ข่าวประชาสัมพันธ์

  • สคช. เปิดเวทีระดมความคิดเห็น กระตุ้นคนในอาชีพมีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทาง การพัฒนากำลังคนในอนาคต

    17.08.2565
    7,165 View

    สคช. เปิดเวทีระดมความคิดเห็น กระตุ้นคนในอาชีพมีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทาง การพัฒนากำลังคนในอนาคต

  • เตรียมตั้งคณะทำงานร่วม ก.พ. - สคช. กำหนดแซนด์บ็อกซ์ในการสรรหาคนเข้าทำงานจากคุณวุฒิวิชาชีพ

    17.08.2565
    6,194 View

    เตรียมตั้งคณะทำงานร่วม ก.พ. - สคช. กำหนดแซนด์บ็อกซ์ในการสรรหาคนเข้าทำงานจากคุณวุฒิวิชาชีพ นายสุรพล พลอยสุข ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมนางสาวจุลลดา มีจุล รองผู้อำนวยการสถาบันฯ หารือร่วมกับนายปิยวัฒน์ ศิวรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) นางอรวรรณ คงธนขันติธร ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาข้าราชการพลเรือน นางสาวกำไล อ่างแก้ว ผู้อำนวยการศูนย์สรรหาและเลือกสรร และนักทรัพยากรบุคคล ก.พ. ถึงแนวทางการยอมรับคุณวุฒิวิชาชีพเป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติในการคัดสรรบุคลากรเข้าทำงานในหน่วยงานภาครัฐ นายสุรพล ระบุว่าจะเป็นคุณประโยชน์ต่อกำลังแรงงานของประเทศไทยอย่างมากหาก ก.พ.เป็นต้นแบบในการใช้คุณวุฒิวิชาชีพเป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติในการคัดสรรบุคลากรเข้าทำงาน หรือจ้างงาน ซึ่งจะทำให้เกิดการสร้างค่านิยมใหม่ในสังคม ซึ่งจะทำให้คนเข้าสู่ตลาดแรงงานได้เร็วขึ้น และจะทำให้เกิดการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ สร้างรายได้ได้เร็วขึ้น ด้านนายปิยวัฒน์ เลขาธิการ ก.พ. เห็นชอบในหลักการโดยเฉพาะแนวทางการใช้ประโยชน์จากคุณวุฒิวิชาชีพในการสรรหาบุคลากรเข้าทำงานในหน่วยงานภาครัฐ เพราะปัจจุบันในบางธุรกิจแทบไม่ดูวุฒิการศึกษาในการพิจารณารับพนักงาน แต่พิจารณาจากคุณสมบัติ ความสามารถ และทักษะในการทำงานเป็นสำคัญ ภาครัฐเองจึงต้องปรับตัวตามทิศทางการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว เพื่อให้ภาครัฐสามารถส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพกำลังคนของประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด นอกจากนี้ยังเห็นควรให้ร่วมกับ สคช. ตั้งคณะทำงานร่วมกันเพื่อพิจารณารายละเอียดตำแหน่งงาน จัดทำเป็นแซนด์บ็อกซ์ โดยอาจนำร่องจากการคัดสรรรับพนักงานราชการในเบื้องต้นเพื่อเป็นโมเดลการดำเนินงานต่อไป ซึ่งจะได้หารือร่วมกันในรายละเอียดอีกครั้ง

  • กลุ่ม MINOR หารือ สคช. พร้อมให้การยอมรับคุณวุฒิวิชาชีพในการพัฒนาพนักงาน

    10.08.2565
    6,627 View

    กลุ่ม MINOR หารือ สคช. พร้อมให้การยอมรับคุณวุฒิวิชาชีพในการพัฒนาพนักงาน นายสุรพล พลอยสุข ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันฯ พูดคุยหารือร่วมกับผู้บริหารเครือบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (MINOR) นำโดย นายอติวิท เติมลาภ Group Director, Education & Collaborations Development Minor International, MR. Janil Samson Group Director of Organization Capabilities Minor Hotels และนายปิติชัย เดชประเสริฐศรี Group Director of Talent Minor Food ถึงแนวทางการพัฒนากำลังแรงงานในกลุ่ม MINOR ด้วยมาตรฐานอาชีพ และเข้าสู่การรับรองรองประสบการณ์ ความรู้ ความสามารถด้วยประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ นายสุรพล ระบุว่า กลุ่ม MINOR ซึ่งดำเนินธุรกิจหลักในด้านการลงทุนการประกอบกิจการโรงแรม ภัตตาคาร อาหารและเครื่องดื่ม การจัดจำหน่ายและผลิตสินค้า อาทิ SWENSENS, Pizza Company, Anantara, Avani , bossini เป็นต้น มีกำลังแรงงานหลากหลายอาชีพในเครือนั้น หากเกิดการยอมรับนำมาตรฐานอาชีพไปใช้เพื่อการพัฒนากำลังแรงงานในสาขาต่างๆ ยอมรับผู้ที่ถือประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพเข้าทำงาน หรือแม้กระทั่งพร้อมพิจารณาการเลื่อนตำแหน่ง เงินเดือนให้พนักงานที่ได้การรับรองด้วยประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ ก็จะเกิดประโยชน์ต่อกำลังแรงงาน และเป็นอีกหนึ่งสถานประกอบการต้นแบบในการพัฒนากำลังแรงงานของประเทศ เพราะการพัฒนาระบบคุณวุฒิวิชาชีพและการให้ประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ มีจุดมุ่งหมายสำคัญในการยกระดับคุณภาพมาตรฐานของกำลังแรงงาน และยกระดับคุณวุฒิให้ ภายใต้แนวคิดดังกล่าวเป็นแนวทางในการรองรับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและเศรษฐกิจในอนาคต ทำให้กำลังแรงงานใหม่เข้าสู่ตลาดแรงงานได้เร็วขึ้นโดยไม่ต้องใช้เวลาในโลกของการศึกษามากจนเกินไป เพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้แก่ตัวกำลังแรงงานและครอบครัว MR. Janil Samson บอกว่า กลุ่ม MINOR เห็นคุณค่าและประโยชน์ของการยอมรับประสบการณ์ ความรู้ ความสามารถของกำลังแรงงาน ซึ่งเห็นตัวอย่างจากต่างประเทศมาแล้ว และมองว่าเป็นเรื่องดีหากเกิดขึ้นในประเทศไทย โดยเฉพาะสามารถนำไปเป็นกรอบเทียบเคียงกับคุณวุฒิทางการศึกษา และเปิดโอกาสสร้างการยอมรับในระดับอาเซียนด้วยนั้น ซึ่งกลุ่ม MINOR มองเห็นประโยชน์ในการนำระบบคุณวุฒิวิชาชีพไปใช้ในการบริหารงานบุคคล ทั้งการคัดเลือกคนเข้าทำงาน การพัฒนาพนักงานในสายอาชีพต่างๆ ในเครือ การกำหนดค่าตอบแทน และความก้าวหน้าในสายงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ และพร้อมยอมรับคุณค่าของประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพในการพัฒนาในกลุ่มของ MINOR โดยกลุ่ม MINOR ยังให้ความสนใจเป็นองค์กรที่มีหน้าที่รับรองสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ ที่พร้อมให้การรับรองคนในองค์กร และเปิดสาธารณะเพื่อให้คนนอกองค์กรสามารถเข้าทดสอบ ประเมินสมรรถนะของตัวเองได้ด้วยในอนาคต ซึ่งจะได้มีการหารือกับ สคช. ถึงแนวทางการดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป

