างการยอมรับในมาตรฐานของทั้ง 2 หน่วยงาน และนำไปสู่การให้การรับรองกับผู้ที่การฝึกอบรม ทดสอบโดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงานเท่านั้น เมื่อมีการประกาศบังคับใช้ก็จะทำให้ผู้ที่ผ่านการทดสอบได้การรับรองตามมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ จากกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน สามารถมาขอรับประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพได้ในระดับต่างๆ ตามกรอบคุณวุฒิวิชาชีพ ซึ่งเทียบเท่ากับคุณวุฒิทางการศึกษาภายใต้การเทียบเคียงกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ ที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติไปแล้วตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคม 2559 ซึ่งแนวทางนี้จะเป็นแนวทางสำคัญที่ทำให้กำลังแรงงานไทยมีคุณวุฒิที่สูงขึ้น เป็นกำลังแรงงานที่มีคุณภาพตามนโยบายของรัฐบาล โดยหลังจากนี้คณะทำงานร่วมระหว่างสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ และกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จะได้ประชุมเพื่อให้การรับรองการยอมรับมาตรฐานฝีมือแรงงานฯ กับมาตรฐานอาชีพ ก่อนดำเนินการประกาศบังคับใช้ต่อไป

  • สคช. คว้ารางวัล “องค์กรคุณธรรมต้นแบบ” ของหน่วยงานในสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี

    24.03.2566
    10,292 View

    สคช. คว้ารางวัล “องค์กรคุณธรรมต้นแบบ” ของหน่วยงานในสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. คว้ารางวัล “องค์กรคุณธรรมต้นแบบ” จากสำนักนายกรัฐมนตรี จากการประเมินองค์กรคุณธรรมในระดับส่งเสริมคุณธรรม ระดับคุณธรรม และระดับคุณธรรมต้นแบบ โดยนายจรณวรรฒ ทองหลอม ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ เป็นตัวแทนรับมอบเกียรติบัตร จากนางสาวอรนุช ศรีนนท์ รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ สคช. เป็น 1 ใน 16 หน่วยงานในสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ได้รางวัลองค์กรคุณธรรมต้นแบบ ที่ผ่านมา สคช. ดำเนินงานตามนโยบายคุณธรรมและความโปร่งใส ในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ สามารถตรวจสอบได้ พร้อมเป็นต้นแบบองค์กรคุณธรรม ขยายผลไปยังองค์กร เครือข่ายความร่วมมือ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อยึดถือสิ่งเหล่านี้เป็นหลักในการทำงานต่อไป สำหรับการมอบรางวัลดังกล่าว จัดขึ้นในการประชุมคณะอนุกรรมการส่งเสริมคุณธรรมระดับกระทรวง (สำนักนายกรัฐมนตรี) ครั้งที่ 1/2566 ณ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเป็นการส่งเสริมให้คนในองค์กรมีทัศนคติ วิธีคิด และการประพฤติปฏิบัติที่สะท้อนการมีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่ดีเหมาะกับสังคมไทยมากขึ้น

  • สคช. ร่วมขยายฐานการรับรู้ การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เสริมทัพด้วยมาตรฐานอาชีพเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลภาครัฐ ยกระดับความเชื่อมั่นตามมาตรฐานสากล

    22.03.2566
    9,989 View

    สคช. ร่วมขยายฐานการรับรู้ การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เสริมทัพด้วยมาตรฐานอาชีพเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลภาครัฐ ยกระดับความเชื่อมั่นตามมาตรฐานสากล นายสุรพล พลอยสุข ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ร่วมงานสัมมนา PDPA Going Forward ตอกย้ำการเป็นองค์กรที่มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดโดยมี นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมด้วยผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐและเอกชน รวมทั้งนักวิชาการเข้าร่วม พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า งานครั้งนี้มีเป้าหมายให้ทุกภาคส่วนตระหนักรู้ถึงความสำคัญเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลร่วมกัน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างเครือข่ายความร่วมมือที่สำคัญในการขับเคลื่อนการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศให้มีความก้าวหน้าตามมาตรฐานสากล การขับเคลื่อนการปฏิบัติตามกฎหมายฉบับนี้ เพื่อให้ประชาชนทุกคนในสังคมไทย รวมถึงนานาอารยประเทศเกิดความเชื่อมั่นและยอมรับในมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของไทย ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืนต่อไป นายสุรพล กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ในการร่วมกันพัฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลภาครัฐ กับสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ สพร. และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ สคส. มาแล้ว ซึ่ง สคช. ได้มีการส่งเสริมสนับสนุนการจัดทำมาตรฐานอาชีพ เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลภาครัฐ และเครื่องมือในการประเมินสมรรถนะ พร้อมร่วมจัดทำหลักสูตรเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลภาครัฐ (Government Data Protection Officer : GDPO) ที่ยึดโยงกับมาตรฐานอาชีพ รวมถึงการให้คุณวุฒิวิชาชีพแก่ผู้ผ่านการอบรมและทดสอบตามเกณฑ์ที่หลักสูตรกำหนด ยกระดับสมรรถนะเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลภาครัฐของประเทศไทย สู่การเป็นต้นแบบมืออาชีพที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ด้วย

  • สคช.- IOM- มยช. ผนึกกำลัง สร้างความรู้ ความเข้าใจให้ผู้ประกอบการ ต่อยอดจัดทำหลักสูตรการฝึกอบรมให้สอดคล้องกับมาตรฐานอาชีพ

