ข่าวประชาสัมพันธ์

  • สคช. – DEPA หารือบูรณาการใช้ BlockChain ในระดับองค์กรภาครัฐ

    28.11.2565
    7,687 View

    นายสุรพล พลอยสุข ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมด้วยนางสาวจุลลดา มีจุล รองผู้อำนวยการสถาบันฯ พูดคุยหารือร่วมกับ ดร.ภาสกร ประถมบุตร รองผู้อำนวยการ กลุ่มงานโครงการพิเศษและศูนย์พัฒนาดิจิทัลและนวัตกรรม สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) ถึงแนวทางการบูรณาการเทคโนโลยี BlockChain กับการประยุกต์ใช้ในระดับองค์กรภาครัฐ ซึ่งเทคโนโลยี BlockChain จะเข้ามาใช้ในการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคล โดยการเข้ารหัสข้อมูลจะช่วยในการประมวลผลสามารถตรวจสอบและยืนยันได้ว่าข้อมูลที่ถูกบันทึกในระบบของแพลตฟอร์มเป็นข้อมูลจริง มีความถูกต้อง และน่าเชื่อถือ ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับระบบการตรวจสอบยืนยันตัวตนสำหรับประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพในอนาคตได้

  • สคช. เตรียมสร้างต้นแบบ โรงแรมหัวหินแกรนด์ เพิ่มคุณวุฒิให้พนักงาน สร้างความก้าวหน้าในอาชีพ ขยายผลสู่ความร่วมมือผ่าน อบจ.ทั่วประเทศ

    28.11.2565
    7,701 View

    สคช. เตรียมสร้างต้นแบบ โรงแรมหัวหินแกรนด์ เพิ่มคุณวุฒิให้พนักงาน สร้างความก้าวหน้าในอาชีพ ขยายผลสู่ความร่วมมือผ่าน อบจ.ทั่วประเทศ นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ หารือกับ ดร.รุ่งโรจน์ สีเหลืองสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ โรงแรมหัวหิน แกรนด์ แอนด์ พลาซ่า และอนุกรรมการพิจารณากลั่นกรองนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ และ ดร.พรระวี สีเหลืองสวัสดิ์ ประธานสมาพันธ์ SME ไทย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อหารือแนวทางการพัฒนายกระดับคุณวุฒิวิชาชีพให้พนักงานของโรงแรมหัวหิน แกรนด์ แอนด์ พลาซ่า ด้วยการรับรองคุณวุฒิวิชาชีพโดยสถานประกอบการ โดยทางโรงแรมหัวหิน แกรนด์ แอนด์ พลาซ่า ซึ่งเป็นโรงแรมขนาดใหญ่ มีห้องพักกว่า 164 ห้อง อยู่กลางเมืองหัวหิน พร้อมที่จะใช้คุณวุฒิวิชาชีพ ในสาขางานโรงแรม ที่สถาบันฯ ได้พัฒนาขึ้น ไปใช้เป็นเครื่องมือการยกระดับสมรรถนะการทำงานของพนักงาน ให้มีความสามารถในการทำงานที่ครอบคลุมเพิ่มเติมจากการทำงานตามตำแหน่งงานของตนเอง แต่ได้รับการพัฒนาให้มีสมรรถนะที่ครอบคลุมงานอาชีพ มีทักษะที่หลากหลายมากขึ้น (Multi-Skills) ซึ่งจะเกิดประโยชน์ต่อทั้งสถานประกอบการ และพนักงานเอง สร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ สามารถเชื่อมั่นในคุณภาพของพนักงานในการให้บริการอย่างมีมาตรฐานเป็นมืออาชีพได้ ซึ่งผลจากการหารือ สถาบันฯ จะได้มุ่งหวังให้โรงแรมหัวหิน แกรนด์ แอนด์ พลาซ่า เป็นหนึ่งในสถานประกอบการต้นแบบการนำระบบคุณวุฒิวิชาชีพไปใช้ในสถานประกอบการ ในธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรม โดยจะทำการพิจารณาเนื้อหาหลักสูตรการฝึกอบรมพนักงานของโรงแรมหัวหิน แกรนด์ แอนด์ พลาซ่า ที่มีอยู่ในรูปแบบการฝึกอบรม Classroom Training การสอนงาน On-the-job Training และการฝึกอบรมรูปแบบต่างๆ ว่ามีความสอดคล้องตามมาตรฐานอาชีพในสาขางานโรงแรม และสามารถใช้ชุดการฝึกอบรมตามมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพอิเล็กทรอนิกส์ (TPQI E-Training) ที่สถาบันฯ พัฒนาขึ้น เพื่อเติมเต็มให้มีความครอบคลุมตามสมรรถนะที่กำหนดได้ โดยตั้งเป้าที่จะเริ่มการพิจารณาเทียบเนื้อหาหลักสูตรและมาตรฐานอาชีพในเดือนธันวาคม 2565 เพื่อการรับรองคุณวุฒิวิชาชีพโดยสถานประกอบการ รุ่นแรกภายในเดือนมีนาคม 2566 ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าว สามารถเป็นต้นแบบให้โรงแรมในพื้นที่ท่องเที่ยวในจังหวัดต่างๆ ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนายกระดับคุณวุฒิวิชาชีพของกำลังคนในจังหวัดของตัวเอง โดยผ่านการทำงานร่วมกับสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย เพื่อขยายผลต้นแบบจากโรงแรมหัวหิน แกรนด์ แอนด์ พลาซ่า จ.ประจวบคีรีขันธ์ ไปสู่การสร้างสถานประกอบการที่ดำเนินการพัฒนายกระดับคุณวุฒิวิชาชีพให้พนักงานในพื้นที่ต่างๆ ได้อีกด้วย