  • สคช. ร่วมงาน Executive Breakfast Forum 2022 แลกเปลี่ยนข้อมูลด้านดิจิทัล พร้อมตอบโจทย์นโยบายรัฐบาลดิจิทัล

    09.08.2565
    6,790 View

    สคช. ร่วมงาน Executive Breakfast Forum 2022 แลกเปลี่ยนข้อมูลด้านดิจิทัล พร้อมตอบโจทย์นโยบายรัฐบาลดิจิทัล นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เข้าร่วมงาน Executive Breakfast Forum 2022 EP.14 Modernize Your Public Sector Data Strategy ณ โรงแรมแกรนด์ไฮแอทเอราวัณ ซึ่งกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (MDES) และสมาคมผู้ใช้ดิจิทัลไทย (DUGA) จัดขึ้น เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล ความคิดเห็น ที่เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อน และกระตุ้นองค์กรภาครัฐเกี่ยวกับการปรับใช้เทคโนโลยีในอนาคต โดยมีนายภุชพงค์ โนดไธสง เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กล่าวต้อนรับ ท่ามกลางผู้บริหารระดับสูง ทั้งจากหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ องค์กรอิสระ และองค์การมหาชน เข้าร่วมงาน เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ Executive Keynote : How The Cloud Is Unleashing New Potertial of Data for the Public Sector อนาคตประเทศไทยที่จะขับเคลื่อนด้วยข้อมูล และกระตุ้นองค์กรภาครัฐกับการปรับใช้เทคโนโลยีแห่งอนาคต” โดยระบุว่า หลังจากนี้หน่วยงานภาครัฐ จะต้องเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับความท้าทายใหม่บนโลกเทคโนโลยี ทั้งการปรับกลยุทธ์องค์กรสู่การใช้งานคลาวด์ การจัดการข้อมูลที่มีความซับซ้อนมากขึ้น และความปลอดภัยของข้อมูลในองค์กร ซึ่งการเตรียมพร้อมจะส่งผลให้องค์กรได้รับประโยชน์จากการใช้เทคโนโลยีนี้อย่างเต็มที่ นำไปสู่การใช้ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นางสาววรชนาธิป กล่าวว่า สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. พร้อมเดินหน้าสู่การเป็นองค์กรดิจิทัลเต็มรูปแบบ ตอบโจทย์นโยบายรัฐบาลดิจิทัล โดยเป็นหน่วยงานหลัก ในการเชื่อมฐานข้อมูลกำลังแรงงานจากทุกภาคส่วนของประเทศเข้าไว้ด้วยกัน ผ่านระบบ E-Workforce Ecosystem Platform ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มอัจฉริยะในการบริหารจัดการข้อมูลด้านกำลังคน พร้อมกระบวนการยกระดับ พัฒนาความรู้ ทักษะ ความสามารถด้วยระบบ E-Training เพื่อเป็นการสร้างการเรียนรู้ตลอดชีวิต รวมถึงการร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านดิจิทัล จัดทำมาตรฐานอาชีพ ครอบคลุมในทุกสาขาอาชีพ อาทิ Hardware, digital security, Telecommunication, Animation และGame เป็นต้น เพื่อให้การรับรองคนในอาชีพ และพร้อมให้การสนับสนุนการดำเนินงานในทุกรูปแบบเพื่อให้เกิดการบูรณาการการทำงานร่วมกันในการพัฒนาคน โดยเฉพาะกำลังคนด้านดิจิทัล ที่ต้องสามารถได้รับการรับรองแล้วนำไปต่อยอดในอนาคตต่อไป

  • Food Passion พร้อมร่วมมือ สคช. พัฒนากำลังคนในสถานประกอบการ ใช้คุณวุฒิวิชาชีพในการบริหารงานบุคคลเต็มรูปแบบ ต่อยอดสู่ปริญญาทางอาชีพ สร้างการเรียนรู้ตลอดชีวิต