    21.03.2566
    7,605 View

    สคช.- IOM- มยช. ผนึกกำลัง สร้างความรู้ ความเข้าใจให้ผู้ประกอบการ ต่อยอดจัดทำหลักสูตรการฝึกอบรมให้สอดคล้องกับมาตรฐานอาชีพ สคช. ร่วมกับองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (International Organization for Migration : IOM) และมูลนิธิเพื่อเยาวชนชนบท (มยช.) จัดงานสัมมนาเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจผู้ประกอบการในการจัดทำหลักสูตรให้สอดคล้องกับมาตรฐานอาชีพ โดยมี นางสาวจุลลดา มีจุล รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เป็นประธานเปิดงาน ท่ามกลางผู้บริหาร พนักงานทรัพยากรบุคคล ครูฝึกในสถานประกอบการ และพนักงานที่เกี่ยวข้องกับการฝึกอบรมบุคลากรในสถานประกอบการเข้าร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกว่า 100 คน จากบริษัทกว่า 30 แห่ง ทั้งนี้งานสัมมนาครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อสร้างความเข้าใจให้บริษัทและหน่วยงานที่จัดการฝึกอบรมให้กับพนักงานทั้งชาวไทยและแรงงานข้ามชาติ ได้รับทราบถึงแนวทางการนำมาตรฐานอาชีพไปใช้ปรับหรือจัดทำหลักสูตร เพื่อให้พนักงานได้รับหนังสือรับรองสมรรถนะหรือคุณวุฒิวิชาชีพหลังจากที่เข้ารับการฝึกอบรม เมื่อพนักงานมีทักษะที่พัฒนาได้ วัดได้อย่างเป็นระบบ สถานประกอบการก็จะมีผลิตภาพมากขึ้น คนทำงานเองก็จะมีเครื่องมือพิสูจน์ความสามารถ สามารถใช้ต่อยอดสร้างความก้าวหน้าในอาชีพได้ นางสาวจุลลดา กล่าวว่า สคช. IOM และ มยช. ตระหนักถึงความสำคัญของสถานประกอบการ ในฐานะหน่วยพัฒนาทักษะคนทำงาน ด้วยการจัดฝึกอบรมพนักงาน upskill และ reskill เพื่อให้พนักงานมีทักษะใหม่หรือทักษะที่เพิ่มเติม รวมถึงตระหนักถึงความสำคัญมูลนิธิ องค์กรภาคประชาสังคม และสมาคมวิชาชีพต่าง ๆ ที่จัดฝึกอบรมให้กับบุคลากรที่อาจจะทำงานอยู่ในบริษัทขนาดเล็ก ที่ไม่ได้จัดการฝึกอบรมเอง หรือจัดฝึกอบรมให้กับผู้ประกอบอาชีพอิสระ ทั้งนี้ผู้ที่เป็นแรงงานข้ามชาติหรือแรงงานต่างด้าว ก็จะมีโอกาสในการพัฒนาทักษะ และเข้าถึงการฝึกอบรมอย่างมีมาตรฐาน และรับรองคุณวุฒิวิชาชีพให้กับกำลังคนทั้งชาวไทยและแรงงานข้ามชาติต่อไป

  • สคช. ร่วมกับสถาบันฮาลาล ม.อ. เดินหน้าพัฒนากำลังคนด้านฮาลาล สร้างโอกาสและความท้าทายในตลาดโลกด้วยมาตรฐานอาชีพ

