ข่าวประชาสัมพันธ์

  • สคช. ก้าวสู่ปีที่ 11 จัดกิจกรรมทำบุญประจำปี 2565 มุ่งยกระดับกำลังแรงงานด้วยระบบคุณวุฒิวิชาชีพ

    21.04.2565
    10,012 View

    สคช. ก้าวสู่ปีที่ 11 จัดกิจกรรมทำบุญประจำปี 2565 มุ่งยกระดับกำลังแรงงานด้วยระบบคุณวุฒิวิชาชีพ นายนคร ศิลปอาชา ประธานกรรมการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมนายสุรพล พลอยสุข ผู้อำนวยการสถาบันฯ นางสาววรชนาธิป จันทนู นางสาวจุลลดา มีจุล รองผู้อำนวยการสถาบันฯ นางสาวนฤมล พูลทรัพย์ ที่ปรึกษาประธานสถาบันฯ นำคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่สถาบันฯ ร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์และทำบุญเลี้ยงพระ ในกิจกรรมทำบุญประจำปี 2565 โดยได้นิมนต์พระสงฆ์จากวัดนาคปรก จำนวน 9 รูป ถวายภัตตาหารเพลพร้อมอาราธนาธรรม และแสดงธรรมเทศนา โดย พระเดชพระคุณพระกิตติโสภณวิเทศ เจ้าคณะแขวงปากคลองภาษีเจริญ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการทำงานและเพื่อความเป็นสิริมงคล การก้าวเข้าสู่ปีที่ 11 ปีของสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ได้เดินหน้าจัดทำมาตรฐานอาชีพกว่า 900 อาชีพ เพื่อให้ผู้ที่ผ่านการประเมิน ได้รับการรับรองด้วยประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ เพื่อยืนยันถึงความสามารถ และสมรรถนะกำลังคน พร้อมส่งเสริมให้กำลังแรงงานของไทย มีโอกาสในการพัฒนาศักยภาพของตนเองให้เทียบเท่าระดับสากล

  • สคช. ร่วมกับมหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าธนบุรี จัดเวทีสัมมนาผลการศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลมาตรฐานอาชีพ สาขาวิชาชีพผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ สาขายานยนต์สมัยใหม่

    08.04.2565
    10,419 View

    สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. ร่วมกับมหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าธนบุรี และผู้เชี่ยวชาญด้านยานยนต์ไฟฟ้า พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าชั้นนำ จัดเวทีสัมมนาผลการศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพจากต่างประเทศ ที่สามารถเป็นตัวอย่างที่ดีในการจัดทำมาตรฐานอาชีพได้ ไม่ว่าจะเป็นสหราชอาณาจักร ประเทศออสเตรเลีย และประเทศมาเลเซีย เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาในการจัดทำมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ สาขาวิชาชีพผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ สาขายานยนต์สมัยใหม่ โดยนำร่อง 4 อาชีพ คือ ช่างประกอบแบตเตอรี่ ช่างซ่อมยานยนต์ไฟฟ้า ช่างติดตั้งและซ่อมบำรุงสถานีชาร์จ และช่างโปรแกรมเมอร์ยานยนต์ไฟฟ้า เตรียมพัฒนากำลังคนให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ประกอบการ รองรับการเติบโตของตลาดยานยนต์ ที่เปลี่ยนผ่านสู่ยุครถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% หรือ EV (Electric Vehicle) โดยได้มีการแสดงความคิดเห็นอย่างหลากหลาย ทั้งจากผู้ประกอบการ บุคลากรผู้ประกอบอาชีพ และผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาวิชาชีพ

  • สคช. ประชุมร่วมคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยว วุฒิสภา ถกแนวทางการพัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยวทางน้ำ รองรับการเป็นท่าเรือต้นทาง หรือ Home Port

    05.04.2565
    11,522 View

    สคช. ประชุมร่วมคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยว วุฒิสภา ถกแนวทางการพัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยวทางน้ำ รองรับการเป็นท่าเรือต้นทาง หรือ Home Port นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เป็นตัวแทนสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. เข้าร่วมประชุมกับคณะกรรมาธิการพิจารณาศึกษาการพัฒนาคุณภาพการท่องเที่ยวทางน้ำและอื่นๆ ในคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยว วุฒิสภา เพื่อหารือแนวทางการพัฒนาบุคลากร เพื่อเตรียมความพร้อมในการพัฒนาท่าเรือภูเก็ตเป็นท่าเรือต้นทาง (Home Port) รองรับเรือสำราญ ซึ่งมีความจำเป็นต้องมีบุคลากรเพื่อสนับสนุนการทำงาน เดินหน้าพัฒนาด้านการท่องเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษาเข้าร่วมประชุม อาทิ กรมเจ้าท่า กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน มหาวิทยาลัยศรีปทุม มหาวิทยาลัยบูรพา และสมาคมวิชาชีพเรือสำราญแห่งประเทศไทย เป็นต้น นางสาววรชนาธิป กล่าวว่า ที่ผ่านมาสถาบันฯ ยังไม่ได้มีการดำเนินงานในส่วนที่เกี่ยวข้องกับอาชีพเรือสำราญโดยตรง แต่ได้มีการส่งเสริมและพัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยวมาอย่างต่อเนื่อง ในปีงบประมาณ 2565 ได้มีการจัดทำมาตรฐานอาชีพเพื่อพัฒนาบุคลากรที่ปฏิบัติงานเกี่ยวข้องกับเรือยอร์ช เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวทางน้ำอย่างเต็มที่ เนื่องจากการฟื้นตัวของธุรกิจการท่องเที่ยวทางทะเลด้วยเรือยอร์ชในประเทศไทยได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการรับนักท่องเที่ยว Test & Go ทางน้ำ หลังรัฐบาลเริ่มมีการผ่อนคลายมาตรการ ซึ่งจะกระตุ้นกลุ่มนักท่องเที่ยว ที่นิยมการเดินทางด้วยเรือยอร์ช และเรือสำราญ เนื่องจากมีศักยภาพในการใช้จ่ายสูง มีแนวโน้มขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะ พัทยา และภูเก็ต ส่งผลให้ต้องมีการจัดทำมาตรฐานอาชีพที่เกี่ยวข้องกับเรือยอร์ช ใน 4 กลุ่มอาชีพ คือ ช่างซ่อมเรือ ผู้ขับเรือ ช่างต่อเรือ และผู้ปฏิบัติงานบนเรือหรือกลุ่มบริการบนเรือ ซึ่งกลุ่มนี้อาจจะมีส่วนสำคัญในการนำมาตรฐานอาชีพที่เกี่ยวข้อง จะเป็นการพัฒนาบุคลากรที่ตอบโจทย์อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ทั้งในเรื่องของการให้บริการที่มีมาตรฐานความและมีความปลอดภัย สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวได้ นอกจากนี้ สคช. พร้อมต่อยอดให้กับบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ในการพัฒนากำลังคนไปสู่ธุรกิจเรือสำราญ ไม่ว่าจะเป็นหลักสูตรระยะสั้นที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาทักษะด้านภาษาอังกฤษ การเข้าไปเพิ่มทักษะในระบบ E-Training รวมไปถึงการประยุกต์ใช้มาตรฐานอาชีพที่เกี่ยวข้องกับ Food Beverage ที่สามารถเชื่อมโยงและปรับใช้กับการให้บริการบนเรือสำราญได้ พร้อมการันตรีด้วยหนังสือรับรองฯ และประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ ที่สากลให้การยอมรับ ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาบุคลากรรองรับการเติบโตของธุรกิจการท่องเที่ยวทางน้ำต่อไป