    05.08.2565
    5,857 View

    “Food Passion พร้อมร่วมมือ สคช. พัฒนากำลังคนในสถานประกอบการ ใช้คุณวุฒิวิชาชีพในการบริหารงานบุคคลเต็มรูปแบบ ต่อยอดสู่ปริญญาทางอาชีพ สร้างการเรียนรู้ตลอดชีวิต” บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด เจ้าของแบรนด์ดัง บาร์บีคิวพลาซ่า, จุ่มแซบฮัท, ฌานา, โภชา และ หมูทอดกอดคอ โดยนายวิชชุพันธ์ จันทร์มณี ผู้ช่วยผู้บริหารฝ่ายทรัพยากรบุคคลและผู้อำนวยการศูนย์การเรียนฟู้ดแพชชั่น เข้าร่วมหารือกับนายพิริยพงศ์ แจ้งเจนเวทย์ รักษาการผู้อำนวยการสำนักพัฒนานวัตกรรมมาตรฐานอาชีพ พร้อมเป็นพันธมิตรกับสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ในการพัฒนากำลังคนในสถานประกอบการ โดยพร้อมให้สถาบันฯ ศึกษาเพื่อยอมรับกระบวนการพัฒนาและประเมินลูกจ้างในสถานประกอบการ สู่การได้รับคุณวุฒิวิชาชีพ ในสาขาอาชีพต่างๆ ที่เป็นประโยชน์กับการยกระดับคุณวุฒิของกำลังแรงงาน เช่น อาชีพผู้ประกอบอาหารในร้านอาหาร อาชีพผู้จัดการร้าน อาชีพผู้ช่วยผู้จัดการร้าน อาชีพพนักงานร้าน รวมไปถึงอาชีพโลจิสติกส์ อาชีพด้านการผลิตอาหารและเครื่องดื่ม ที่พร้อมให้พนักงานของ Food Passion ทั่้งที่อยู่ในร้านอาหาร ในครัวกลาง ในสำนักงาน สู่การได้รับคุณวุฒิวิชาชีพ และใช้กลไกกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ เพื่อการยอมรับในการเพิ่มรายได้ เลื่อนตำแหน่ง กำหนดอัตราเงินเดือน เปิดโอกาสพนักงานที่มีความสามารถแต่ขาดโอกาสไม่มีวุฒิการศึกษา ได้โอกาสที่ทัดเทียมด้วย “คุณวุฒิวิชาชีพ: คุณวุฒิสำหรับคนทำมาหากิน” ฟู้ดแพชชั่น เป็นผู้นำธุรกิจร้านอาหารชั้นนำในไทย มีแบรนด์เรือธงอย่าง บาร์บีคิวพลาซ่า ที่ครองใจคนไทยมายาวนานกว่า 35 ปี จุ่มแซบฮัท ฌานา หมูทอดกอดคอ และเรดซัน เป็นผู้นำองค์กรอันดับ 1 “องค์กรแห่งความสุข” คว้ารางวัล Thailand Most Admird Commpany 2021 ด้านนวัตกรรม ความรับผิดชอบต่อสังคม และการให้บริการเป็นเลิศจากนิตยสารแบรนด์เอท และ HR Asia Award 2021 สุดยอดองค์กรด้านการบริหารงานทรัพยากรบุคคล ระดับภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะเรื่องความผูกพันที่พนักงานมีต่อองค์กรได้อย่างชัดเจน โดยมีค่าคะแนนด้าน Engagement ของพนักงานสูงกว่าคะแนนค่าเฉลี่ยของบริษัทโดยทั่วไป ซึ่งการร่วมมือกับสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ โดยทางฟู้ดแพชชั่น พร้อมเข้าสู่กระบวนการกระบวนการพัฒนาบุคลากรของ Food Passion ที่สามารถพิจารณายอมรับสู่การได้รับคุณวุฒิวิชาชีพ เป็น Career Path ของ Food Passion โดยทางสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพจะทำการวิเคราะห์งานตามขั้นตอนการปฏิบัติงาน พร้อมสู่การพิจารณายอมรับสู่คุณวุฒิวิชาชีพภายใต้แนวทางการเชื่อมโยงด้วยกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ (NQF) สามารถนำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ประกอบอาชีพได้อย่างชัดเจน ส่งเสริมให้สถานประกอบการเป็นผู้นำการพัฒนาและเพิ่มคุณวุให้กำลังแรงงานโดยใช้คุณวุฒิวิชาชีพ รวมถึงการขยายผลสู่กลุ่มอาชีพตลอด Supply Chain ของ Food Passion เพื่อให้คุณวุฒิวิชาชีพเป็น “ปริญญาทางอาชีพ” ให้ได้ทัดเทียมตามความสามารถและทักษะของกำลังแรงงานไทยต่อไป นอกจากนี้ กลไกเครื่องมือของสถาบันฯ เช่น กระบวนการส่งเสริมการฝึกอบรมตามมาตรฐานอาชีพ เพื่อพัฒนากำลังคนในสถานประกอบการ นำไปสู่การเพิ่มทักษะกำลังแรงงานได้อย่างยั่งยืน ทางด้านนายวิชชุพันธ์ จันทร์มณี ผู้ช่วยผู้บริหารฝ่ายทรัพยากรบุคคลและผู้อำนวยการศูนย์การเรียนฟู้ดแพชชั่น มองว่าความร่วมมือนี้นับเป็นประโยชน์อย่างมากกับพนักงานในฟู้ดแพชชั่น กว่า 3,000 คน ที่จะยกระดับได้รับคุณวุฒิวิชาชีพตรงตามประสบการณ์และทักษะที่มี เป็นการสร้างความภาคภูมิใจและบริษัทสามารถให้ผลตอบแทนได้ตามศักยภาพการทำงาน ซึ่งตรงตามนโยบายด้านการพัฒนาบุคลากรของบริษัทเป็นอย่างยิ่ง เพิ่มโอกาสขยายผลจากที่บริษัท กำลังดำเนินการศูนย์การเรียนรู้ฟู้ดแพชชั่น โดยเฉพาะในเร็วๆนี้ ทางฟู้ดแพชชั่นมีแผนนำบริษัทเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย การพัฒนาบุคลากรจึงถือว่าเป็นการดำเนินการ CSR in Process มุ่งเน้นการส่งเสริมให้พนักงานได้เพิ่มคุณวุฒิ ด้วยคุณวุฒิวิชาชีพ และยอมรับการเทียบเท่าของคุณวุฒิวิชาชีพและคุณวุฒิการศึกษา ภายใต้หลักการของกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ National Qualification Framework ที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเมื่อ 18 เมษายน 2560 มาสู่การปฏิบัติจริงในสถานประกอบการ เพิ่มโอกาสความก้าวหน้าในอาชีพ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แรงงานที่มีโอกาสพัฒนาผ่านสถานประกอบการ ให้ได้มีโอกาสทางอาชีพและทางการศึกษาที่เหมาะสมกับความรู้ความสามารถของตนเองต่อไป

  • สคช. ย้ำกำลังแรงงานคุณภาพ ทักษะสูงและนวัตกร ไม่ได้จำกัดแค่สถานศึกษา พร้อมชวนสร้างค่านิยมการยอมรับกำลังแรงงานด้วยประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ

    05.08.2565
    6,107 View

    สคช. ย้ำกำลังแรงงานคุณภาพ ทักษะสูงและนวัตกร ไม่ได้จำกัดแค่สถานศึกษา พร้อมชวนสร้างค่านิยมการยอมรับกำลังแรงงานด้วยประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ร่วมเวทีเสวนา การพัฒนานักปฏิบัติขั้นสูงและนวัตกร เพื่อการพัฒนากำลังคนของประเทศ ในงานแสดงวิสัยทัศน์ ยุทธศาสตร์ และผลงานสำคัญของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (RMUT EXPO) สำหรับเป็นแนวทางในการปรับเปลี่ยนบทบาทของกลุ่มมหาวิทยาลัยให้เหมาะสมกับการยกระดับและพลิกโฉมอุตสาหกรรม สังคม และชุมชนท้องถิ่น โดยมี รศ.ดร สมหมาย ผิวสะอาด ประธานที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ดร. อำพล อาภาธนากร ผู้จัดการนวัตกรรม สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ ร่วมการเสวนา นางสาววรชนาธิป กล่าวบนเวทีเสวนาว่า นักปฏิบัติขั้นสูง และนวัตกร ซึ่งถือเป็นบุคลากรที่มีทักษะสูง และมีศักยภาพ ซึ่งไม่เพียงแต่จำกัดอยู่แค่ในสถานศึกษาเท่านั้น แต่ยังแฝงตัวอยู่ในชุมชนอีกเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นผู้นำชุมชน ปราชญ์ชาวบ้าน หรือแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญในอาชีพ ซึ่งยังไม่ได้เป็นที่รับรู้แพร่หลายเหมือนกับผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ จะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความก้าวหน้าให้กับคนเหล่านี้ ให้ได้รับการรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ เพื่อเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าคนๆ นั้นสามารถประกอบอาชีพได้อย่างมีมาตรฐานที่สากลให้การยอมรับ อาทิ การเข้าไปให้การรับรองบุคลากร ในอุตสาหกรรมยานยนต์ อย่าง บริษัท Auto Alliance ประเทศไทย จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์ Ford และ Mazda ซึ่งมีกลุ่มพนักงานฝ่าย Production ที่ได้สั่งสมประสบการณ์การทำงาน และนำมาพัฒนาปรับปรุงไลน์การผลิตรถยนต์ รวมถึงออกแบบนวัตกรรมต่างๆ เช่น ไลน์การตรวจสอบคุณภาพรถยนต์ Quality Check ที่มีการนำเทคโนโลยี Image Processing และ AI มาช่วยทำการตรวจสอบคุณภาพรถยนต์ก่อนออกจากโรงงาน โดยลดการใช้แรงงานผู้ตรวจสอบคุณภาพรถ และยังเป็นต้นแบบที่นำไปขยายผลใช้ทั่วโลก ซึ่งถือเป็นนักนวัตกร ที่อยู่ในสถานประกอบการ สร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ที่แท้จริง สามารถได้รับคุณวุฒิวิชาชีพในระดับ 8 ที่ถือเป็นระดับที่สูงสุดในอาชีพ เทียบเท่าได้กับคุณวุฒิทางการศึกษาในระดับปริญญาเอก ไม่เพียงแต่บุคลากรในภาคของอุตสาหกรรมการผลิตเท่านั้น ที่มีการพัฒนาในเรื่องของนวัตกรรม สคช. ยังให้ความสำคัญกับในมิติของคนทำมาหากิน ที่ขาดโอกาสทางการศึกษา แต่เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ อาทิ เกษตรกร ในจังหวัดร้อยเอ็ดกว่า 500 คน ที่มีวุฒิทางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ไม่ได้มีโอกาสต่อยอดทางการศึกษาระดับสูง แต่เขาเหล่านั้นเป็นผู้มีความรู้ ความสามารถในการปลูกข้าว ทั้งเรื่องการศึกษา วิเคราะห์ สร้างผลผลิตในพื้นที่ให้มีคุณภาพ ซึ่งถือเป็นผู้พัฒนานวัตกรรม สร้างให้เกิดคุณภาพชีวิตที่ดีเกิดขึ้นในพื้นที่ ซึ่งคุณวุฒิวิชาชีพที่มอบให้กลุ่มเกษตรกรจะเป็นเครื่องวัดระดับความรู้ ความสามารถให้กับพวกเขา ที่มีศักดิ์และสิทธิ์เทียบเคียงได้กับคุณวุฒิทางการศึกษา ทำให้เกิดความภาคภูมิใจในการเป็นเกษตรกร ทั้งนี้ขอเชิญชวนมาร่วมกันสร้างค่านิยมใหม่ เพื่อให้เกิดการยอมรับคุณวุฒิวิชาชีพ เพื่อสร้างโอกาสความก้าวหน้าในการประกอบอาชีพให้กับคนไทยด้วยกัน

  • สคช. ยึดองค์กรโปร่งใสลำดับที่ 2 ของหน่วยงานในสังกัดนายกรัฐมนตรี จากผลประเมิน ITA