    15.03.2566
    7,836 View

    สคช. ร่วมกับสถาบันฮาลาล ม.อ. เดินหน้าพัฒนากำลังคนด้านฮาลาล สร้างโอกาสและความท้าทายในตลาดโลกด้วยมาตรฐานอาชีพ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. นำโดยนางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ร่วมกับสถาบันฮาลาล มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จัดกิจกรรม “ต่อยอดอาชีพด้วยฮาลาล สร้างโอกาสธุรกิจฮาลาลสู่ระหว่างประเทศ” เพื่อยกระดับอาหารฮาลาลของไทย ให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล โดยมี ผศ.ดร.นิวัติ แก้วประดับ อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วยนายมายิด บิน มูฮัมหมัด อัล-ฎออียาน ที่ปรึกษาฝ่ายศาสนาอิสลามประจำสถานเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ประจำประเทศไทย, นายประสาร บุญส่ง รองเลขาธิการคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย, นายฐานิศร์ ณ สงขลา อดีตเอกอัครราชทูต ณ กรุงปานามา ประเทศบาห์เรน, นายดำรง พุฒตาล อดีตสมาชิกวุฒิสภา, ผศ.ดร.อัสมัน แตอาลี ผู้อำนวยการสถาบันฮาลาล มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, นางสาวภัสสรา อมรพิมลธรรม ผู้จัดการแผนกกลยุทธ์การตลาดสาขา ศูนย์การค้าเซ็นทรัล หาดใหญ่ และบุคลากรจากภาครัฐและเอกชน เข้าร่วมงาน นางสาววรชนาธิป กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นประเทศผู้ผลิตและส่งออกอาหารฮาลาลรายใหญ่อันดับที่ 11 ของโลก จากการส่งออกวัตถุดิบ ข้าว แป้งมันสำปะหลัง น้ำตาลทราย ผลไม้สด ผัก ผลไม้กระป๋องและแปรรูป เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ สินค้าประมง เนื้อไก่ และอาหารทะเลแปรรูป รวมมูลค่าส่งออกราว 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 2.44 ของตลาดโลก ประกอบกับการที่ประเทศไทยฟื้นความสัมพันธ์กับประเทศซาอุดีอาระเบีย ส่งผลให้ปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวจากซาอุฯ เดินทางเข้าไทยกว่า 7 หมื่นคน ผู้ประกอบอาหารฮาลาลจึงเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างมูลค่า จัดการความปลอดภัยตามกระบวนการผลิตอาหารฮาลาลได้ถูกต้องตามหลักศาสนา และเป็นไปตามมาตรฐานอาชีพ ซึ่งสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ได้ร่วมมือกับสถาบันฮาลาล มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ส่งเสริมต่อยอดให้ผู้สำเร็จหลักสูตรการจัดการระบบกิจการฮาลาล ให้ได้การรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ เพื่อยืนยันความสามารถในการทำงานทั้งในสาขาวิชาชีพการผลิตอาหารและเครื่องดื่ม ในงานควบคุมความปลอดภัยในอาหาร และการปฏิบัติตามหลักศาสนาอิสลามได้อย่างถูกต้อง ซึ่งจะเกิดประโยชน์เป็นอย่างยิ่ง ต่ออุตสาหกรรมการผลิตอาหารและเครื่องดื่มของไทย สร้างความเชื่อมั่นและยอมรับของผู้บริโภคทั้งชาวไทย และพี่น้องมุสลิมทั่วโลกด้วย ซึ่งมีผู้ประกอบการ นักศึกษาในจังหวัดชายแดนใต้ ผ่านการอบรมและเข้าสู่การประเมินเพื่อรับคุณวุฒิวิชาชีพ ได้เข้าทำงานเป็นเชฟในโรงแรม และให้บริการร้านอาหารมาแล้วหลายราย ผศ. ดร.อัสมัน แตอาลี ผู้อำนวยการสถาบันฮาลาล มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวว่าสถาบันฮาลาล ร่วมกับสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ได้มีการจัดทำหลักสูตร Non-degree การจัดการระบบกิจการฮาลาล รุ่นที่ 3 โดยการเทียบเคียงหลักสูตร การจัดการระบบกิจการฮาลาล (Halal System Management) ประเมินความสอดคล้องตามมาตรฐานอาชีพ ในสาขาวิชาชีพการผลิตอาหารและเครื่องดื่ม อาชีพผู้ควบคุมความปลอดภัยอาหาร ระดับ 4 มีผู้สำเร็จการศึกษาแล้ว 31 ราย ซึ่งคนแหล่านี้เป็นบุคลากรที่มั่นใจได้ว่าเป็นผู้มีความรู้ความสามารถด้านอาหารฮาลาลในทุกมิติ และดำเนินงานด้านกิจการอาหารฮาลาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้าน ผศ. ดร.นิวัติ แก้วประดับ รักษาการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวว่า มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ให้ความสำคัญในการพัฒนากำลังคนด้านฮาลาลและให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพื่อผลักดันให้หลักสูตรการจัดการระบบมาตรฐานเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างความเชื่อมั่นในระบบการรับรองมาตรฐานฮาลาลของประเทศต่อไป

  • สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ร่วมในงานครบรอบ 31 ปี สถาปนากรมพัฒนาฝีมือแรงงาน

    15.03.2566
    8,182 View

    สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ร่วมในงานครบรอบ 31 ปี สถาปนากรมพัฒนาฝีมือแรงงาน

  • ศิริราช พบ สคช. สนใจแนวทางการจัดทำมาตรฐานอาชีพ พร้อมผลักดันบุคลากรให้ได้การรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ

    10.03.2566
    8,889 View

    ศิริราช พบ สคช. สนใจแนวทางการจัดทำมาตรฐานอาชีพ พร้อมผลักดันบุคลากรให้ได้การรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมคณะผู้บริหารสถาบันฯ ประชุมหารือร่วมกับนายแพทย์ชนินทร์ ลิ่มวงศ์ รองคณบดีฝ่ายทรัพยากรบุคคล พร้อมด้วยผู้บริหารด้านทรัพยากรบุคคล โรงพยาบาลศิริราช ซึ่งให้ความสนใจแนวทางการจัดทำมาตรฐานอาชีพของสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ซึ่งนางสาววรชนาธิป ได้อธิบายถึงกระบวนการต่างๆ ก่อนจะเกิดเป็นมาตรฐานอาชีพที่สามารถเป็นเครื่องมือวัดสมรรถนะต่างๆ ในการทำงาน จนนำไปสู่การทดสอบ ประเมิน เพื่อให้การรับรองด้วยคุณวุฒิวิชาชีพ ซึ่งโรงพยาบาลศิริราชได้เตรียมศึกษาเพื่อจับคู่งานตำแหน่งภายในกับมาตรฐานอาชีพ เพื่อนำไปสู่การวางแผนดำเนินการระยะต่อไป นายแพทย์ชนินทร์ ระบุว่าศิริราชเตรียมดำเนินโครงการ ศิริราช Academy จัดการอบรม พัฒนาบุคลากรภายในองค์กร รวมถึงจะมีการเปิดรับบุคคลภายนอกในอนาคต หากสามารถดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรฐานอาชีพและนำไปสู่การรับรองคุณวุฒิวิชาชีพได้ก็จะถือเป็นประโยชน์อย่างมาก นอกจากนี้จะผลักดันให้บุคลากรของศิริราชให้เข้าใช้บริการสร้างแฟ้มประวัติส่วนบุคคลผ่านระบบ E-Portfolio ซึ่งจะช่วยเปิดโอกาสในการพัฒนาตัวเองจากการฝึกอบรม รวมถึงเป็นช่องทางในการสรรหาบุคลากรเข้าทำงานได้จากแพลตฟอร์มนี้ นอกจากนี้ยังให้ความสนใจในเรื่องการขึ้นเป็นองค์กรที่มีหน้าที่รับรองสมรรถนะของบุคคลตามาตรฐานอาชีพในสาขาอาชีพที่เกี่ยวข้องด้วย

  • สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ตั้งเป้า ม.กาฬสินธุ์ เป็นสถานศึกษาต้นแบบ ในการพัฒนาผู้ประกอบอาชีพในท้องถิ่นให้มีคุณภาพ ด้วยคุณวุฒิวิชาชีพ

    09.03.2566
    8,237 View

    สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ตั้งเป้า ม.กาฬสินธุ์ เป็นสถานศึกษาต้นแบบ ในการพัฒนาผู้ประกอบอาชีพในท้องถิ่นให้มีคุณภาพ ด้วยคุณวุฒิวิชาชีพ นายสุรพล พลอยสุข ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ มอบหมายให้ นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ประชุมร่วมกับ รองศาสตราจารย์จิระพันธ์ ห้วยแสน อธิการบดีมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ พร้อมด้วย ผศ.ดร.วิชยุทธ จันทะรี รองอธิการบดี และคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ เพื่อหารือแนวทางการพัฒนาศักยภาพนักศึกษา และกำลังคนในท้องถิ่น ด้วยการรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ เตรียมผลักดันเป็นองค์กรที่มีหน้าที่รับรองสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ และศูนย์ฝึกอบรม เพื่อเป็นต้นแบบมหาวิทยาลัย ที่ยกระดับท้องถิ่นด้วยมาตรฐานอาชีพ ตามแนวคิดการเพิ่มคุณค่าพลเมืองท้องถิ่น เพื่อความยั่งยืน นางสาววรชนาธิป กล่าวว่า มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ เป็นสถานศึกษาที่มีความพร้อม ในการเป็นต้นแบบของการเชื่อมโลกของการศึกษา กับโลกของอาชีพเข้าด้วยกัน อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งการได้รับการส่งเสริมจากบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ และบริบทของพื้นที่ ที่มีความหลากหลายทางอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นอาชีพภาคการเกษตร อุตสาหกรรม เทคโนโลยีดิจิทัล และการท่องเที่ยว ประกอบกับความร่วมมือกับหน่วยงานในท้องถิ่น นำไปสู่พัฒนากำลังคนในอาชีพ ด้วยมาตรฐานอาชีพได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันก็จะสามารถใช้ประโยชน์จากคุณวุฒิวิชาชีพในการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับคนในพื้นที่ เพิ่มรายได้ให้เศรษฐกิจฐานรากในชุมชนให้มีความเข้มแข็งขึ้นด้วย ผศ.ดร.วิชยุทธ กล่าวว่า ม.กาฬสินธุ์ จะเดินหน้าขับเคลื่อนสู่การเป็นองค์กรที่มีหน้าที่รับรองสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ พร้อมบูรณาการหลักสูตรการเรียนการสอน ให้สอดคล้องกับมาตรฐานอาชีพ พร้อมผลักดันนักศึกษา ที่ผ่านหลักสูตรจากมหาวิทยาลัย ได้รับการรับรองคุณวุฒิวิชาชีพไปพร้อมกัน เพื่อเป็นการยืนยันว่า จะสามารถทำงานในสถานประกอบการ และประกอบอาชีพได้อย่างมีประสิทธิภาพในอนาคต ทั้งนี้จะเริ่มนำร่อง 1 คณะ 1 หลักสูตรเพื่อเป็นต้นแบบการเทียบเคียงหลักสูตรของมหาวิทยาลัย ก่อนขยายไปใช้กับหลักสูตรการเรียนการสอนในหลักสูตรอื่นๆ ต่อไป ก่อนหน้านี้ มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ ได้มีร่วมมือ กับสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ด้วยการเชื่อมโยงข้อมูลและแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อการผลิตและพัฒนากำลังคนของประเทศไทยภายใต้ระบบ E-Workforce Ecosystem Platform เพื่อแลกเปลี่ยนฐานข้อมูลที่สามารถแสดงให้เห็น ภาพรวมของกำลังแรงงาน หรือ Labor Market Information อันจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาด้านแรงงานของประเทศไทย พร้อมผลักดันนักศึกษาและบุคลากร เข้าใช้งานระบบแฟ้มสะสมงานอิเล็กทรอนิกส์ (E-Portfolio) เพื่อเพิ่มช่องทาง สร้างโอกาส ในการหางานทำให้กับนักศึกษาได้อย่างมีระบบ

  • สคช. ร่วมน้อมรำลึก "พระบิดาแห่งมาตรฐานการช่างไทย"

    09.03.2566
    8,483 View

    นายสุรพล พลอยสุข ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ นำคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ร่วมถวายเครื่องราชสักการะแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร “พระบิดาแห่งมาตรฐานการช่างไทย” โดยมีนายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นผู้แทน นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธาน และคณะผู้บริหาร ข้าราชการ ตัวแทนหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน เข้าร่วมพิธีวางพานพุ่มสักการะ พร้อมทั้ง เยี่ยมชมนิทรรศการที่เผยแพร่ข้อมูลภารกิจมาตรฐานฝีมือแรงงานที่จัดแสดงภายในงาน เพื่อเป็นการน้อมรำลึกในพระปรีชาสามารถด้านงานช่าง ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ กระทั่งเสด็จขึ้นครองราชย์สมบัติแล้ว ก็ยังคงสนพระราชหฤทัยในงานช่างอย่างสม่ำเสมอ และทรงใช้ทักษะและความถนัด ในการสร้างสิ่งประดิษฐ์จำนวนมาก นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างความเข้าใจให้ภาครัฐและเอกชน ได้ตระหนักและเห็นถึงความสำคัญของมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ โดยกำหนดให้วันที่ 2 มีนาคม ของทุกปี เป็น “วันมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ”