  • สคช. ท็อปฟอร์ม งานดีไม่มีโกง ประกาศเจตนารณ์ “ZERO Corruption”

    05.04.2565
    9,966 View

    สคช. ท็อปฟอร์ม งานดีไม่มีโกง ประกาศเจตนารณ์ “ZERO Corruption” นายนคร ศิลปอาชา ประธานกรรมการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมนายสุรพล พลอยสุข ผู้อำนวยการสถาบันฯ นางสาววรชนาธิป จันทนู นางสาวจุลลดา มีจุล รองผู้อำนวยการสถาบันฯ นางสาวนฤมล พูลทรัพย์ ที่ปรึกษาประธานสถาบันฯ นำคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่สถาบันฯ ร่วมพิธีประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน “สคช. ZERO Corruption” ณ ลานกิจกรรมสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) นายนคร กล่าวว่าการทุจริตนับเป็นอาชญากรรมประเภทหนึ่งที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาด้านต่างๆ ผู้นำองค์กรจะต้องแสดงความจริงใจ และปรับฐานความคิดในการไม่เพิกเฉยต่อการทุจริตในทุกระดับ ถึงแม้ว่าปัจจุบันยังคงเผชิญกับปัญหา COVID-19 แต่รัฐบาลยังคงต้องให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน ความโปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้างและการใช้จ่ายงบประมาณ ตลอดจนการสร้างความเข้มแข็ง และความเป็นอิสระให้กับหน่วยงานตรวจสอบ กิจกรรมในวันนี้จะเครื่องบ่งชี้สำคัญว่าผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ และเจ้าหน้าที่สนับสนุนโครงการ ของ สคช. ทุกท่านได้ร่วมกันแสดงพลังต่อต้านการทุจริต และการส่งเสริมความรู้ ทัศนคติ ทางด้านคุณธรรม และการรณรงค์ต่อต้านการทุจริตในองค์กร ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความโปร่งใสในการทำงานของ สคช. เพื่อให้สาธารณชนได้รับทราบตรวจสอบได้ นายสุรพล ซึ่งนำกล่าวประกาศเจตนารมณ์ในการบริหารหน่วยงานอย่างซื่อสัตย์ โปร่งใส และเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล ซึ่ง สคช. จะเป็นองค์กรที่ไม่เพิกเฉยต่อการทุกจริตในทุกระดับ และจะร่วมกันต่อต้าน กระตุ้นเตือนจิตสำนึกบุคลากรภายในให้ปฏิบัติตนตั้งมั่นในความซื่อสัตย์สุจริต ยืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้อง รับผิดชอบต่อประชาชน ประเทศชาติ ด้วยความตั้งใจในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลัง นายสุรพล ยังได้กล่าวนำประกาศเจตนารมณ์ เพื่อส่งเสริมการปลูกจิตสำนึก และสร้างการมีส่วนร่วมของบุคลากรในการป้องกันและต่อต้านการทุจริต 7 ข้อ เริ่มจากการปฏิบัติหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการยึดหลักมาตรฐาน และขั้นตอนอย่างเคร่งครัด ปฏิบัติหน้าที่อย่างมีประสิทธิผล โดยคำนึงถึงภารกิจที่ตอบสนองความต้องการของประชาชน การแก้ไขปัญหาต่อการทุจริต ด้วยการเฝ้าระวัง ตรวจสอบ และปรับปรุงการทำงาน ด้านการใช้จ่ายงบประมาณ ที่ต้องมีความคุ้มค่า โปร่งใส ตรวจสอบได้ ด้านการใช้อำนาจ โดยคำนึง 4 หลักสำคัญคือชอบด้วยกฎหมาย สุจริต ไม่เลือกปฏิบัติ และพอเหมาะสมควรได้สัดส่วนพอดี ด้านการใช้ทรัพย์สินของทางราชการ ที่มีกระบวนการกำกับ ตรวจสอบได้ และสุดท้ายคือการเปิดเผยข้อมูล ที่ต้องครบถ้วน มีประสิทธิภาพ ทั้งนี้นายนคร และนายสุรพล ยังได้นำคณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ลงนามประกาศเจตนารมณ์ ต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน เพื่อเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์โดยมุ่งหวังเป็นส่วนหนึ่งในการทำให้ประเทศไทยมีการบริหารราชการภายใต้หลักคุณธรรมและความโปร่งใส สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต และยังเป็นการดำเนินการตามมาตรการด้านความโปร่งใสในการดำเนินของภาครัฐต่อสหประชาชาติด้วย