  • สคช. ลงพื้นที่หัวหิน มอบประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ ให้การรับรองผู้ดูแลผู้สูงอายุมืออาชีพ

    28.11.2565
    8,720 View

    สคช. ลงพื้นที่หัวหิน มอบประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ ให้การรับรองผู้ดูแลผู้สูงอายุมืออาชีพ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. นำโดยนางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ มอบประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ รับรองความรู้ ความสามารถ และทักษะให้กับกลุ่มผู้ดูแลผู้สูงอายุ ที่สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนอนันตรักษ์การบริบาล หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่ผ่านการประเมินในสาขาวิชาชีพบริการสุขภาพ อาชีพผู้ดูแลผู้สูงอายุ คุณวุฒิวิชาชีพระดับ 1 ประกอบไปด้วย กลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้านจากท้องถิ่นต่างๆ เช่น เทศบาลเมืองหัวหิน เทศบาลเมืองท่ายาง จ.เพชรบุรี เทศบาลตำบลหน้าพระลาน จ.สระบุรี รวมถึงผู้ที่ผ่านการอบรมของ สคช. จากพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีนายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน เป็นประธานเปิดงาน ดร.ธาวิษ ถนอมจิตศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายรุ่งโรจน์ สีเหลืองสวัสดิ์ อนุกรรมการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ และดร. พรระวี สีเหลืองสวัสดิ์ ผู้บริหารโรงเรียนอนันตรักษ์การบริบาล ให้การต้อนรับ นางสาววรชนาธิป กล่าวว่า จากการที่ประเทศไทยอยู่ในสังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ โดยเฉพาะเวลานี้มีผู้ป่วยติดเตียง ผู้ป่วยที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้อยู่กว่า 4 แสนคน ขณะที่ผู้สูงอายุ 21.9 ล้านครัวเรือน กว่าร้อยละ 12 อาศัยอยู่อย่างลำพัง เนื่องจากลูกหลานต้องไปประกอบอาชีพหารายได้เลี้ยงดูครอบครัว แต่ในความเป็นจริงผู้สูงอายุต้องการความช่วยเหลือในยามที่ร่างกายอ่อนแอ ซึ่งไม่สามารถทดแทนได้ด้วยการสื่อสารผ่านเทคโนโลยี ส่งผลให้อาชีพผู้ดูแลผู้สูงอายุ ก็จะเข้ามามีบทบาทอย่างปฏิเสธไม่ได้ ซึ่งการที่คนในอาชีพผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ให้บริการอย่างมีมาตรฐาน ได้รับการการันตีจากหน่วยงานที่มีความน่าเชื่อถือ อย่าง สคช. ก็จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจให้กับลูกหลาน ว่าจะสามารถดูแลร่างกายผู้สูงอายุได้อย่างปลอดภัย สร้างความมั่นใจให้กับสังคมว่า คนในกลุ่มอาชีพนี้ จะทำหน้าที่โอบอุ้ม แบ่งเบาและดูแลผู้สูงอายุแทนบุตรหลานได้อย่างมืออาชีพ ขณะที่เทรนด์การท่องเที่ยวก็จะเป็นรูปแบบการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพมากขึ้น ประกอบกับ อ.หัวหิน เป็นจังหวัดท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ เป็นจำนวนมาก การพัฒนาบุคลากรเพื่อรองรับทิศทางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจึงสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอาชีพกลุ่มบริการสุขภาพ ผู้ดูแลผู้สูงอายุ เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล สำหรับผู้ดูแลผู้สูงอายุ ระดับ 1 เป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่า ผู้ดูแลผู้สูงอายุสามารถวัดสัญญาณชีพผู้สูงอายุได้ ดูแลด้านโภชนาการของผู้สูงอายุอย่างถูกสุขลักษณะอนามัย ดูแลให้ผู้สูงอายุที่ช่วยเหลือตัวเอง โดยให้ทำความสะอาดร่างกายอย่างถูกวิธี จัดเตรียมยาให้ผู้สูงอายุได้ครบถ้วน ดูแลเคลื่อนย้ายร่างกายได้อย่างปลอดภัย พร้อมจัดเตรียมอุปกรณ์และเครื่องมือสำหรับผู้สูงอายุไว้อย่างถูกสุขลักษณะอนามัยและมีมาตรฐาน ปฏิบัติตามบทบาทและหน้าที่ รวมไปถึงการปฏิบัติตามหลักจริยธรรมการดูแลผู้สูงอายุได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • สคช - ดีแทค เตรียมความพร้อมให้เยาวชนที่ก้าวพลาด ด้วยทักษะดิจิทัล สร้างโอกาสกลับเข้าสู่โลกของอาชีพอย่างมีคุณภาพ