    03.08.2565
    5,339 View

    สคช. ยึดองค์กรโปร่งใสลำดับที่ 2 ของหน่วยงานในสังกัดนายกรัฐมนตรี จากผลประเมิน ITA คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ประกาศผลการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (Integrity and Transparency Assessment: ITA) ประจำปี 2565 โดยผลประเมินสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. อยู่ในระดับ AA ได้ 97.10 คะแนน จากคะแนนเต็ม 100 คะแนน อยู่ลำดับที่ 2 ของหน่วยงานภาครัฐในสังกัดนายกรัฐมนตรี และอยู่ในลำดับที่ 5 จาก 57 หน่วยงานองค์การมหาชนทั้งหมด สะท้อนการเป็นหน่วยงานต้นแบบด้านคุณธรรมและความโปร่งใสให้แก่หน่วยงานอื่นๆ ได้ โดยเฉพาะตัวชี้วัดในด้านการเปิดเผยข้อมูล และการป้องกันการทุจริต ที่ได้ถึง 100 คะแนนเต็ม ขณะที่การปฏิบัติหน้าที่ได้ 99.41 คะแนน ตอกย้ำถึงประสิทธิภาพในการป้องกันการทุจริตภายในองค์กร และปฏิบัติหน้าที่อย่างซื่อสัตย์สุจริต รวมถึงมีการพัฒนาเปิดเผยข้อมูลและการให้บริการสาธารณะ ง่ายต้องการเข้าถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ และการมีส่วนร่วมของประชาชนที่สามารถเป็นส่วนหนึ่งในการตรวจสอบการปฏิบัติงานของหน่วยงานภาครัฐ นายนคร ศิลปอาชา ประธานกรรมการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ กล่าวว่า สคช. ได้เน้นย้ำการปฏิบัติหน้าที่ บริหารองค์กรให้เป็นองค์กรที่มีคุณธรรม มีความโปร่งใสตรวจสอบได้มาโดยตลอด ผลการประเมินที่ได้รับในครั้งนี้จึงเป็นรางวัลความตั้งใจในการทำงาน ไม่เพียงแต่มุ่งมั่นให้บุคลากรภายในขององค์กรต่อต้านการทุจริตทุกรูปแบบ แต่ สคช. ยังมุ่งหวังให้ผู้มีส่วนได้เสีย และคนไทยในทุกอาชีพ ได้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาการทุจริต ที่นับเป็นอาชญากรรมประเภทหนึ่งที่เป็นอุปสรรคต่อการเข้าถึงทรัพยากรและโอกาสในการพัฒนาด้านต่างๆ ขณะที่นายสุรพล พลอยสุข ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ย้ำว่า สคช. ได้ประกาศเจตจำนงไม่เพิกเฉยต่อการทุจริตในทุกระดับ ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน มีความโปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้าง และการใช้จ่ายงบประมาณ พร้อมเปิดเผยข้อมูลในหลายช่องทางเพื่อประโยชน์ของประชาชน และนำไปสู่การพัฒนาประเทศ เพื่อหวังเป็นส่วนหนึ่งในการทำให้ประเทศไทยมีการบริหารราชการภายใต้หลักคุณธรรมและความโปร่งใส สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต และยังเป็นการดำเนินการตามมาตรการด้านความโปร่งใสในการดำเนินของภาครัฐต่อสหประชาชาติด้วย

  • "สคช. มุ่งเป้า! จับมือสมาคมโรงแรมไทย สร้างมืออาชีพ พัฒนากำลังคนในสถานประกอบการด้วยคุณวุฒิวิชาชีพ"

    03.08.2565
    5,991 View

    "สคช. มุ่งเป้า! จับมือสมาคมโรงแรมไทย สร้างมืออาชีพ พัฒนากำลังคนในสถานประกอบการด้วยคุณวุฒิวิชาชีพ" นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ หารือความร่วมมือ กับคุณมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย และรองประธานกรรมการบริหาร กลุ่มโรงแรมเครือสุโกศล คุณสุรวัช อัครวรมาศ รองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย คุณกิตติ พรศิวะกิจ ประธานอนุกรรมการ Smart Tourism สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และคณะ เพื่อร่วมกันการพัฒนากำลังคนในกลุ่มโรงแรมด้วยคุณวุฒิวิชาชีพ โดยมุ่งเน้นการทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนาศักยภาพกำลังคนผู้ประกอบอาชีพในโรงแรมที่เป็นสมาชิกสมาคมโรงแรมไทยในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อการยกระดับกำลังคนในสถานประกอบการให้ได้รับคุณวุฒิวิชาชีพ สร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวผู้ใช้บริการมีความเชื่อมั่นในความสามารถของพนักงานโรงแรมที่มีความสามารถในการทำงานอย่างเป็นมืออาชีพ โดยมีแนวทางความร่วมมือการพัฒนากำลังคนในสถานประกอบการโรงแรม ผ่านการพัฒนาสมรรถนะการทำงานของบุคลากรในโรงแรมไทยที่เป็นวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมสู่ความเป็นมืออาชีพ (Upskill for MSME Hotel Workforce) และการยอมรับกระบวนการพัฒนาบุคลากรของโรงแรมที่มีการดำเนินการอยู่แล้ว เพื่อรับรองคุณวุฒิวิชาชีพให้แก่บุคลากรในสถานประกอบการ ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมและยกระดับคุณวุฒิให้ผู้ประกอบอาชีพในโรงแรมไทยด้วยระบบคุณวุฒิวิชาชีพ ซึ่งในระยะเริ่มต้นจะมุ่งเน้นการพัฒนากำลังคนในโรงแรมในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของประเทศที่เป็นเป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติ เช่น พัทยา หัวหิน เป็นต้น นอกจากนี้ ได้หารือถึงแนวทางการพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการโรงแรมไทยให้สามารถปรับตัวสู่ธุรกิจใหม่ และโครงสร้างเศรษฐกิจที่ปรับเปลี่ยนไปภายหลังสถานการณ์โควิท-19 (Post-Pandemic Economy) โดยเฉพาะการสร้างจุดเด่นของโรงแรมไทยด้วยการให้บริการ Wellness Services ที่มีมาตรฐานสากลรองรับ เช่น การพัฒนา Wellness Spa หรือ Wellness Cuisine หรือ Wellness Fitness เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าที่เป็นกลุ่ม Wellness Traveler ซึ่งสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ได้มีความร่วมมือกับ Global Healthcare Accreditation ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อยกระดับบุคลากรด้านการท่องเที่ยวให้มีความสามารถในการให้บริการ wellness travel trends ได้ ซึ่งสถาบันฯ สามารถบูรณาการความร่วมมือดังกล่าวเพื่อการพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการโรงแรมไทยได้สร้างจุดเด่นในการให้บริการ Wellness Services ได้อย่างมีมาตรฐานสากลอีกด้วย

  • สคช.ร่วมงาน การประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการส่งเสริมครูฝึกในสถานประกอบการระดับอาเซียน ครั้งที่ 10