  • สคช. ร่วมเปิดมหกรรมส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากงานวิจัย (TRIUP Fair 2022) ดัน พ.ร.บ. ส่งเสริมการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. 2564 สู่การนำไปใช้จริง

    04.04.2565
    10,388 View

    สคช. ร่วมเปิดมหกรรมส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากงานวิจัย (TRIUP Fair 2022) ดัน พ.ร.บ. ส่งเสริมการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. 2564 สู่การนำไปใช้จริง นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เป็นตัวแทนสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. ร่วมพิธีเปิด “มหกรรมส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากงานวิจัย (TRIUP Fair 2022)” ภายใต้แนวคิด ปลดล็อคความเป็นเจ้าของงานวิจัย สร้างศักยภาพไทยไร้ขีดจำกัด ซึ่งจัดโดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และหน่วยงานเครือข่ายกว่า 16 องค์กร โดยมี ศ.กิตติคุณนพ.สุทธิพร จิตต์มิตรภาพ ประธานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นประธานเปิดงาน และมีพลอากาศเอก ดร.ประจิน จั่นตอง ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม วุฒิสภา ให้เกียรติเข้าร่วมงาน มหกรรมครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของวงการวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทย ในการปลดล็อคความเป็นเจ้าของงานวิจัย เพื่อให้มีการนำนวัตกรรมไปใช้ในการวางแผนและพัฒนาประเทศ ภายใต้ พ.ร.บ. ส่งเสริมการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. 2564 ที่ จะเปิดโอกาสให้หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน มีโอกาสเกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยี และสามารถใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ พร้อมสร้างแรงจูงใจให้แก่ผู้รับทุน ในการสร้างผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่ตรงกับความต้องการของตลาด ช่วยกระตุ้นให้หน่วยงานสร้างขีดความสามารถในการบริหารจัดการผลงานวิจัยและนวัตกรรม ส่งผลให้ระบบวิจัยและนวัตกรรมของประเทศเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น นางสาววรชนาธิป กล่าวว่า สคช. มีงานวิจัยที่ได้รับการสนับสนุนจากคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2564 เพื่อนำมาใช้ในการวิจัยและพัฒนากำลังคนของประเทศ ด้วยระบบคุณวุฒิวิชาชีพ รวมถึงผลักดันและขับเคลื่อนนวัตกรรมต่างๆ ให้เกิดการใช้ประโยชน์จากระบบคุณวุฒิวิชาชีพและมาตรฐานอาชีพอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดการพัฒนาประเทศด้านกำลังคนอย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ภายในงานยังมีการมอบรางวัล Prime Minister’s Triup Awards 2022 ผลงานวิจัยแห่งชาติที่มีผลกระทบสูง ประจำปี 2565 ให้กับองค์กรหน่วยงานที่มีผลงานวิจัยโดดเด่นและส่งผลต่อการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงประเทศ พร้อมด้วยการเสวนา ตอกย้ำเห็นความสำคัญของ พ.ร.บ. ส่งเสริมการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรม พ.ศ.2564 เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมไทยอย่างก้าวกระโดด ความหวังของเอกชนและภาคประชาชน” ที่จะมาช่วยสร้างขีดความสามารถในการนำงานวิจัยและนวัตกรรมมาช่วยในการพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ ต่อไป

  • “สคช. ผนึก กรมการจัดหางาน ร่วมสร้างอาชีพ โกอินเตอร์ เตรียมพร้อมสร้างอาชีพสู่ต่างประเทศ และรับแรงงานไทยกลับบ้านพร้อมติดอาวุธ ด้วยคุณวุฒิวิชาชีพ”

    01.04.2565
    10,892 View

    “สคช. ผนึก กรมการจัดหางาน ร่วมสร้างอาชีพ โกอินเตอร์ เตรียมพร้อมสร้างอาชีพสู่ต่างประเทศ และรับแรงงานไทยกลับบ้านพร้อมติดอาวุธ ด้วยคุณวุฒิวิชาชีพ” วันนี้ 1 เมษายน 2565 นางสาวนฤมล พูลทรัพย์ ที่ปรึกษาสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ นายพิริยพงศ์ แจ้งเจนเวทย์ รักษาการผู้อำนวยการสำนักพัฒนานวัตกรรมคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมเจ้าหน้าที่สถาบันฯ เข้าร่วมประชุมหารือแนวทางความร่วมมือกับ กองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ กรมการจัดหางาน นำโดยนายสิบหมื่นชัย โพธิสินธุ์ ผู้ตรวจราชการกรมจัดหางาน นายปรีชา ดุจจานุทัศน์หัวหน้ากลุ่มงานบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศโดยรัฐ นางสาวบุษบัญชลี ภู่แก้วเผือก หัวหน้าฝ่ายจัดส่งไปทำงานสาธารณรัฐเกาหลี (EPS) โดยร่วมประชุมหารือที่ตึกประกันสังคม การประชุมหารือในครั้งนี้เป็นการขยายผลจากบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการระหว่าง กรมการจัดหางานกับสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) โดยการใช้ระบบคุณวุฒิวิชาชีพช่วยส่งเสริมการจัดส่งแรงงานไทยไปต่างประเทศ เพื่อเติมทักษะเพื่อแรงงานไทยไปต่างประเทศ โดยจะนำร่องในโครงการ IM Japan / EPS เกาหลี / แรงงานไทยไปซาอุดิอาระเบีย (มุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายแรงงานจาก 3 จังหวัดแรงงานภาคใต้ที่มีวัฒนธรรมและวิถีชีวิตที่ใกล้เคียงกับประเทศซาอุดิอาระเบีย) โดยทางสถาบันฯ พร้อมนำชุดฝึกอบรมออนไลน์ “TPQI E-Training” ที่สามารถเรียนได้ทุกที่ทุกเวลากว่า 378 ชุดฝึกอบรม ซึ่งเป็นสื่อการเรียนรู้ตามมาตรฐานอาชีพในการเข้าสู่ระบบคุณวุฒิวิชาชีพ เป็นการ Up-skill และ Re-skill ในด้านทักษะที่จำเป็นสำหรับการทำงานในต่างประเทศ ทั้งนี้ได้หารือถึง แนวทางใหม่ที่จะนำระบบคุณวุฒิวิชาชีพ ให้กับแรงงานไทยกลับจากต่างประเทศ ภายใต้แนวคิด “Happy Return” ให้แรงงานไทยกลับจากต่างประเทศให้ได้รับคุณวุฒิวิชาชีพที่หน่วยงานรัฐออกให้ผ่านการเทียบโอนประสบการณ์การทำงานในงานที่ทำด้วยมาตรฐานอาชีพ (Resk) ให้ได้การันตีจากเจ้าของอาชีพเพิ่มคุณภาพที่ดีให้กับทุกงาน ด้วยความรับรองเป็นมาตรฐานจากสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ นับว่าประสบการณ์ที่ทำงานในต่างประเทศนั้นเกิดประโยชน์สูงสุดแก่แรงงานไทย ทั้งนี้ทางคณะสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ได้พบ นายวรรณรัตน์ ศรีสุขใส รองปลัดกระทรวงแรงงาน เพื่อรายงานความร่วมมือระหว่างสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพและกระทรวงแรงงาน อีกด้วย #สคช. เสริมสร้างการเรียนรู้ตลอดชีวิต #กรมการจัดหางาน เปิดโอกาสแรงงานไทย โกอินเตอร์

  • สคช.ประชุมคณะรับรองมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ สาขาวิชาชีพเกษตรกรรม สาขาการเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจ

    31.03.2565
    9,967 View

    นายสุรพล พลอยสุข ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เป็นประธานการประชุมคณะรับรองมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ สาขาวิชาชีพเกษตรกรรม สาขาการเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจ ร่วมกับผู้แทนสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ ผู้แทนกรมส่งเสริมการเกษตร ผู้แทนกรมวิชาการเกษตร ประธานสหพันธ์เกษตรกรรมยั่งยืนแห่งประเทศไทย นายกสมาคมการค้าเกษตรกรรมยั่งยืนไทย ผู้แทนสมาคมผู้ค้าปลีกไทย ผู้แทนสมาคมผู้ประกอบการพืชผักผลไม้ไทย และผู้แทนสมาคมพืชสวยแห่งประเทศไทย หลังมีการจัดทำมาตรฐานอาชีพฯ เครื่องมือประเมินสมรรถนะ พร้อมที่จะนำไปประเมินและให้การรับรอง ผู้ที่อยู่ในอาชีพผู้ประเมินหลักปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับพืชอาหาร (GAP พืชอาหาร) และอาชีพผู้ตรวจแปลงเกษตรอินทรีย์ ระบบการรับรองแบบมีส่วนร่วม (PGS สำหรับพืชอาหาร) นายสุรพล กล่าวว่า การจัดทำมาตรฐานอาชีพครั้งนี้ ถือเป็นหนึ่งภารกิจในการใช้ระบบคุณวุฒิวิชาชีพขับเคลื่อนและพัฒนากำลังคน ด้านการเกษตรให้มีความเข้มแข็ง สร้างงาน สร้างอาชีพ ให้มีความมั่นคง สมกับการเป็นประเทศเกษตรกรรมที่มีบุคลากรมีความมั่นคงในอาชีพ สร้างรากฐานที่สำคัญทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในสินค้าเกษตรและอาหารปลอดภัยด้วยคุณภาพและมาตรฐาน สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล

  • สคช.เข้าร่วมการประชุม Regional Steering Committee Meeting ครั้งที่ 9 ผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งจัดโดยองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน หรือ GIZ ภายใต้โครงการความร่วมมือระดับภูมิภาค เพื่อพัฒนาการอาชีวศึกษาและการฝึกอบรม

    29.03.2565
    9,362 View

    นางสาวจุลลดา มีจุล รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมด้วย นางสาวโอมิกา บุญกัน รักษาการผู้อำนวยการสำนักมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ เข้าร่วมการประชุม Regional Steering Committee Meeting ครั้งที่ 9 ผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งจัดโดยองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน หรือ GIZ ภายใต้โครงการความร่วมมือระดับภูมิภาค เพื่อพัฒนาการอาชีวศึกษาและการฝึกอบรม ระบบการอาชีวศึกษาและการฝึกอบรมกำลังเปลี่ยนแปลงแบบเชิงรุกเพื่อพัฒนาทักษะแรงงานให้เป็นไปตามความต้องการของตลาดแรงงานในประเทศสมาชิกอาเซียน ยิ่งไปกว่านั้นการนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ในการแก้ไขปัญหาสามารถเพิ่มคุณภาพและประสิทธิภาพของการให้บริการของสถาบันอาชีวศึกษาและการฝึกอบรมเทคนิค ในการนี้ ได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลการจัดทำมาตรฐานอาชีพครูฝึกในสถานประกอบการ (TPQI In-Company Trainer Standards) ซึ่งเป็นมาตรฐานในระดับอาเซียน โดยการนำมาตรฐานครูฝึกในสถานประกอบการของอาเซียน (ASEAN In-Company Trainer Standards) มาปรับใช้และบูรณาการให้เป็นส่วนหนึ่งของระบบคุณวุฒิวิชาชีพ ซึ่งมาตรฐานมีความสอดรับกับการเปลี่ยนแปลงไปในบริบทของสังคมไทยและสังคมโลกเพื่อส่งเสริมให้สถานประกอบการนำมาตรฐานอาชีพไปใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม นางสาวโอมิกา กล่าวว่า สคช. ได้ร่วมกับ GIZ หอการค้าเยอรมัน-ไทย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ในการเทียบเคียงมาตรฐานอาชีพครูฝึกในสถานประกอบการกับมาตรฐานครูฝึกในสถานประกอบการของอาเซียน ส่งเสริมให้ครูฝึกในสถานประกอบการเข้ารับการประเมิน เพื่อเป็นการประกันคุณภาพการเรียนการสอนแบบทวิภาคี รวมทั้งสนับสนุนการฝึกอบรมในสถานประกอบการ กับหน่วยงานต่างๆ อาทิ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและสมาคมวิชาชีพ เพื่อเข้าสู่การรับรองระบบคุณวุฒิวิชาชีพได้ โดยขณะนี้มีครูฝึกในสถานประกอบการ ได้รับการรับรองตามมาตรฐานอาชีพแล้วกว่า 232 คน ส่งผลให้ได้รับค่าตอบแทนในอาชีพเพิ่มขึ้น และยังเป็นต้นแบบถ่ายทอดประสบการณ์การทำงาน ที่สำคัญมีการขึ้นทะเบียนครูฝึกที่ผ่านการรับรองเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้เข้ารับการอบรมอีกด้วย