    24.11.2565
    9,519 View

    สคช - ดีแทค เตรียมความพร้อมให้เยาวชนที่ก้าวพลาด ด้วยทักษะดิจิทัล สร้างโอกาสกลับเข้าสู่โลกของอาชีพอย่างมีคุณภาพ นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เป็นตัวแทนสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือ “เริ่มต้น (อีกครั้ง) บนเส้นทางชีวิตดิจิทัล” ระหว่าง บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กับ กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เพื่อผลักดันและส่งเสริมให้มีการพัฒนาทักษะดิจิทัลและการประกอบอาชีพ พร้อมกลับคืนสู่สังคมได้อย่างมีคุณค่า โดยมีนายสตีเฟ่น เจมส์ แฮลวิก รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มกิจการองค์กร และ พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เป็นผู้ลงนาม พร้อมด้วย ดร.อณูวรรณ วงศ์พิเชษฐ์ รองผู้อำนวยการสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย รวมถึงเยาวชนจากศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน เข้าร่วมในงาน ในการนี้ นางสาววรชนาธิป ได้มอบหนังสือผลการพิจารณาความสอดคล้องของหลักสูตรการฝึกอบรม ให้กับ นายสตีเฟ่น เจมส์ แฮลวิก หลังได้เทียบเคียงกับสมรรถนะอีคอมเมิร์ซ E-commerce Literacy ของสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ กับทีม ดีแทค เน็ตทำกิน เพื่อจะเป็นส่วนสำคัญให้เยาวชนที่ได้รับการอบรมใช้เทียบสมรรถนะการเรียนรู้ตามมาตรฐานอาชีพ นางสาววรชนาธิป กล่าวว่า หลักสูตรของ ดีแทค เน็ตทำกิน นั้น ถือเป็นหลักสูตรที่มีประสิทธิภาพ โดยเยาวชนที่ผ่านการอบรมจะได้รับประโยชน์ตั้งแต่พื้นฐานการตลาดยุคดิจิทัล แพลตฟอร์มสำหรับการทำตลาดออนไลน์ เทคนิคการถ่ายภาพเบื้องต้น และการสร้างคอนเทนต์เพื่อจำหน่ายสินค้าออนไลน์ ซึ่งหลักสูตรการอบรมดังกล่าว ได้มีการนำไปพัฒนาบุคคลากรให้กลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่อำเภอเบตง และกลุ่มผู้ประกอบอาชีพเสริมสวยที่ จังหวัดยะลา รวมถึงกลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุข จังหวัดสระบุรี มาแล้ว ทั้งนี้ เชื่อว่าความร่วมมือที่เกิดขึ้นจากภาคีในวันนี้ จะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้กลุ่มเยาวชนที่เคยก้าวพลาด ได้ตั้งหลักใหม่ พร้อมช่วยจุดประกายความหวัง สร้างโอกาสให้เยาวชนได้เรียนรู้เกี่ยวกับโลกดิจิทัล และสื่อออนไลน์จากมืออาชีพ ได้ศึกษาต่อยอด ประกอบอาชีพ นำไปสู่การสร้างงาน สร้างรายได้ อย่างยั่งยืนต่อไป สำหรับร่วมมือของกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน และดีแทค จะร่วมกันเสริมสร้างภูมิคุ้มกันบนดิจิทัลและพัฒนาศักยภาพการขายสินค้าออนไลน์ให้เยาวชน โดยการสร้างทักษะผ่านแพลตฟอร์ม e-Learning ให้เข้าใจและส่งเสริมทัศนคติให้เปิดรับความเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี และมีศักยภาพในการเปิดร้านค้าออนไลน์ การทำธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ เพื่อต่อยอดสู่ผู้ประกอบการในอนาคต ซึ่งเยาวชนที่ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตร ดีแทค เน็ตทำกิน ยังมีโอกาสเข้ารับการรับรองด้วยระบบคุณวุฒิวิชาชีพ เพื่อเป็นหลักประกันที่มั่นคงต่อการประกอบอาชีพในอนาคต

  • คณะเจ้าหน้าที่ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) นำแจกันดอกไม้ไปทูลเกล้าฯ ถวาย และลงนามถวายพระพร สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ขอให้ทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ว

    24.11.2565
    9,300 View

    วันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน 2565 ณ ชั้น 1 อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย คณะเจ้าหน้าที่ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) นำแจกันดอกไม้ไปทูลเกล้าฯ ถวาย และลงนามถวายพระพร สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ขอให้ทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ว

  • สคช. - ออมสิน เตรียมต่อยอด ยกระดับภูมิปัญญาท้องถิ่น ด้วยระบบคุณวุฒิวิชาชีพ เสริมแรง สร้างความเชื่อมั่นให้สินค้าและบริการในชุมชนมีความเข้มแข็ง