    02.08.2565
    9,542 View

    นางสาวจุลลดา มีจุล รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมด้วย Ms.Miriam Heidtmann ผู้อำนวยการโครงการส่งเสริมครูฝึกในสถานประกอบการอาเซียน ร่วมเปิดงาน การประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการส่งเสริมครูฝึกในสถานประกอบการระดับอาเซียน ครั้งที่ 10 พร้อมผู้แทนประเทศสมาชิกอาเซียน ณ โรงแรมพูลแมน พัทยา จี โดยการประชุมดังกล่าว องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) จัดขึ้น เพื่อพัฒนาครูฝึกในสถานประกอบการในอาเซียนและสนับสนุนการพัฒนาการฝึกอบรมสายวิชาชีพ อันจะนำไปสู่การบรรเทาปัญหาการขาดแคลนแรงงานฝีมือในภูมิภาค ซึ่งสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เป็นผู้แทนประเทศไทย ในฐานะคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการฯ ปัจจุบัน สคช. ร่วมกับสถานประกอบการต่างๆ ผลักดันให้ครูฝึกในสถานประกอบการ หัวหน้าช่าง หัวหน้าแผนก และผู้ที่ทำหน้าที่สอนงานพนักงานในสถานประกอบการได้รับการรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ เพื่อประกันคุณภาพการฝึกอบรม และสร้างความก้าวหน้าให้กับครูฝึกฯ นอกจากนี้ยังร่วมกับ คณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการฯ วางแผนจะสนับสนุนการพัฒนาครูฝึกฯ อย่างต่อเนื่อง โดยจะร่วมกันพัฒนาหลักสูตรเพิ่มเติมเกี่ยวกับความสามารถด้านการใช้ดิจิทัล ในการฝึกอบรมให้กับต้นแบบครูฝึกในสถานประกอบการ และเติมทักษะให้ครูฝึกฯ ที่ฝึกอบรมนักศึกษาทวิภาคีด้วยการใช้ E-Learning อันจะช่วยสนับสนุนการพัฒนาอาชีวศึกษาให้ผลิตกำลังคนที่มีทักษะตามความต้องการของสถานประกอบการต่อไป

  • สคช. ร่วมแสดงความยินดี ในงาน BEYOND BORDERS ก้าวข้ามทุกขีดจำกัด ส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น

    01.08.2565
    10,385 View

    สคช. ร่วมแสดงความยินดี ในงาน BEYOND BORDERS ก้าวข้ามทุกขีดจำกัด ส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ร่วมแสดงความยินดี ในงาน “บสย. BEYOND BORDERS ก้าวข้ามทุกขีดจำกัด” ซึ่งบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม หรือ บสย. จัดขึ้น เพื่อเปิดตัวอัตลักษณ์ใหม่ ผ่านแนวคิด “Fast&First รวดเร็ว รอบคอบ ที่หนึ่งในใจ SMEs” ช่วยผู้ประกอบการ SMEs ให้เข้าถึงแหล่งทุนได้มากขึ้น ด้วยการนำนวัตกรรม Digital Technology เป็นตัวขับเคลื่อน การค้ำประกันสินเชื่อทุกแพลตฟอร์ม ตามนโยบายของรัฐบาลก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของโลกดิจิทัลและโลกการเงินอย่างยั่งยืน โดยมีนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานกล่าวเปิดงาน ท่ามกลาง ผู้แทนสมาคม สถาบันการเงินของรัฐ ผู้บริหารระดับสูง และผู้แทนองค์กรจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคธุรกิจ เข้าร่วมในงาน นางสาววรชนาธิป กล่าวว่า ที่ผ่านมา สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. ได้มีการทำงานร่วมกันกับพันธมิตรอย่าง บสย. อย่างต่อเนื่อง ตามโครงการพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs คุณวุฒิวิชาชีพ เพิ่มโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุน โดย บสย. จะทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้ผู้ประกอบการธุรกิจ SMEs ได้มีโอกาสเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น ทั้งการทำบัญชีการเงิน เสริมสภาพคล่องให้ธุรกิจ รวมถึงการเข้าไปช่วยค้ำประกันเงินกู้ ให้มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ทุกธนาคาร โดยเฉพาะผู้ที่ผ่านการประเมิน และได้รับการรับรองจาก สคช. ก็จะมีแต้มต่อในการพิจารณาให้สินเชื่อของสถาบันทางการเงินอีกด้วย นับเป็นการสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการ ได้มีภูมิคุ้มกันและเป็นฟันเฟืองสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศต่อไป

  • สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ถวายพระพรชัยมงคล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

    27.07.2565
    13,178 View

    สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ถวายพระพรชัยมงคล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

  • สคช มอบรางวัลยกย่องเชิดชูเกียรติบุคคลที่เป็นแบบอย่างด้านคุณธรรม

    27.07.2565
    12,717 View

    สคช มอบรางวัลยกย่องเชิดชูเกียรติบุคคลที่เป็นแบบอย่างด้านคุณธรรม

  • สคช. ร่วมเปิดศูนย์ทดสอบแบตเตอรี่และชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า เดินเครื่องเตรียมความพร้อมกำลังคน รองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศ

    20.07.2565
    13,959 View

    สคช. ร่วมเปิดศูนย์ทดสอบแบตเตอรี่และชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า เดินเครื่องเตรียมความพร้อมกำลังคน รองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศ นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ร่วมแสดงความยินดี ในการเปิดศูนย์ทดสอบแบตเตอรี่และชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า TUV SUD ณ นิคมอุตสาหกรรม อมตะ ซิตี้ จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางการทดสอบชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้าที่มีมาตรฐานในระดับสากล รองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศ และเพิ่มศักยภาพให้ผู้ประกอบการ สามารถส่งออกสู่ตลาดต่างประเทศได้ โดยมีนายพิสิฐ รังสฤษฏ์วุฒิกุล ผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ นางสาวพัชรดา นวกะวงษ์การ ผู้อำนวยการศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ 4 (ชลบุรี) คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนแห่งประเทศไทย (BOI) พร้อมด้วยผู้บริหาร TUV SUD Mr. Niranjan Nadkarni, CEO, South Asia, South East Asia, Middle East & Africa Region และ นายกุลธัช บุญบงการ ผู้จัดการทั่วไป TUV SUD ประเทศไทย ร่วมเปิดงาน นางสาววรชนาธิป กล่าวว่า สคช. ได้มีแนวทางส่งเสริมเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า ด้วยการพัฒนาทักษะกำลังคนภาคการผลิต ให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ประกอบการ รองรับการเติบโตของตลาดยานยนต์ ที่เปลี่ยนผ่านสู่ยุครถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% โดยการจัดทำมาตรฐานอาชีพผลิตชิ้นส่วนยานยนต์สมัยใหม่ พัฒนากำลังคนใน 4 อาชีพ คือ ช่างประกอบแบตเตอรี่ ช่างซ่อมยานยนต์ไฟฟ้า ช่างติดตั้งและซ่อมบำรุงสถานีชาร์จ และช่างโปรแกรมเมอร์ยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งหลังจากนี้ สคช. และ TUV SUD จะร่วมกันพัฒนาและส่งเสริมให้บุคลากรที่เกี่ยวข้อง เข้าสู่การประเมินเพื่อรับการรับรองด้วยระบบคุณวุฒิวิชาชีพ ซึ่งไม่เพียงจะช่วยยกระดับขีดความสามารถบุคลากรเท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค และเป็นที่ยอมรับได้ว่ากระบวนการติดตั้ง ประกอบชิ้นส่วน ยานยนต์ไฟฟ้า เป็นไปตามมาตรฐานที่ทั่วโลกให้การยอมรับ เช่นเดียวกับ BOI ที่ร่วมสนับสนุนเตรียมความพร้อมของบุคลากร ให้ก้าวทันกับการเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ประกอบการ พร้อมส่งเสริมให้เกิดการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทยต่อไป