  • ขอเชิญผู้ที่สนใจเข้าร่วมอบรมหลักสูตรมาตรฐานการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่สอบ

    01.03.2566
    8,949 View

    ขอเชิญผู้ที่สนใจเข้าร่วมอบรมหลักสูตรมาตรฐานการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่สอบ -สาขาวิชาชีพธุรกิจบริการ อาชีพแม่บ้าน ระดับ 1 -สาขาการจัดการท่องเที่ยวในท้องถิ่น อาชีพนักเล่าเรื่องท้องถิ่น ระดับ 2 สมัครเข้าร่วมอบรม ได้ตั้งแต่วันนี้ – 10 มีนาคม 2566 สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ส่วนงานประกันคุณภาพ 063-3733917

  • สคช. ตอกย้ำองค์กรจริยธรรม โปร่งใส ประกาศต่อต้านการทุจริต ประพฤติมิชอบ และไม่รับของขวัญ (No Gift Policy)

    24.02.2566
    7,461 View

    สคช. ตอกย้ำองค์กรจริยธรรม โปร่งใส ประกาศต่อต้านการทุจริต ประพฤติมิชอบ และไม่รับของขวัญ (No Gift Policy) นายสุรพล พลอยสุข ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เป็นประธาน เป็นการฝึกอบรม การต่อต้านการทุจริต ประพฤติมิชอบ และไม่รับของขวัญ (No Gift Policy) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ภายใต้กิจกรรมส่งเสริมความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (ITA) โครงการพัฒนาการดำเนินงานและศักยภาพบุคลากร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 เพื่อรณรงค์ส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่สถาบันมีวินัย พฤติกรรม ตามหลักคุณธรรม และจริยธรรม มีเข้าใจนโยบายการต่อต้านการทุจริต ประพฤติมิชอบ และการไม่รับของขวัญ สามารถแยกแยะพฤติกรรมการปฏิบัติงานที่สุ่มเสี่ยง รวมถึงสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของสถาบัน เพื่อเกิดเป็นเครือข่ายความร่วมมือ บนพื้นฐานของคุณธรรม และจริยธรรม โดยมีนายวรพงศ์ แสงกล้าหาญ จากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เป็นวิทยากร นายสุรพล กล่าวว่า สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เป็นหน่วยงานที่มีความพร้อมและเหมาะสม ที่จะต่อต้านการทุจริต และประพฤติมิชอบ ในทุกรูปแบบ ซึ่งไม่เพียงจะส่งเสริมให้เกิดขึ้นในองค์กรเท่านั้น แต่ยังมุ่งหวังให้ผู้มีส่วนได้เสีย และคนไทย ในทุกอาชีพ ได้เห็นความสำคัญของปัญหาการทุจริต ที่นับเป็นอาชญากรรมประเภทหนึ่ง ที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาด้านต่างๆ พร้อมร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการต่อต้านการทุจริต ประพฤติมิชอบ ไปพร้อมกัน สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ได้มีการจัดกิจกรรมเพื่อต่อต้านการทุจริตทุกรูปแบบมาอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2565 ได้รับการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (ITA) อยู่ในระดับ AA ได้ 97.10 คะแนน จากคะแนนเต็ม 100 คะแนน โดยได้มีคะแนนในส่วนของการเปิดเผยข้อมูล และการป้องกันการทุจริต 100 คะแนนเต็ม จัดอยู่ในลำดับที่ 2 ของหน่วยงานภาครัฐในสังกัดนายกรัฐมนตรี และอยู่ในลำดับที่ 5 จาก 57 หน่วยงานองค์การมหาชนทั้งหมด สำหรับปี 2566 คงมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการต่อต้าน และป้องกันการทุจริต เพื่อเป็นองค์กรที่โปร่งใสต่อไป

  • สคช. เตรียมดัน นักเรียน โรงเรียนนายเรืออากาศ ล็อกอินใช้งาน E-Potfolio พร้อมยกระดับทหารยุคใหม่ด้วยทักษะดิจิทัล

    23.02.2566
    7,585 View

    สคช. เตรียมดัน นักเรียน โรงเรียนนายเรืออากาศ ล็อกอินใช้งาน E-Potfolio พร้อมยกระดับทหารยุคใหม่ด้วยทักษะดิจิทัล นางสาวจุลลดา มีจุล รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พบ พล.อ.ต.ศ.ดร.ประสงค์ ประณีตพลกรัง ผู้อำนวยการกองการศึกษา โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช เพื่อหารือแนวการพัฒนาบุคลากรและนักเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช ด้วยคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมผลักดันให้เข้าใช้งานระบบแฟ้มสะสมผลงานอิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-Portfolio เพื่อนำไปสู่การเก็บประวัติและข้อมูลของกำลังคนในสังกัด อย่างเป็นระบบ เพื่อนำไปสู่การส่งเสริมให้มีการประกอบอาชีพ สร้างรายได้ ภายหลังปลดประจำการ รวมถึงเป็นฐานข้อมูลวิเคราะกำลังแรงงานของประเทศได้ ในการหารือครั้งนี้ ได้มีแนวทางการทำงานร่วมกันในหลายมิติ ทั้งแนวทางการพัฒนาทหารยุคใหม่ ให้มีความรู้ และสมรรถนะด้านดิจิทัล ซึ่งถือเป็นสิ่งที่จำเป็นกับนักศึกษาและบุคลากรทุกระดับ พร้อมผลักดันให้นักเรียนและบุคลากรโรงเรียนนายเรืออากาศ และสถาบันวิชาการป้องกันประเทศ กองบัญชาการกองทัพไทย เข้าใช้งานระบบ E-Portfolio เพื่อประโยชน์ และเกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต การส่งเสริมให้มีการอบรมด้านดิจิทัล และหลักสูตรอาชีพเสริมอื่นๆ ที่จะช่วยสร้างรายได้ ให้กับทหารปลอดประจำการ เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป ที่ผ่านมา สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ได้จัดฝึกอบรมการพัฒนาสมรรถนะการใช้ดิจิทัล (Digital Literacy) ให้กับนักเรียนเตรียมทหาร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ เพื่อพัฒนาทักษะด้านความเข้าใจและใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมาแล้ว ไม่เพียงแต่สร้างความตระหนักรู้ปรับตัวให้รู้เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีดิจิทัล ยังเป็นการยกระดับขีดความสามารถด้านดิจิทัลของนักเรียนเตรียมทหารให้ได้ตามมาตรฐานสากล และรองรับการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัลต่อไป