    23.11.2565
    7,723 View

    สคช. - ออมสิน เตรียมต่อยอด ยกระดับภูมิปัญญาท้องถิ่น ด้วยระบบคุณวุฒิวิชาชีพ เสริมแรง สร้างความเชื่อมั่นให้สินค้าและบริการในชุมชนมีความเข้มแข็ง สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. นำโดย นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ร่วมงานมอบรางวัลออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น Best of the best ระดับประเทศ ประจำปี 2565 ซึ่งธนาคารออมสิน จัดขึ้นเพื่อยกระดับขีดความสามารถกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ที่รวมตัวกันสร้างผลิตภัณฑ์หรือบริการให้มีมูลค่าเพิ่ม รวมทั้งเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งทุนให้กับประชาชน แก้ปัญหาเศรษฐกิจฐานรากได้อย่างยั่งยืน โดยมี นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วยนางวรนุช ภู่อิ่ม รองปลัดกระทรวงการคลัง และตัวแทนหน่วยงานภาคี อาทิ นายชวน ชูจันทร์ ประธานวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรตลาดน้ำคลองลัดมะยม ตัวแทนธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานการอาชีวศึกษา กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ภาคเอกชน รวมถึงสถาบันการศึกษา เข้าร่วมในงาน นางสาววรชนาธิป กล่าวว่า โครงการดังกล่าว สามารถตอบโจทย์การแก้ปัญหาเศรษฐกิจฐานรากให้แก่กลุ่มผู้ประกอบการและวิสาหกิจชุมชน ที่กระจายอยู่ในทุกท้องถิ่นทั่วประเทศให้มีความเข้มแข็ง ทั้งการนำองค์ความรู้และนวัตกรรมสมัยใหม่ มาพัฒนายกระดับคุณภาพภูมิปัญญาและทรัพยากรในท้องถิ่นให้มีมูลค่าเพิ่ม สามารถตอบสนองต่อความต้องการและการแข่งขันของตลาดได้ ทั้งนี้ สคช. จะผลักดันให้มีการต่อยอดส่งเสริมให้บุคลากรในวิสาหกิจชุมชน ให้มีโอกาสได้รับประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ ซึ่งเป็นคุณวุฒิของคนทำมาหากินเพื่อช่วยสร้างความมั่นใจกับผู้บริโภคอีกทางหนึ่ง โดย สคช. มีมาตรฐานอาชีพที่หลากหลายครอบคลุมในทุกกลุ่มอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาชุมชน ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า ธนาคารออมสินปรับบทบาทเข้าสู่การเป็น Social Bank หรือ "ธนาคารเพื่อสังคม" อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อดูแลลูกค้าและประชาชน 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ ผู้มีรายได้น้อย ผู้ประกอบการรายย่อย (พ่อค้าแม่ค้า) และองค์กรชุมชน โดย สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เป็นหนึ่งในภาคีสำคัญ ในการช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ยกระดับรายได้ ต่อยอดเป็นผู้ประกอบการรายย่อย และสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ สคช. และ ธนาคารออมสิน ถือเป็นพันธมิตรที่ทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่อง ในการให้แหล่งเงินทุนต่อยอดคนในอาชีพ ตั้งแต่การอนุมัติวงเงิน “สินเชื่อ เพื่อมืออาชีพ” ให้กับผู้ที่ผ่านการประเมินฯ เป็นมืออาชีพกับ สคช. กว่า 7,400 ราย รวมวงเงินกว่า 2,400 ล้านบาท ต่อเนื่องมาจนถึง การใช้ประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ เป็นเอกสารหลักฐานประกอบการขอสินเชื่อในโครงการสร้างงาน สร้างอาชีพ รวมถึงยังร่วมกันพัฒนาหลักสูตรการฝึกอบรมผ่านระบบ Virtual Classroom ตั้งแต่ปี 2564-2565 มีผู้ผ่านการพัฒนาภายใต้การสนับสนุนของธนาคารออมสินรวมกว่า 70,000 คน สำหรับโครงการ "ออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น" ปี 2565 มีนักศึกษาจาก 65 สถาบันอุดมศึกษา สามารถช่วยพัฒนาภูมิปัญญาของชุมชนกว่า 1,350 ชุมชนทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ช่วยส่งเสริมและพัฒนาความรู้ให้คนที่อยู่ในอาชีพที่เกี่ยวข้องกว่า 10,600 คน มีนักศึกษาและชุมชน ได้รับรางวัล Best of the Best 6 ประเภท ประกอบไปด้วย รางวัลประเภทกินดี การพัฒนาอาหารและเครื่องดื่ม ประเภทอยู่ดี ด้านที่พัก ท่องเที่ยวชุมชน ประเภทสวยดี ของที่ระลึก เครื่องแต่งกาย ประเภทใช้ดี ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากสมุนไพร รักษ์ดี การอนุรักษ์ขนบธรรมเนียม ภูมิปัญญา และคิดดี คือสินค้าบริการเชิงนวัตกรรม ซึ่งช่วยการสร้างงาน สร้างอาชีพให้แก่กลุ่มชุมชนที่กระจายอยู่ในทุกท้องถิ่นทั่วประเทศ ที่แสดงให้เห็นถึงการนำองค์ความรู้ และนวัตกรรมสมัยใหม่ของสถาบันอุดมศึกษามาพัฒนายกระดับคุณภาพภูมิปัญญาและทรัพยากรในท้องถิ่นให้มีศักยภาพต่อไป

  • สคช. พบ JMAM เร่งพัฒนากำลังแรงงานสายการผลิต ให้มีความเข้มแข็ง ด้วยระบบคุณวุฒิวิชาชีพ