  • สคช. ร่วมเปิดการประกวดดนตรีและมาร์ชชิ่งอาร์ทชิงแชมป์โลก 2022 ดันเยาวชนที่มีความสามารถด้านดนตรี สู่เวทีระดับโลก

    13.07.2565
    15,430 View

    สคช. ร่วมเปิดการประกวดดนตรีและมาร์ชชิ่งอาร์ทชิงแชมป์โลก 2022 ดันเยาวชนที่มีความสามารถด้านดนตรี สู่เวทีระดับโลก นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ร่วมพิธีเปิด การประกวดดนตรีและมาร์ชชิ่งอาร์ทชิงแชมป์โลก 2022" (WAMSB World Championships 2022) ซึ่งกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม สมาคมดนตรีและมาร์ชชิ่งอาร์ทสากล และหน่วยงานพันธมิตร ร่วมกันจัดขึ้น โดยมีนายกฤษฎา คงคะจันทร์ รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานเปิดงาน เพื่อส่งเสริมพัฒนาศักยภาพของเยาวชนและบุคลากร ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในวงการดนตรีและมาร์ชชิ่งอาร์ทได้มีประสบการณ์ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันระหว่างนักดนตรีชาวไทยและชาวต่างชาติ ในการพัฒนาศักยภาพทาง พร้อมส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักในเวทีโลก นางสาววรชนาธิป กล่าวว่า การจัดการประกวดครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสครั้งสำคัญ ในการพัฒนาศักยภาพทางด้านดนตรี ซึ่งจะเป็นการผลักดันให้เกิด Soft Power ที่จะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ สอดรับนโยบายของรัฐบาล ที่ต้องการให้หน่วยงานภาครัฐทำงานร่วมกับภาคเอกชนดำเนินการขับเคลื่อนและสนับสนุน Soft Power และอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของไทยให้เป็นที่รู้จักทั่วโลก โดยสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ร่วมส่งเสริมบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถทางด้านดนตรี ให้มีมาตรฐานระดับโลก ตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ในการจัดทำมาตรฐานอาชีพด้านดนตรีฯ ครอบคลุมทั้งผู้เล่น ผู้ตัดสินการประกวด และการแข่งขันต่างๆ ซึ่งไม่เพียงพัฒนาความรู้ ความสามารถ ทักษะส่วนบุคคลทางด้านดนตรีเท่านั้น แต่จะช่วยยกระดับศิลปวัฒนธรรม และดนตรีของไทย ให้มีมาตรฐานเทียบเท่าสากล ด้วยการรับรองคุณวุฒิวิชาชีพบุคลากรในแวดวงศิลปวัฒนธรรม และดนตรีอย่างแท้จริง สำหรับการประกวดจะมีจนถึงวันที่ 16 กรกฎาคม 2565 มีประเทศที่เข้าร่วมในครั้งนี้รวม 15 ประเทศ คือ ประเทศกัมพูชา บรูไน ลาว มาเลเซีย เมียนมาร์ ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เวียดนาม อินโดนีเซีย สหรัฐอเมริกา ประเทศแคนาดา เนเธอร์แลนด์ ญี่ปุ่น สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล และประเทศไทย มีเยาวชนวงดนตรีตัวแทนประเทศไทย เข้าแสดงฝีมือ รวม 23 วง นับเป็นการเปิดโลกทัศน์ และสนับสนุนเยาวชนไทยได้มีโอกาสในการแข่งขันระดับโลก พร้อมนำไปสู่การพัฒนาวิชาชีพที่เกี่ยวข้องกับดนตรีอีกด้วย

  • “สคช. ร่วมไว้อาลัยอดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ฯพณฯ ชินโซ อาเบะ”

    12.07.2565
    14,553 View

    “สคช. ร่วมไว้อาลัยอดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ฯพณฯ ชินโซ อาเบะ” วันนี้ 12 กรกฎาคม 2565 นายนคร ศิลปอาชา ประธานกรรมการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมผู้บริหารและเจ้าหน้าที่สถาบันฯ เข้าร่วมแสดงความอาลัยต่อการถึงแก่อสัญกรรมของนายชินโซ อาเบะ อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ณ สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ในการนี้ ได้ร่วมลงนามในหนังสือไว้อาลัยเพื่อเป็นการให้เกียรติและไว้อาลัยต่อการจากไปของ ฯพณฯ ชินโซ อาเบะ โดยในหนังสือไว้อาลัย ได้แสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อครอบครัวของนายอาเบะและประชาชนชาวญี่ปุ่นทั้งประเทศ รวมทั้งยกย่องอดีตผู้นำญี่ปุ่นผู้นี้ว่าเป็นรัฐบุรุษของญี่ปุ่นซึ่งได้รับการยอมรับและชื่นชมจากคนไทยในฐานะผู้ซึ่งอุทิศตนในการรับใช้ประชาชนและทุ่มเทให้กับการเสริมสร้างและกระชับความสัมพันธ์กับประเทศไทยให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยทิ้งท้ายว่าเขาจะเป็นที่จดจำของทุกคนตลอดไปในฐานะแบบอย่างของผู้นำในการปฏิรูปโครงสร้างทางเศรษฐกิจ