  • นายกฯ ย้ำ สคช. ต้องทำให้คนไทยมีมาตรฐานอาชีพ

    23.02.2566
    7,670 View

    นายกฯ ย้ำ สคช. ต้องทำให้คนไทยมีมาตรฐานอาชีพ นายสุรพล พลอยสุข ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ร่วมให้การต้อนรับ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งเดินทางเป็นประธานในงานมหกรรมยางพาราและพืชเศรษฐกิจ EEC 2023 ร่วมกับพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และนายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งจัดโดยสมาคมนักวิชาการถุงมือยาง ณ ตลาดกลางยางพาราชุมแสง อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง พลเอกประยุทธ์ ย้ำระหว่างเยี่ยมชมนิทรรศการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพว่า สคช. ต้องทำให้คนไทยมีมาตรฐานอาชีพ หากใครสอบไม่ผ่านก็ต้องพัฒนาจัดฝึกอบรมให้ได้การรับรองตามมาตรฐานอาชีพด้วย ขณะที่การผลิตยางก็ต้องทำให้สากลให้การยอมรับ มีกระบวนการพิสูจน์มาตรฐานผลิตภัณฑ์เพื่อให้ทั่วโลกมั่นใจเชื่อมั่นในคุณภาพยางพาราไทย ก็จะทำให้มูลค่าราคายางเพิ่มสูงขึ้น คุณภาพชีวิตของเกษตรกรผู้ปลูกยางก็จะดีขึ้นไปด้วย ทั้งนี้สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพได้จัดทำมาตรฐานอาชีพในสาขาเพาะปลูกพื้นเศรษฐกิจ (ยางพารา) ทั้งในอาชีพผู้ปฏิบัติงานด้านการจัดการปุ๋ยยางพารา ด้านการจัดทำแปลง การปลูกสร้างสวนยางพารา การแปรรูปผลผลิตยางพารา และการจัดการสวนยางพาราอย่างยั่งยืน ซึ่งมีเกษตรกรผู้ปลูกยางพาราที่ผ่านการประเมินสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพได้การรับรองคุณวุฒิวิชาชีพจำนวน 8,919 คน ส่งผลให้ผู้ปลูกมีสมรรถนะในการผลิตน้ำยางที่ได้คุณภาพตามมาตรฐานของ FSC (Forest Stewardship Council) ซึ่งเป็นมาตรฐานที่นานาชาตินำมาใช้กับไม้และป่าไม้ โดยสหภาพยุโรป หรือ อียู, ประเทศญี่ปุ่น และอีกหลายประเทศประกาศว่า จะไม่รับซื้อไม้ ผลิตภัณฑ์จากไม้ยางพารา รวมทั้งผลิตภัณฑ์แปรรูปจากยางพาราที่ไม่ได้มาตรฐาน FSC ขณะเดียวกันสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ยังคงผลักดันให้เกษตรกรผู้ปลูกยางพาราต้องได้การรับรองคุณวุฒิวิชาชีพเพื่อให้ได้มาตรฐานที่สากลให้การยอมรับ ซึ่งจะทำให้สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจมวลรวมของประเทศในการส่งออกยางพาราได้สูงขึ้นกว่า 5 แสนล้านบาทที่ดำเนินการได้ในปัจจุบันด้วย

  • สคช. พบ HRDK สาธารณรัฐเกาหลี ตอกย้ำความร่วมมือ พร้อมดันแรงงานไทย ที่ได้รับการรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ ไปทำงานที่เกาหลีใต้อย่างมีคุณภาพ