    22.11.2565
    6,389 View

    สคช. พบ JMAM เร่งพัฒนากำลังแรงงานสายการผลิต ให้มีความเข้มแข็ง ด้วยระบบคุณวุฒิวิชาชีพ นายนคร ศิลปอาชา ประธานกรรมการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมนายสุรพล พลอยสุข ผู้อำนวยการ นางสาวจุลลดา มีจุล รองผู้อำนวยการสถาบันฯ ให้การต้อนรับ คณะผู้บริหารบริษัท JMA Management Center Inc. หรือ JMAM ประเทศญี่ปุ่น นำโดย Mr. Takashi Hasegawa, Chairman of JMAM group และ Mr. Atsushi Taniguchi, President of JMAM (THAILAND) CO., LTD. เพื่อหารือแนวทางความร่วมมือ ระหว่างสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. กับบริษัท JMA Management Center Inc. ในการพัฒนากำลังแรงงาน ในอนาคต นายนคร กล่าวว่า ที่ผ่านมาภายใต้ความร่วมมือกับ JMAM ช่วยเดินหน้าพัฒนาบุคลากรในสายการผลิต ในทุกมิติ ตั้งแต่การได้รับการยอมรับในภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรมและผู้ประกอบวิชาชีพ ด้วยการเชื่อมโยงข้อมูล แลกเปลี่ยนความรู้ และดำเนินกิจกรรมต่างๆ เพื่อนำไปสู่ข้อตกลงยอมรับในมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ การส่งเสริมการจ้างงาน และความร่วมมือในการพัฒนาศักยภาพของกำลังคนที่มีความเหมาะสมกับประเทศ ทั้งพัฒนาเครื่องมือในการประเมิน รวมถึงการจัดโปรแกรมการฝึกอบรมที่มีประสิทธิภาพ นายสุรพล กล่าวว่า การทำงานร่วมกันหลังจากนี้ จะมีการพัฒนาและยกระดับสมรรถนะมาตรฐานในการประกอบอาชีพของบุคลากรในสายการผลิตของโรงงานอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง พร้อมทบทวนมาตรฐานสมรรถนะ และเครื่องมือประเมิน ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ส่งเสริมให้ JMAM (Thailand) ขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยประเมินสมรรถนะ และผลักดันให้บุคลากรในสถานประกอบการเครือข่ายอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง เข้าสู่การประเมินความรู้ ทักษะ และความสามารถในการประกอบอาชีพด้วยระบบคุณวุฒิวิชาชีพ Mr. Takashi Hasegawa กล่าวว่า JMAM หวังว่าความร่วมมือของทั้งสองหน่วยงานจะแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น พร้อมร่วมกันพัฒนากำลังแรงงานในด้านต่างๆ ให้มีความเข้มแข็งมากที่สุด

  • สคช. บุก ม.ศรีปทุม ดันเยาวชน คนรุ่นใหม่ใช้ E-Portfolio

    19.11.2565
    6,840 View

    สคช. บุก ม.ศรีปทุม ดันเยาวชน คนรุ่นใหม่ใช้ E-Portfolio

  • สคช. ร่วมทอดผ้าป่าพระราชทาน สมทบทุนโครงการทุนเล่าเรียนหลวง สำหรับพระสงฆ์ไทย

    14.11.2565
    7,582 View

    สคช. ร่วมทอดผ้าป่าพระราชทาน สมทบทุนโครงการทุนเล่าเรียนหลวง สำหรับพระสงฆ์ไทย วันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานผ้าไตรประกอบพิธีทอดผ้าป่า เพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต และสมทบทุนโครงการทุนเล่าเรียนหลวงสาหรับพระสงฆ์ไทย ณ วัดโตนด ตำบลวัดชะลอ อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี โดยมี นายธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาส ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีทอดผ้าป่า พร้อมด้วยนางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมด้วยผู้บริหารสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) เข้าร่วมพิธีในครั้งนี้ สำหรับโครงการทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทย จัดตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนพระภิกษุและสามเณรให้ได้มีโอกาสศึกษาพระธรรมวินัย พระปริยัติธรรมให้ลึกซึ้งแตกฉาน เพื่อนำไปเผยแผ่เป็นหลักยึดเหนี่ยวจิตใจและความคิดในการดำเนินชีวิตของพุทธศาสนิกชน ตามพระราชปณิธานของในหลวงรัชกาลที่ 9

  • สคช. – สภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทย เตรียมเครือข่ายนายจ้างในสังกัด ยกระดับกำลังแรงงาน ด้วยระบบคุณวุฒิวิชาชีพ

    12.11.2565
    7,918 View

    สคช. – สภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทย เตรียมเครือข่ายนายจ้างในสังกัด ยกระดับกำลังแรงงาน ด้วยระบบคุณวุฒิวิชาชีพ สภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทย (ECOT) นำโดย นางสิริวัน ร่มฉัตรทอง เลขาธิการสภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย นางสาวนุจรี ยิ่งสิทธิสวัสดิ์ กรรมการบริหาร นายอุกฤษณ์ กาญจนเกตุ นายศิริพงศ์ อินทวดี ที่ปรึกษาฯ และนายกรชัย แก้วมหาวงศ์ ผู้อำนวยการโครงการพิเศษ เข้าพบนายสุรพล พลอยสุข ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมด้วย นางสาวจุลลดา มีจุล รองผู้อำนวยการสถาบันฯ หารือแนวทางการทำงานร่วมกันระหว่างสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. และสภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทย ในการร่วมกันพัฒนากำลังคน ทั้งการให้ความสนใจเป็นองค์กรที่มีหน้าที่รับรองสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ การนำระบบคุณวุฒิวิชาชีพไปพัฒนาบุคลากรในสถานประกอบการ นายสุรพล กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่องค์การสภานายจ้างฯ จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการเป็นองค์การที่มีหน้าที่รับรองฯ เนื่องจากมีเครือข่ายนายจ้างที่อยู่ในสังกัดจำนวนมาก ครอบคลุมธุรกิจที่หลากหลายทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะได้เป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญในการช่วยพัฒนากำลังแรงงานของประเทศได้ ทั้งนี้ ได้มีการให้ข้อมูล ทิศทางการทำงานของ สคช. ในการพัฒนากำลังแรงงาน ให้ตอบโจทย์ความต้องการของสถานประกอบการ ด้วยการนำระบบคุณวุฒิวิชาชีพไปพัฒนาบุคลากรในสถานประกอบการ ให้มีโอกาสได้รับประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ เพื่อยืนยันความรู้ ความสามารถ และทักษะการทำงาน ซึ่งผู้ประกอบการ หรือนายจ้าง สามารถนำไปประกอบการพิจารณาโอกาสที่ช่วยสร้างความก้าวหน้าในหน้าที่การงานของบุคคลเหล่านั้นได้ต่อไป เลขาธิการสภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เป็นนิมิตหมายที่ดีที่จะได้ทำงานร่วมกับ สคช. โดยจากการพูดคุยมองเห็นช่องทางต่อยอดการพัฒนากำลังคนได้ชัดเจนมากขึ้น โดยเบื้องต้นได้ให้ความสนใจในการเป็นองค์กรที่มีหน้าที่รับรองฯ ในสาขาวิชาชีพอนามัยและความปลอดภัย สาขาวิชาชีพไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ สาขาวิชาชีพสิ่งแวดล้อมและสารอันตราย และสาขาวิชาชีพบริหารงานบุคคล พร้อมเตรียมขยายผลแนวทางความร่วมมือเพื่อการพัฒนากำลังคนต่อไป