  • สคช.-IOM ร่วมเติมเต็มทักษะแรงงานข้ามชาติในอุตสาหกรรมก่อสร้าง สร้างช่างก่อสร้างมืออาชีพ ร่วมแก้ปัญหาแรงงานขาดแคลน

    11.07.2565
    15,076 View

    สคช.-IOM ร่วมเติมเต็มทักษะแรงงานข้ามชาติในอุตสาหกรรมก่อสร้าง สร้างช่างก่อสร้างมืออาชีพ ร่วมแก้ปัญหาแรงงานขาดแคลน สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ร่วมกับองค์การระหว่างประเทศว่าด้วยการโยกย้ายถิ่นฐาน (International Organization for Migration: IOM) และโดยการสนับสนุนจากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน สภาคริสตจักรแห่งประเทศไทย และวิทยาลัยเทคโนโลยีหมู่บ้านครู จัดการฝึกอบรมหลักสูตร "เตรียมความพร้อมก่อนการประเมินสมรรถนะฯ อาชีพช่างก่ออิฐ ระดับ 2" ให้กับกลุ่มแรงงานข้ามชาติ ที่อยู่ในอุตสาหกรรมก่อสร้าง ซึ่งเป็นกิจกรรมภายใต้โครงการบรรเทาความยากจนผ่านการพัฒนาทักษะแรงงาน เพื่อการโยกย้ายถิ่นฐานที่ปลอดภัยในสถานการณ์ปกติของกัมพูชา ลาว เมียนมา และไทย (Poverty reduction through Safe Migration, Skill Development and Enhanced Job Placement in Cambodia, Lao PDR, Myanmar and Thailand (PROMISE)) ที่ IOM ร่วมมือกับสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) จัดการอบรมและประเมินเพื่อรับรองคุณวุฒิวิชาชีพให้แรงงานข้ามชาติในกลุ่มอาชีพต่างๆ ที่ทำงานอยู่ในประเทศไทย ทั้งในภาคบริการ เช่น แม่บ้านที่ทำงานในบ้าน (Domestic Worker) ภาคอุตสาหกรรม เช่น ช่างตัดเย็บเสื้อผ้า ช่างก่อสร้าง เป็นต้น โครงการ PROMISE เป็นโครงการที่เน้นการช่วยส่งเสริมให้แรงงานต่างด้าวได้รับการพัฒนาทักษะที่เหมาะสม และสร้างโอกาสในการเคลื่อนย้ายผ่านช่องทางที่ถูกกฎหมายต่อไป โดยโครงการได้รับการสนับสนุน ด้านงบประมาณจาก Swiss Agency for Development and Cooperation (SDC) มีวัตถุประสงค์ในการสร้างความเข้มแข็งในการเชื่อมโยงแรงงานย้ายถิ่นและการลดความยากจนในประเทศไทย โดยมุ่งเน้นความร่วมมือด้านการจ้างงานและการพัฒนาทักษะแรงงาน เข้าถึงการรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ ซึ่งเป็นคุณวุฒิที่เป็นทางการที่มีความเทียบเท่ากับคุณวุฒิทางการศึกษา รวมถึงการจ้างงานและการคุ้มครองแรงงานที่มีจริยธรรม เพื่อสร้างโอกาสให้แรงงานต่างด้าวเข้าสู่การโยกย้ายถิ่นฐานที่ปลอดภัยและการจ้างงานที่มีคุณค่า ได้รับการรับรองทักษะ ความรู้ ความสามารถในการทำงานที่สั่งสมเรียนรู้จากประสบการณ์ทำงานจริง ให้ได้รับเป็นการรับรองมาตรฐานอาชีพ และการได้รับคุณวุฒิวิชาชีพ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ที่จะสามารถเป็นเครื่องยืนยันความสามารถในการทำงานที่ได้มาตรฐาน เป็นมืออาชีพในการทำงานอย่างแท้จริง สำหรับการฝึกอบรมในหลักสูตร "เตรียมความพร้อมก่อนการประเมินสมรรถนะฯ อาชีพช่างก่ออิฐ ระดับ 2" นั้น ได้รับเกียรติจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์วราธร แก้วแสง ประธานหลักสูตรสาขาวิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์ พร้อมด้วยคณาจารย์ในแผนกวิชาก่อสร้าง วิทยาลัยเทคโนโลยีหมู่บ้านครู และนายประสิทธิ์ ธงทัศวรรธนะ ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน สภาคริสตจักรแห่งประเทศไทย ร่วมเป็นคณะวิทยากรในการอบรมให้ความรู้ และฝึกปฏิบัติให้กลุ่มแรงงานข้ามชาติ ได้ฝึกอบรมการก่ออิฐมอญตามโจทย์ที่กำหนด ที่เป็นมาตรฐานการทำงานในอุตสาหกรรมก่อสร้าง ทั้งนี้ การพัฒนากำลังแรงงานในอุตสาหกรรมก่อสร้างภายใต้โครงการดังกล่าว เป็นการช่วยบรรเทาปัญหาที่ภาคการก่อสร้างขาดแคลนแรงงานร่วม 3-4 แสนคน ซึ่งใช้แรงงานต่างด้าวเป็นหลัก และจากปัญหาแรงงานก่อสร้างขาดแคลนอย่างหนัก ทำให้โครงการก่อสร้างล่าช้าไป 3-4 เดือน นอกจากนี้ จากมุมมองของผู้ประกอบการเป็นที่ชัดเจนว่า แรงงานก่อสร้างวิกฤตมาก การปรับค่าแรงก็ยังหาแรงงานไม่ได้ และยังมีความต้องการช่างฝีมือขั้นสูงมาเก็บงาน เช่น ช่างทาสี ปูกระเบื้อง เดินสายไฟฟ้า ท่อน้ำประปา ติดตั้งเครื่องสุขภัณฑ์ ซึ่งสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ได้จัดทำคุณวุฒิวิชาชีพในอุตสาหกรรมก่อสร้างและการผังเมืองรองรับงานที่ขาดแคลนดังกล่าวด้วย ซึ่งการพัฒนากำลังแรงงานทั้งแรงงานไทย และแรงงานข้ามชาติในอุตสาหกรรมนี้จะเป็นการช่วยลดปัญหาการขาดแคลนแรงงานในภาคนี้ได้อีกด้วย