    22.02.2566
    8,383 View

    นายนคร ศิลปอาชา ประธานกรรมการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมด้วยนางสาวจุลลดา มีจุล รองผู้อำนวยการสถาบันฯ และนางสาวนฤมล พูลทรัพย์ ที่ปรึกษาสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ให้การต้อนรับ คณะผู้บริหารจาก Human Resources Service Development Korea (HRDK) สังกัดกระทรวงแรงงานและการจ้างงาน สาธารณรัฐเกาหลี นำโดย Prof. Dr. Uh Soo-bong, President เพื่อหารือแนวทางความร่วมมือ ระหว่างสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. กับ Human Resources Service Development Korea ในการพัฒนากำลังแรงงานร่วมกันในอนาคต นายนคร กล่าวว่า HRDK ถือเป็น partner ที่สำคัญของสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพมาตลอด โดยทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด ทั้งการพัฒนามาตรฐานอาชีพ ระบบการประเมิน ไปจนถึงการส่งเสริม และให้โอกาสแรงงานไทย ที่จะไปทำงานที่เกาหลีใต้ และแรงงานไทยที่กลับมา เป็นแรงงานคุณภาพที่ได้รับการยอมรับ ตามกรอบในการลงนามความร่วมมือ การร่วมกันยอมรับทักษะ และความสามารถ ผ่านระบบคุณวุฒิวิชาชีพ นางสาวจุลลดา กล่าวว่า ที่ผ่านมาทั้งสองหน่วยงาน ได้มีการร่วมกันทำจัดทำมาตรฐานอาชีพนักเขียนบทโทรทัศน์และภาพยนตร์ จากการที่เกาหลีถือเป็นหนึ่งในประเทศ ที่มีการพัฒนาอุตสาหกรรม creative content ที่ดีแห่งหนึ่งของโลก การนำมาตรฐานอาชีพ สาขานักเขียนบท มาปรับเป็นมาตรฐานอาชีพของไทย โดยมีวิทยากรจาก HRDK และ Korea Creative Content Agency (KOCCA) ซึ่งเป็นหน่วยงานสังกัดกระทรวงท่องเที่ยวและวัฒนธรรม สาธารณรัฐเกาหลี ที่มีบทบาทสำคัญในการฝึกอบรม และพัฒนาบุคลากรใน อุตสาหกรรมบันเทิงและสื่อไทยให้ก้าวไปสู่ระดับโลกได้ สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่ต้องการผลักดัน Soft Power ที่จะทำให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศอีกด้วย ไม่เพียงแต่อุตสาหกรรมบันเทิงเท่านั้น ปัจจุบัน สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ยังทำงานร่วมกับ HRDK ในการผลักดันให้ช่างก่อสร้างไทยที่ไปทำงานที่เกาหลีใต้ได้รับประกาศนียบัตรรับรองประสบการณ์จาก HRDK เมื่อเดินทางกลับสู่ประเทศไทย ก็จะขอรับคุณวุฒิวิชาชีพและสามารถประกอบอาชีพต่อเนื่องในประเทศได้ นางสาวนฤมล กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่มีโอกาสได้ต้อนรับคณะ HRDK เนื่องจากเป็นองค์กรที่มีโครงการมากมายภายใต้ความร่วมมือ ในการช่วยพัฒนาแรงงานไทยในเกาหลี อย่างไรก็ตามอยากให้ HRDK สนับสนุนให้คุณวุฒิวิชาชีพเป็นเกณฑ์หนึ่งในการคัดเลือกแรงงานไทยให้ไปทำงานที่เกาหลีใต้ Prof. Dr. Uh Soo-bong กล่าวว่า สาธารณรัฐเกาหลีใต้ ได้มีการจัดทำมาตรฐานอาชีพ กว่า 530 สาขาอาชีพ ทั้งนี้ รู้สึกยินดีที่จะมีการร่วมกันจัดสัมมนาเพื่อเสริมสร้างทักษะให้กับแรงงานไทย โดย HRDK จะเชิญผู้เชี่ยวชาญที่เหมาะสม เพื่อให้งานสัมมนาประสบความสำเร็จ ตอบโจทย์การพัฒนากำลังแรงงานร่วมกัน นอกจากนี้ยังพร้อมสนับสนุนแรงงานไทย ที่มีการรับรองด้วยคุณวุฒิวิชาชีพที่เทียบได้ในระดับสากล ไปทำงานที่สาธารณรัฐเกาหลีใต้ต่อไป

  • กรมประชาสัมพันธ์ เตรียมใช้มาตรฐานอาชีพ สาขาวิชาชีพธุรกิจโฆษณาประชาสัมพันธ์และสื่อสารมวลชน นำร่องบุคลากรในสังกัด

    21.02.2566
    7,163 View

    กรมประชาสัมพันธ์ เตรียมใช้มาตรฐานอาชีพ สาขาวิชาชีพธุรกิจโฆษณาประชาสัมพันธ์และสื่อสารมวลชน นำร่องบุคลากรในสังกัด นางสาวจุลลดา มีจุล รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ หารือร่วมกับ นางสาวสุภาพร ครุสารพิศิฐ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านวิชาการประชาสัมพันธ์ นางวนิดา คชเสนี ผู้เชี่ยวชาญด้านต่างประเทศ นางสาวปถมาภรณ์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ผู้อำนวยการสถาบันการประชาสัมพันธ์ พร้อมคณะ ถึงแนวทางการจัดทำมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ สาขาวิชาชีพธุรกิจโฆษณาประชาสัมพันธ์และสื่อสารมวลชน และเพื่อกำหนดคุณลักษณะและคุณภาพเพื่อให้เกิดมาตรฐานการประกอบอาชีพด้านการประชาสัมพันธ์และสื่อสารมวลชน และนำมาตรฐานมาเป็นกรอบในการวางแผนพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมของสถาบันการประชาสัมพันธ์ กรมประชาสัมพันธ์ เพื่อส่งเสริมให้การทำงานด้านการประชาสัมพันธ์และสื่อสารมวลชนมีคุณภาพมากขึ้น

  • ขยายเครือข่าย สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ จับมือ 4 องค์กร ร่วมพัฒนากำลังคนของประเทศด้วยแพลตฟอร์ม EWE