  • สคช. – กฟผ. ติวเข้มใช้งาน ระบบ E-Portfolio พร้อมเชื่อมต่อระบบ EGAT Learning Center

    10.11.2565
    8,264 View

    สคช. – กฟผ. ติวเข้มใช้งาน ระบบ E-Portfolio พร้อมเชื่อมต่อระบบ EGAT Learning Center

  • สคช. พบปลัด ศธ. มุ่งผลักดันนักเรียน และบุคลากรในสถานศึกษา มีโอกาสเข้าสู่ระบบคุณวุฒิวิชาชีพ

    10.11.2565
    7,860 View

    สคช. พบปลัด ศธ. มุ่งผลักดันนักเรียน และบุคลากรในสถานศึกษา มีโอกาสเข้าสู่ระบบคุณวุฒิวิชาชีพ นางปัทมา วีระวานิช กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมด้วยนางสาวจุลลดา มีจุล รองผู้อำนวยการสถาบันฯ เข้าพบนายอรรถพล สังขวาสี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อร่วมแสดงความยินดี เนื่องในโอกาสรับตำแหน่งใหม่ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2565 ในการนี้ ได้มีการหารือความร่วมมือในการเชื่อมโยงระบบฐานข้อมูลด้านกำลังคนผ่าน E-Workforce Ecosystem Platform หรือ EWE พร้อมผลักดันและสนับสนุน ให้นักเรียนในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ และบุคลากรในสถานศึกษา ได้มีโอกาสเข้าใช้งาน E-Portfolio หรือแฟ้มสะสมผลงานอิเล็กทรอนิกส์ ที่เหมาะกับคนทำงานทุกเพศ ทุกวัย ที่ต้องการจัดเก็บข้อมูล ประวัติการศึกษา การอบรม และประสบการณ์ทำงานอย่างเป็นระบบ นางสาวจุลลดา กล่าวว่า ที่ผ่านมาสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. ได้ทำงานร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในส่วนของอาชีวศึกษา และโรงเรียนเอกชนนอกระบบ โดยมีการส่งเสริมให้นำมาตรฐานอาชีพเป็นสารตั้งต้น ในการปรับหลักสูตรการเรียนการสอนให้มีความสอดคล้องกัน ทั้งนี้ ในปี 2566 จะมีการสนับสนุนให้นักเรียน นักศึกษา ที่สำเร็จการศึกษาจากหลักสูตรที่สอดคล้องกับมาตรฐานอาชีพ ได้มีโอกาสได้รับคุณวุฒิวิชาชีพ เพื่อเป็นการรับรองในการประกอบอาชีพ นายอรรถพล กล่าวว่า พร้อมให้หน่วยงานภายใต้สำนักงานปลัดฯ ทั้งสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) และสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ใช้มาตรฐานอาชีพในการจัดหลักสูตรการฝึกอาชีพ เพื่อพัฒนาและเตรียมความพร้อมให้นักเรียน และนักศึกษา ก่อนก้าวเข้าสู่โลกของอาชีพ ทั้งนี้ ได้ฝากถึงแนวทางการพัฒนานักเรียนชายขอบ ที่ขาดโอกาสทางการศึกษา ให้สามารถเข้าถึงระบบคุณวุฒิวิชาชีพได้ เพื่อจะเป็นการโอกาส สร้างรายได้ สร้างหลักประกันให้กับเยาวชน และช่วยลดความเหลื่อมล้ำที่เกิดขึ้นในสังคมได้อีกทางหนึ่ง นอกจากนี้ นางสาวจุลลดา ยังได้หารือกับ นายวัชรินทร์ ศิริพานิช ที่ปรึกษา บริษัท น้ำตาลมิตรผล จำกัด ถึงแนวทางการนำมาตรฐานอาชีพ ไปพัฒนากำลังคนในสถานประกอบการ ทั้งให้การยอมรับกระบวนการพัฒนาบุคลากรในสถานประกอบการ และการนำมาตรฐานอาชีพของ สคช. ไปใช้พัฒนากำลังคนในสถานประกอบการ เพื่อนำไปสู่การรับรองมาตรฐานอาชีพและการได้รับคุณวุฒิวิชาชีพ ซึ่งจะเป็นการเปิดโอกาสให้กำลังแรงงานมีความก้าวหน้าในอาชีพ ได้รับการเลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่ง สร้างความมั่นคงในอาชีพต่อไป