  • สคช. ยกทีม ลงพื้นที่จังหวัดกระบี่ จัดกิจกรรม CSR สานฝัน ปันใจ สู่น้อง

    28.03.2565
    9,647 View

    สคช. ยกทีม ลงพื้นที่จังหวัดกระบี่ จัดกิจกรรม CSR สานฝัน ปันใจ สู่น้อง นายนคร ศิลปอาชา ประธานกรรมการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมด้วย นายสุรพล พลอยสุข ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ นางสาวจุลลดามีจุล รองผู้อำนวยการ คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. ร่วมกิจกรรม CSR สานฝัน ปันใจ สู่น้อง ณ โรงเรียนบ้านควนเกาะจันทร์ ต.โคกยาง อ.เหนือคลอง จังหวัดกระบี่ เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคม โดยการเติมเต็มอุปกรณ์สำหรับการเรียนการสอน อุปกรณ์กีฬา สำหรับนักเรียนในพื้นที่ โดยมีผู้บริหารเขตพื้นที่การศึกษาและคณะครูโรงเรียนบ้านควนเกาะจันทร์เป็นผู้รับมอบ นายนคร กล่าวถึงการจัดกิจกรรม สคช. CSR สานฝัน ปันใจ สู่น้องว่า สคช. ต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการสานต่อรอยยิ้ม ให้กับเด็กๆ และเยาวชน โดยการนำศักยภาพของบุคลากร ที่มีความรู้ ความสามารถ มาประยุกต์ใช้ช่วยเหลือสังคม ด้วยการสานฝัน แบ่งปันอุปกรณ์การเรียนและอุปกรณ์กีฬา เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมให้กลุ่มเยาวชน ได้มีโอกาสพัฒนาศักยภาพของตัวเอง พร้อมเติบโตด้วยการเสริมสร้างทักษะการเรียนรู้และเสริมสร้างสุขอนามัยให้สมบูรณ์ แข็งแรง พร้อมที่จะเป็นกำลังสำคัญของชาติในอนาคต นายสุรพล กล่าวว่า กิจกรรม CSR ในครั้งนี้ ไม่เพียงเสริมสร้างการทำงานเป็นทีม มีจิตสำนึกต่อส่วนรวมในการแบ่งปัน ผ่านกิจกรรมจิตอาสาเท่านั้น แต่ยังเป็นการส่งเสริมและพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือของสถาบันฯ กับหน่วยงานภาครัฐในการยกระดับฝีมือแรงงาน และหน่วยงานภาคเอกชน ในการพัฒนาความรู้ และทักษะแรงงาน เพื่อรองรับการทำงานในอนาคต รวมถึงเป็นการสร้างจิตสำนึกต่อส่วนรวมในการดูแลรักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และรักษาระบบนิเวศชายฝั่งให้เกิดความยั่งยืน ภายหลังการมอบอุปกรณ์การเรียนและอุปกรณ์กีฬา ที่โรงเรียนบ้านควนเกาะจันทร์แล้ว คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ สคช. ยังได้เข้าร่วมฟังการบรรยายเรื่องระบบนิเวศและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและป่าโกงกาง ที่ท่าปอม คลองสองน้ำ ต.เขาคราม อ.เมือง จ.กระบี่ ก่อนเข้ารับฟังการบรรยาย โดยนายวิระ อุ่นอก ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดกระบี่ เกี่ยวกับแนวทางความร่วมมือ ระหว่างสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานกระบี่กับสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) อีกด้วย นอกจากนี้ ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ได้มอบวุฒิบัตรให้กับพนักงานของ อ่าวนาง ปริ๊นซ์วิลล์ วิลล่า รีสอร์ท เเอนด์ สปา ที่ผ่านการอบรมในหลักสูตรเกี่ยวกับ GHA WellHotel พร้อมรับฟังการบรรยายถึง บทบาทของ สคช. ในการพัฒนาบุคลากรมืออาชีพ รองรับการยกระดับสถานประกอบการสู่มาตรฐานสากล โดยนายอิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก และนางสาวกุสุมา กิ่งเล็ก ผู้บริหาร อ่าวนาง ปริ๊นซ์วิลล์ วิลล่า รีสอร์ท เเอนด์ สปา ซึ่งเป็นสถานประกอบการแห่งแรกในประเทศไทย ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสากลจาก GHA WellHotel ทั้งนี้เตรียมผลักดันให้เป็นสถานประกอบการต้นเเบบ ในการส่งเสริมและสนับสนุนในการพัฒนาศักยภาพบุคลากรอย่างต่อเนื่อง ด้วยการสนับสนุนให้บุคลากรในองค์กร เข้ารับการฝึกอบรมผ่านระบบออนไลน์ ในหลักสูตรต่างๆ เกี่ยวกับ GHA WellHotel มากกว่า 10 หลักสูตร เพื่อเป็นการยกระดับ และพัฒนาทักษะ สมรรถนะบุคลากรให้เข้มแข็งมากขึ้น เมื่อบุคลากรมั่นใจทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ สถานประกอบการก็จะแข็งแรงมากขึ้น สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้บริการต่อไป