    20.02.2566
    8,967 View

    ขยายเครือข่าย สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ จับมือ 4 องค์กร ร่วมพัฒนากำลังคนของประเทศด้วยแพลตฟอร์ม EWE นายนคร ศิลปอาชา ประธานกรรมการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความเข้าใจความร่วมมือการเชื่อมโยงข้อมูลและแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อการผลิตและพัฒนากำลังคนของประเทศไทยภายใต้ระบบ E-Workforce Ecosystem Platform ระหว่าง สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. กับ มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์, สมาคมดิจิทัลเพื่อการศึกษาไทย, บริษัท จัดหางาน จ๊อบบีเคเค ดอท คอม จํากัด และบริษัท เอ็ดไวซอรี่ จำกัด โดยมีนายสุรพล พลอยสุข ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมด้วยรองศาสตราจารย์จิระพันธ์ ห้วยแสน อธิการบดีมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์, นายอัฐพล ไชยอนันต์ นายกสมาคมดิจิทัลเพื่อการศึกษาไทย, นายทัศไนย เหมือนเสน รองประธานกรรมการผู้จัดการ บริษัท จัดหางาน จ๊อบบีเคเค ดอท คอม จํากัด และนางสาวกุลนันท์ พันธุ์อนุกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็ดไวซอรี่ จำกัด เป็นผู้จรดปากกาลงนาม ท่ามกลางคณะผู้บริหารจากสถาบันฯ และผู้บริหารจาก 4 องค์กร ร่วมเป็นสักขีพยาน นายนคร กล่าวว่า ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีที่ทั้ง 4 หน่วยงาน จะได้มาร่วมกันสานต่อ การขับเคลื่อนการดำเนินงาน EWE Platform ร่วมกับ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ที่ก่อนหน้านี้ ได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือ ไปแล้วกว่า 50 หน่วยงาน เพื่อแลกเปลี่ยนฐานข้อมูลที่สามารถแสดงให้เห็น ภาพรวมของกำลังแรงงาน หรือ Labor Market Information อันจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาด้านแรงงานของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น การขาดแคลนแรงงาน การพัฒนาทักษะฝีมือในการทำงาน หรือการประกอบอาชีพ การเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว ทำให้กำลังแรงงาน สามารถใช้ประโยชน์สำหรับการพัฒนาตนเองในรูปแบบต่างๆ ส่งเสริมให้เกิดการพัฒนากำลังแรงงานได้อย่างตรงจุด นายสุรพล กล่าวว่า ภายใต้บันทึกความเข้าใจความร่วมมือ ทั้ง 4 หน่วยงาน จะมาช่วยเติมเต็ม การพัฒนากำลังแรงงานของประเทศ โดยประชาชนและกำลังคนในประเทศ สามารถเก็บข้อมูลวุฒิการศึกษา ผลงาน ประสบการณ์ทำงาน การฝึกอบรม การพัฒนาทักษะ แบบอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างเป็นระบบ พร้อมมีระบบช่วยสร้างเรซูเม่ ผ่าน E-portfolio สู่การมีงานทำ โดยสามารถเก็บสะสมสมสมรรถนะที่เกิดจากการเรียนรู้ การฝึกอบรมไว้ได้ที่ระบบสั่งสมสมรรถนะการเรียนรู้ (Digital Competency Bank) ซึ่งจะช่วยการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต อย่างไรก็ตาม หากเราต้องการพัฒนาตนเองสามารถค้นหารายชื่อหลักสูตร-หน่วยงานฝึกอบรมที่จะช่วย Up-skill Re-skill ได้ใน EWE platform ซึ่งในอนาคตจะมีระบบ E-Coupon ที่จะช่วยสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมอีกด้วย ขณะที่ผู้ประกอบการ ก็จะมีช่องทางให้หาคนมาทำงานได้ตรงตามความต้องการ รวมทั้งยังใช้ในการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลได้ด้วย E-Portfolio ของลูกจ้าง สามารถใช้ในการบริหารจัดการองค์ความรู้ให้กับบุคคลในองค์กรต่อไป อธิการบดีมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ กล่าวว่า นักเรียน นักศึกษา ถือเป็นบุคลากรที่สำคัญ ในการพัฒนาประเทศในอนาคต การเตรียมความพร้อมให้สามารถรับมือกับความเจริญก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีที่รวดเร็ว ทำให้มีช่องทาง สร้างโอกาส ในการหางานทำให้กับนักศึกษาได้อย่างมีระบบ เบื้องต้นมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ ได้มีการสนับสนุนให้นักศึกษาและบุคลากร เข้าใช้งานระบบแฟ้มสะสมงานอิเล็กทรอนิกส์ (E-Portfolio) ซึ่งมีผลการตอบรับเป็นอย่างดี นายกสมาคมดิจิทัลเพื่อการศึกษาไทย กล่าวว่า สมาคมฯ จะช่วยขับเคลื่อนและพัฒนากำลังคนให้มีการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องและตลอดชีวิต เพื่อให้มีทักษะพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงของโลก ผ่านหลักสูตรที่จะช่วยในการพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลที่เหมาะสมกับคนไทย นายทัศไนย กล่าวว่า จ๊อบบีเคเค อำนวยความสะดวก ให้ผู้ที่ต้องการจะฝากประวัติสมัครงาน โดยการเชื่อมโยงข้อมูลของ E-Portfolio กับเรซูเม่ของบริษัท จัดหางาน จ๊อบบีเคเค ดอท คอม เพื่อให้ผู้ใช้งาน สามารถสมัครงาน โดยไม่ต้องเสียเวลาในการกรอกข้อมูลใหม่อีกครั้ง นางสาวกุลนันท์ กล่าวว่า บริษัท เอ็ดไวซอรี่ จำกัด จะมีบทบาทสำคัญ ในการพัฒนาระบบ WE SPACE (Work and Education Space for All) ซึ่งเป็นเครื่องมือที่จะแนะแนวผ่านระบบ ค้นหาความชอบความสนใจ ความถนัด และออกแบบเส้นทางในอาชีพของตนเองได้ นำไปสู่การวางแผนอนาคตได้ตรงตามความต้องการของตนเอง และสอดคล้องกับความต้องการตลาดแรงงาน ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยมีกำลังแรงงานที่มีประสิทธิภาพในการพัฒนาประเทศต่อไป