  • สคช.- IOM ถอดรหัสข้อมูล เตรียมพร้อมจัดทำมาตรฐานอาชีพผู้สรรหาแรงงานข้ามชาติ

    09.11.2565
    6,466 View

    สคช.- IOM ถอดรหัสข้อมูล เตรียมพร้อมจัดทำมาตรฐานอาชีพผู้สรรหาแรงงานข้ามชาติ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. นำโดย นางสาวจุลลดา มีจุล รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ จัดประชุมนำเสนอผลการศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับอาชีพผู้สรรหาแรงงานข้ามชาติ เพื่อวิเคราะห์อาชีพเป้าหมาย และรับฟังความคิดเห็น เพื่อประกอบการพิจารณา จัดทำมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ รวมทั้งกรอบแนวทางในการจัดทำมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ อาชีพผู้สรรหาแรงงานข้ามชาติ เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการแรงงานข้ามชาติอย่างเป็นระบบ โปร่งใส ปลอดภัย มีจริยธรรมตามหลักสิทธิมนุษชนขั้นพื้นฐาน และสอดคล้องกับแนวปฏิบัติและมาตรฐานสากล ภายใต้ความร่วมมือระหว่างสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) และองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (International Organization for Migration: IOM) โดยมีนางสาวนฤมล พูลทรัพย์ ที่ปรึกษาประธานสถาบันฯ และตัวแทนจากภาครัฐ ภาคเอกชน อาทิ กรมการจัดหางาน กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน สภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และตัวแทนบริษัทนำเข้าแรงงานข้ามชาติ เข้าร่วมประชุม นางสาวจุลลดา กล่าวว่า การจัดทำมาตรฐานอาชีพสรรหาแรงงานข้ามชาติ จะนำไปสู่แนวทางปฏิบัติต่อการนำเข้าแรงงานต่างชาติที่เป็นระบบมากขึ้น ที่จะไม่เพียงแต่ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง การเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานเท่านั้นของแรงงานข้ามชาติเท่านั้น แต่จะเกี่ยวข้องกับจริยธรรมและจรรณยาบรรณในการประกอบอาชีพอีกด้วย โดยในการประชุมครั้งนี้จะเป็นการนำเสนอมาตรฐานจากทั่วภูมิภาคและนานาชาติ เพื่อให้เกิดการสรรหาแรงงานข้ามชาติอย่างมีจริยธรรม เพื่อร่วมกันวิเคราะห์ ก่อนนำมาปรับใช้ตามบริบทของประเทศไทย การรับฟังข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง นำไปสู่จุดเริ่มต้นสำคัญในการจัดทำมาตรฐานอาชีพสรรหาแรงงานข้ามชาติ ผลักดันให้เกิดการจ้างงานที่มีคุณค่าต่อไป สำหรับอาชีพสรรหาแรงงานข้ามชาติ เกิดขึ้นจากการที่ประเทศไทยประสบปัญหาขาดแคลนกำลังแรงงาน โดยเฉพาะแรงงานภาคเกษตรกรรม ประมงและแรงงานก่อสร้าง ส่งผลให้ไทยติดอันดับที่ 17 ของโลก และถือเป็นอันดับหนึ่งในกลุ่มประเทศอาเซียน ที่มีการนำเข้าแรงงานข้ามชาติมากที่สุด ดังนั้นการจัดทำมาตรฐานอาชีพผู้สรรหาแรงงานข้ามชาติ จะทำให้ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการส่งเสริมให้ผู้ที่อยู่ในอาชีพ ได้เข้าใจถึงหน้าที่ ความรับผิดชอบ รวมถึงการป้องกันไม่ให้แรงงาน ต้องอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงต่อการถูกเอารัดเอาเปรียบ แสวงประโยชน์ และแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ด้านแรงงานอย่างเป็นรูปธรรม

  • สคช. ร่วมวงเสวนา ฉายภาพ ระบบคุณวุฒิวิชาชีพ ต่อการพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว

    08.11.2565
    8,787 View

    สคช. ร่วมวงเสวนา ฉายภาพ ระบบคุณวุฒิวิชาชีพ ต่อการพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว นางสาวจุลลดา มีจุล รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ร่วมวงเสวนา บนเวทีการประชุมเชิงวิชาการ เพื่อนำเสนอผลการศึกษา และรับฟังข้อคิดเห็นจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โครงการค่าใช้จ่ายในการสำรวจข้อมูลแรงงานในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ในหัวข้อ ฉากทัศน์การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย พร้อมด้วย นางปัทมาวลัย รัตนพล หัวหน้าคณะที่ปรึกษาบริหาร บมจ. เอส แอนด์ พี ซินดิเคท, ที่ปรึกษา บมจ. แม็คกรุ๊ปและกรรมการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ดร.บุญวรา สุมะโน นักวิชาการอาวุโส สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) และนางสาวปัณพร วงษ์จันทร์เพ็ญ กรรมการสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) โดยกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และสถาบันวิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดขึ้นเพื่อศึกษาโครงสร้างแรงงานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้สามารถนำไปใช้ในการวางแผนและกำหนดนโยบายด้านการท่องเที่ยวรวมถึงเพื่อวางแผนการผลิตแรงงานให้ตรงตามความต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพในการให้บริการแก่นักท่องเที่ยวและเตรียมความพร้อมด้านแรงงานตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป นางสาวจุลลดา กล่าวบนเวทีเสวนาว่า สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. ได้ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา ในการเดินหน้าพัฒนากำลังคนให้มี ความรู้ ความสามารถ และทักษะในการทำงาน ตรงตามความต้องการของสถานประกอบการด้วยระบบคุณวุฒิวิชาชีพ เพื่อสร้างศักยภาพในการแข่งขัน โดยเฉพาะในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ที่กลับมามีความต้องการมากขึ้น ภายหลังผ่านพ้นสถานการณ์โควิด19 และมีการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว อีกทั้ง สคช. ยังมีหลักสูตรการฝึกอบรม ในการพัฒนาบุคลากรภาคการท่องเที่ยวอย่างหลากหลาย อาทิ อาชีพที่เกี่ยวข้องกับสปา อาชีพการบริหารงานบุคคล พนักงานต้อนรับของโรงแรม รวมไปถึงช่างซ่อมบำรุงและแม่บ้านโรงแรม ซึ่งจะเป็นการยกระดับมาตรฐานกำลังคนในทุกอาชีพที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว ให้ได้รับการบริการที่มีคุณภาพ และเป็นไปตามมาตรฐานที่สากลให้การยอมรับ ทั้งนี้ ทิศทางการพัฒนากำลังคน ไม่เพียงเกิดขึ้นเฉพาะกลุ่มที่มีประสบการณ์ทำงานแล้วเท่านั้น แต่คุณวุฒิวิชาชีพ จะเข้าไปมีบทบาทสำคัญ ในการเตรียมความพร้อมให้กลุ่มนักเรียน นักศึกษา ที่กำลังจะก้าวเข้าสู่โลกของการทำงาน ได้มีทิศทางการพัฒนาตนเองที่ชัดเจน และตรงตามความต้องการของตลาดแรงงานมากขึ้น