  • สคช.ร่วมเวทีประชุม ATTA ถกแนวทางการรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ หลังวิกฤตโควิด-19

    24.03.2565
    9,061 View

    สคช.ร่วมเวทีประชุม ATTA ถกแนวทางการรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ หลังวิกฤตโควิด-19 นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ร่วมพิธีเปิดประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2564 ซึ่งจัดโดย สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว หรือ ATTA เพื่อให้บุคลากรและองค์กรภาคการท่องเที่ยว ได้ทราบทิศทางและอัปเดตสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวในประเทศ โดยมีนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วยนายณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคลประธานกรรมการหอการค้าไทย-จีน, นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าด้านการสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, นายทวีศักดิ์ วานิชย์เจริญ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว, นายชูวิทย์ มิตรชอบ รองผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน), นางสาวศุภานิช เฑียรสิงห์ ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมการจัดประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัล สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEP และนายสุเมธ สุทัศน์ ณ อยุธยา นายกสมาคมการประชุมนานาชาติ (ไทย) หรือ TICA รวมถึงผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว ทั้งภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมงานจำนวนมาก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้กล่าวในการปาฐกถาพิเศษว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นเหมือนตัวเร่งและผลักดัน ให้มีการพัฒนาและปรับเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ทั้งในเรื่องของเทคโนโลยีดิจิทัล รูปแบบการทำงาน รวมไปถึงรูปแบบของการท่องเที่ยว ทั้งนี้เมื่อสถานการณ์โควิดคลี่คลายลง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้กำหนดยุทธศาสตร์การฟื้นฟูการท่องเที่ยว โดยการให้ความสำคัญกับการกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ สร้างความเชื่อมั่นของผู้บริโภค พร้อมกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเกิดการใช้จ่ายจากการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มมากขึ้น เพื่อก่อให้เกิดการกระจายรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการ การจ้างงานภาคประชาชนในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว อาทิ ธุรกิจภาคโรงแรม สายการบิน ร้านอาหาร และรวมไปถึงธุรกิจนำเที่ยว นางสาววรชนาธิป ได้กล่าวถึง การทำงานของสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว เป็นหนึ่งในพันธมิตรสำคัญในการพัฒนากำลังคนด้านการท่องเที่ยว ในฐานะองค์กรที่มีหน้าที่รับรองสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ กับสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ในสาขางานท่องเที่ยว อาชีพที่ปรึกษาการเดินทางท่องเที่ยว ระดับ 1-6 และอาชีพมัคคุเทศก์ทั่วไป ระดับ 3-4 ให้มีการพัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยวให้มีมาตรฐาน สอดคล้องกับความต้องการของผู้ประกอบการ และมีความเป็นสากล การประชุม เพื่อทราบถึงทิศทางการทำงานในวันนี้ นับได้ว่า จะนำไปสู่การพัฒนาการท่องเที่ยวในทุกมิติ สร้างบรรยากาศ ด้านการท่องเที่ยวกลับให้กับมาคึกคัก สร้างรายได้ ให้กับประชาชน สร้างระบบเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตอีกครั้งหนึ่ง

  • สคช. แท็กทีม AAT ตั้งเป้า 3 ปี ยกระดับกำลังแรงงานกว่า 2 พันชีวิตด้วยระบบคุณวุฒิวิชาชีพ

    23.03.2565
    7,148 View

    สคช. แท็กทีม AAT ตั้งเป้า 3 ปี ยกระดับกำลังแรงงานกว่า 2 พันชีวิตด้วยระบบคุณวุฒิวิชาชีพ นายสุรพล พลอยสุข ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมด้วยนางสาววรชนาธิป จันทนู นางสาวจุลลดา มีจุล รองผู้อำนวยการสถาบันฯ พร้อมคณะผู้บริหาร ได้ร่วมพูดคุยหารือแนวทางการทำงานร่วมกับ บริษัท ออโต้อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (AAT) Auto Alliance (Thailand) Co., Ltd. นำโดยนายสถิรยุทธ แสงสุวรรณ รองประธานบริษัทฯ ฝ่ายทรัพยากรบุคคล นายจักรกฤษณ์ พรหมสิทธิ์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายทรัพยากรบุคคล นายชัยยุทธ์ สวัสดี ผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคล นายณรงค์ศักดิ์ ยางสง่า รองผู้จัดการฯ และคุณปิยพงษ์ สรรเสริญ ทีมฝ่ายทรัพยากรบุคคล AAT โดยทั้ง 2 ฝ่ายเห็นตรงกันในการเร่งเครื่อง 5 ภารกิจเร่งด่วนเพื่อสร้างการยอมรับ และคุณค่าในประโยชน์ของระบบคุณวุฒิวิชาชีพ ตั้งเป้าภายใน 3 ปี ต้องเพิ่มคุณภาพกำลังแรงงานในเครือ AAT ที่มีมากกว่า 2 พันชีวิต ได้ยกระดับให้ได้การรับรองคุณวุฒิวิชาชีพด้วยประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ หรือหนังสือรับรองมาตรฐานอาชีพ ซึ่งมีศักดิ์และสิทธิ์เทียบเท่าคุณวุฒิการศึกษา นำไปสู่การเพิ่มค่าตอบแทน และความก้าวหน้าในตำแหน่งงาน รวมทั้งการยกระดับกลุ่มแรงงานที่อยู่นอกเหนือจากกลุ่มการผลิต ซึ่งมีทั้งกลุ่มผู้ประกอบอาหาร พนักงานขับรถ พนักงานต้อนรับ ให้ได้การรับรองคุณวุฒิวิชาชีพด้วย “ยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดคือแรงงานในกลุ่มผลิตที่มีความเชี่ยวชาญในงาน เป็นแรงงานมีฝีมือ แต่เรียนจบได้วุฒิการศึกษาเพียง ม.6 หรือ ปวช. แต่คุณภาพ ประสิทธิภาพการทำงานเป็นที่ยอมรับในระดับหัวหน้าอยู่ในระดับคนจบปริญญา ก็สามารถเข้าสู่ระบบการประเมินเพื่อรับคุณวุฒิวิชาชีพได้โดยไม่ต้องเข้าสู่ระบบการศึกษาปกติ เพราะศักดิ์และสิทธิ์ที่ได้เทียบเคียงโดยกรอบคุณวุฒิแห่งชาติแล้วว่าความสามารถในการทำงานของคุณ อยู่ในระดับปริญญาตรี โท เอก” นายสุรพล กล่าว สคช. และ AAT ยังจะร่วมกันเทียบเคียงมาตรฐานที่ทั้ง 2 ฝ่ายต่างดำเนินการอยู่ กำหนดเป็นกรอบมาตรฐานอาชีพที่ทุกหน่วยงานโดยเฉพาะการพัฒนาในระดับครูฝึก หรือหน่วยพัฒนาในสถานประกอบการสามารถนำไปใช้ได้เป็นมาตรฐานกลาง ในการพัฒนาภายในสถานประกอบการของตัวเองได้ อีกประเด็นสำคัญคือ การสร้างอาชีพทางเลือกสำรองเป็นอาชีพที่ 2 อาชีพที่ 3 รองรับภาวะเศรษฐกิจที่ทำให้การทำงานหารายได้จากอาชีพเดียวอาจไม่เพียงพอ นำไปสู่ภารกิจสุดท้ายคือการจัดการลูกหนี้ให้มีอาชีพ เพื่อสร้างโอกาสในการปลด หรือบรรเทาหนี้สิน ซึ่ง สคช. มีพันธมิตรสถาบันการเงินที่ทำงานร่วมด้วยทั้ง ธนาคารออมสิน SME D Bank และ บสย. ที่พร้อมให้คำปรึกษา และแนวทางการบริหารจัดการสร้างรายได้เพิ่มลดหนี้ด้วย