  • สคช. คว้ารางวัล ชุดข้อมูลเปิดทรงคุณค่า ในงาน DIGI DATA AWARDS 2022 ตอบโจทย์รัฐบาลดิจิทัล

    08.11.2565
    6,943 View

    สคช. คว้ารางวัล ชุดข้อมูลเปิดทรงคุณค่า ในงาน DIGI DATA AWARDS 2022 ตอบโจทย์รัฐบาลดิจิทัล สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์กรมหาชน) หรือ สคช. คว้ารางวัล "ชุดข้อมูลเปิดทรงคุณค่า" ในโครงการ DIGI DATA AWARDS 2022 โดยสถาบันนวัตกรรมและธรรมาภิบาลข้อมูล (Data Innovation and Governance Institute) หรือ DIGI สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Data Driven Organization” โดยมี ดร.ชาญกฤษ เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานและมอบรางวัล สำหรับปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนดังกล่าวคือ การเปิดเผยชุดข้อมูลที่ภาครัฐจัดเก็บและรวบรวมไว้นำมาเผยแพร่ให้กับประชาชน อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมความมีส่วนร่วมในการสร้างนวัตกรรมจากการใช้ข้อมูลภาครัฐให้เกิดประโยชน์ และสามารถต่อยอดนวัตกรรมบริการให้สอดคล้องกับความต้องการของภาครัฐและภาคประชาชนในการใช้งานบริการรัฐบาลดิจิทัล ทั้งนี้ นอกจาก สคช. ยังมีหน่วยงานภาครัฐอีก 52 หน่วยงานเข้ารับรางวัลในครั้งนี้อีกด้วย

  • สคช. เดินหน้าพัฒนาแพลตฟอร์ม EWE เต็มกำลัง เตรียมเพิ่มระบบการแนะแนวอาชีพที่เหมาะสมกับกำลังคน

    05.11.2565
    5,895 View

    สคช. เดินหน้าพัฒนาแพลตฟอร์ม EWE เต็มกำลัง เตรียมเพิ่มระบบการแนะแนวอาชีพที่เหมาะสมกับกำลังคน นายวีรพล วีระโชติวศิน Founder & CEO EdVISORY และ WE Space เข้าพบ นายสุรพล พลอยสุข ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ และนางสาวจุลลดา มีจุล รองผู้อำนวยการสถาบันฯ เพื่อหารือแนวทางการทำงานร่วมกันระหว่างสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. และ EdVISORY ซึ่งเป็นบริษัท Start-up และที่ปรึกษาด้านการพัฒนาระบบการศึกษาแนวหน้าของประเทศไทย เพื่อเชื่อมโยงการแนะแนวอาชีพ (Career Guidance) ใน E-Workforce Ecosystem Platform (EWE) นำไปสู่การแนะนำอาชีพที่เหมาะสมกับความถนัด ความสนใจ เพื่อการวางแผนพัฒนาทักษะให้สอดคล้องกับอาชีพ ซึ่งเป็นประโยชน์กับกำลังแรงงาน ในการเข้าใช้ระบบ EWE และ E-Portfolio ทั้งนี้ การร่วมกันพัฒนาแพลตฟอร์ม EWE นอกจากจะแนะแนวอาชีพและค้นหาทักษะ สนับสนุนนักเรียน นิสิต นักศึกษาแล้ว ยังขยายกลุ่มเป้าหมาย ไปในส่วนของ ผู้ประกอบอาชีพ กำลังแรงงาน ในทุกเพศและทุกวัย รวมไปถึงสถานประกอบการ เพื่อนำไปสู่การแนะแนวอาชีพที่เหมาะสม ซึ่งจะเป็นประโยชน์สำหรับกับแรงงานในระบบกว่า 38 ล้านคนต่อไป สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ขอเชิญชวนนักเรียน นักศึกษา พนักงาน ลูกจ้าง ผู้ที่ประกอบอาชีพอิสระ และกำลังแรงงานในสถานประกอบการทุกท่าน เข้าใช้งานแพลตฟอร์ม E-Workforce Ecosystem Platform หรือ EWE Platform ผ่านทาง www.EWE.go.th เพื่อค้นหาข้อมูลด้านกำลังแรงงานของประเทศ พร้อมสร้างค่านิยมให้เกิดขึ้นในสังคม ด้วยการยอมรับประสบการณ์ ความรู้ ความสามารถ และทักษะการประกอบอาชีพ ด้วยคุณวุฒิวิชาชีพต่อไป