  • สคช. เสริมแรง Up-Skill บุคลากรผู้ให้บริการ ภาคการท่องเที่ยวภูเก็ต เตรียมตัวรับนักท่องเที่ยว ช่วงซัมเมอร์

    23.03.2565
    7,547 View

    สคช. เสริมแรง Up-Skill บุคลากรผู้ให้บริการ ภาคการท่องเที่ยวภูเก็ต เตรียมตัวรับนักท่องเที่ยว ช่วงซัมเมอร์ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. เปิดกิจกรรม Skill Advantage Management เพื่อให้หน่วยงานภาคการท่องเที่ยว จังหวัดภูเก็ต ประกอบไปด้วย นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต นายกสมาคมสปาเพื่อสุขภาพภูเก็ต ประธานครัวเชฟจิตอาสาภาคใต้ จังหวัดภูเก็ต นายกสมาคมผู้ประกอบการนำเที่ยว จังหวัดภูเก็ตนายกสมาคมโรงแรมหาดป่าตอง นายกสมาคมโรงแรมหาดกะตะกะรน และผู้บริหาร ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว จังหวัดภูเก็ต ได้ร่วมกันพัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยวให้มีศักยภาพ เพื่อเตรียมต้อนรับฤดูกาลท่องเที่ยว ในช่วงซัมเมอร์นี้ นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ กล่าวระหว่างการเป็นประธานเปิดงานว่า อยากให้ผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ได้มีส่วนสำคัญในสนับสนุนบุคลากรภาคการท่องเที่ยวในสถานประกอบการ ให้มีการพัฒนาความรู้ และทักษะ พร้อมสนับสนุนบุคลากรในอาชีพที่มีคุณภาพ เข้าสู่การประเมินฯ ตามมาตรฐานอาชีพ กับสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เพื่อให้ได้รับรองฯ พร้อมผลักดันให้มีความก้าวหน้าในอาชีพ โดย สคช. มีหลักสูตรการพัฒนาบุคลากรภาคการท่องเที่ยวในหลากหลายสาขา อาทิ อาชีพที่เกี่ยวข้องกับสปา อาชีพการบริหารงานบุคคล พนักงานต้อนรับของโรงแรม รวมไปถึงแม่บ้านและช่างซ่อมบำรุง ที่ไม่เพียงจะช่วยยกระดับมาตรฐานกำลังคนในทุกอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวเท่านั้น แต่จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว ให้ได้รับการบริการ ที่มีคุณภาพ ปลอดภัยและเป็นไปตามมาตรฐานสากลอีกด้วย กิจกรรมในการพัฒนาศักยภาพบุคลากรครั้งนี้ มีนายชญตว์ พรภัทร นักฝึกอบรม ผู้บรรยายด้านการบริหาร และการจัดการธุรกิจ ได้มาถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับการบริหารจัดการภายในโรงแรม สำหรับผู้บริหาร พร้อมแนวทางการนำมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพไปปรับใช้ในสถานประกอบการ จากนายพิบูลย์ ธาระพุทธิ ประธานสถาบันรับรองคุณวุฒิวิชาชีพทรัพยากรบุคคลประเทศไทย (HRCI) สมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย (PMAT) เพื่อให้สถานประกอบการที่มีความสนใจได้เตรียมตัวสำหรับการผลักดันให้กำลังคนในสถานประกอบการได้รับการพัฒนาอย่างมีมาตรฐาน สำหรับกิจกรรม Skill Advantage Management เพื่อพัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยว จังหวัดภูเก็ต ในครั้งนี้ เกิดขึ้นต่อเนื่องจากการที่สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ได้ลงพื้นที่จัดกิจกรรม สร้างเสน่ห์ภูเก็ต เมืองปลอดภัย เที่ยวไปกับมืออาชีพ เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยมีการจัดอบรมในอาชีพบาริสต้า และการเสวนากับหน่วยงานภาคการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต เพื่อเจาะลึกการท่องเที่ยว ด้วยมาตรฐานความปลอดภัย เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ให้นักท่องเที่ยวมาแล้ว โดยหลังจากนี้ สคช. ยังเตรียมยกทัพ ผู้เชี่ยวชาญลงพื้นที่จริง เพื่อต่อยอด เสริมทักษะ ในอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต อีกครั้ง โดยเริ่มตั้งแต่ต้นทาง ไปจนถึงปลายทาง เพื่อผลักดันให้ภูเก็ต ก้าวไปสู่ความเป็นเมืองแห่งมืออาชีพต่อไป

  • สคช. จับมือ ม.บูรพา จัดทำมาตรฐานอาชีพในสาขาวิชาชีพการเดินเรือ ยกระดับบุคลากร รองรับเทรนด์การท่องเที่ยวทางเรือ

    22.03.2565
    7,921 View

    สคช. จับมือ ม.บูรพา จัดทำมาตรฐานอาชีพในสาขาวิชาชีพการเดินเรือ ยกระดับบุคลากร รองรับเทรนด์การท่องเที่ยวทางเรือ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. ร่วมกับ มหาวิทยาลัยบูรพา พร้อมผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับกลุ่มอาชีพการเดินเรือ และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทางทะเล ทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน อาทิ สมาคมธุรกิจเรือยอร์ชไทย ผู้ประกอบการนำเที่ยว สมาคมวิชาชีพชาวเรือไทย สมาคมนักเรียนเก่าเดินเรือพานิชย์ ศูนย์ฝึกพาณิชย์นาวี กองทัพเรือ และกรมเจ้าท่า จัดประชุมสัมมนาโครงการจัดทำมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ สาขาวิชาชีพการเดินเรือ ระยะที่ 2 เพื่อพัฒนาบุคลากรที่เกี่ยวข้องในกลุ่มอาชีพการเดินเรือ ให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทางน้ำและทางทะเล ช่วยส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ด้วยการพัฒนาบุคลากรใน 3 กลุ่มอาชีพ คือ กลุ่มอาชีพเดินเรือ (Desk Department) กลุ่มอาชีพจัดเลี้ยงบนเรือ (Catering mkDepartment) และกลุ่มอาชีพช่างกลเรือ (Engine Department) นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ กล่าวในการเปิดงานว่า ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทางเรือ หรือทางน้ำ อาทิ เรือสำราญ และเรือยอร์ช นับเป็นอีกรูปแบบการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศมากขึ้น การจัดทำมาตรฐานอาชีพ สาขาวิชาชีพการเดินเรือ ระยะที่ 2 จึงเป็นสิ่งที่มีความจำเป็น จะเป็นการพัฒนาบุคลากรที่ตอบโจทย์อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ทั้งในเรื่องของการให้บริการที่มีมาตรฐานความและมีความปลอดภัย สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวได้ ซึ่งการพัฒนากำลังคนในอาชีพการเดินเรือ ไม่เพียงแต่ผู้ที่ทำหน้าที่กัปตัน ผู้ขับเรือเท่านั้น แต่จะครอบคลุมไปถึงกลุ่มผู้ให้บริการจัดเลี้ยง และช่างกลประจำเรืออีกด้วย ทั้งนี้คาดการณ์ว่ามาตรฐานอาชีพ สาขาวิชาชีพการเดินเรือ ระยะที่ 2 จะมีการจัดทำแล้วเสร็จ พร้อมนำมาใช้ในเดือนพฤศจิกายน 2565

  • วังขนายหารือถึงแนวทางการร่วมกันผลักดัน เพื่อเพิ่มคุณภาพของพนักงาน ที่ได้รับการพัฒนาจากกลุ่มบริษัทวังขนาย

    21.03.2565
    7,546 View

    นางสาวธัญรักษ์ ณ วังขนาย ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป กลุ่มวังขนาย พร้อมด้วย นายวีระชัย ขำสะอาด ผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร โรงงานอุตสาหกรรมน้ำตาลทีเอ็น เข้าพบ นายสุรพล พลอยสุข ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ และนายพิริยพงศ์ แจ้งเจนเวทย์ รักษาการผู้อำนวยการสำนักพัฒนานวัตกรรมคุณวุฒิวิชาชีพ เพื่อหารือถึงแนวทางการร่วมกันผลักดัน เพื่อเพิ่มคุณภาพของพนักงาน ที่ได้รับการพัฒนาจากกลุ่มบริษัทวังขนาย ให้ได้การรับรองด้วยระบบคุณวุฒิวิชาชีพ เพื่อยกระดับพนักงานและนำไปสู่การเพิ่มค่าตอบแทน ความก้าวหน้าในตำแหน่งงาน โดยมีพนักงานจำนวนกว่า 1,300 คน ที่พร้อมเข้าสู่ระบบคุณวุฒิวิชาชีพ ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ กล่าวว่า กลุ่มวังขนาย ถือเป็นหนึ่งในสถานประกอบการชั้นนำ ที่มีการพัฒนากำลังคนอย่างต่อเนื่อง จึงอยากให้เป็นต้นแบบของสถานประกอบการ ที่มีการส่งเสริมให้พนักงาน ได้เห็นความสำคัญของระบบคุณวุฒิวิชาชีพ โดยการนำมาตรฐานอาชีพที่สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ จัดทำขึ้น ไปปรับใช้ให้เกิดผลจริงๆ กับคนในองค์กร พร้อมยกระดับ เพื่อเป็นการเพิ่มคุณภาพชีวิตของพนักงานให้ดีขึ้น ทั้งการเพิ่มค่าตอบแทน และตำแหน่งงานที่สูงขึ้น เพื่อสร้างแรงจูงใจให้พนักงานเห็นเส้นทางความก้าวหน้าที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

  • สคช. มอบประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ การันตีนักปรับแต่งภาพ ช่วยสร้างคุณค่าให้ภาพถ่ายได้อย่างมืออาชีพ

    20.03.2565
    7,411 View

    สคช. มอบประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ การันตีนักปรับแต่งภาพ ช่วยสร้างคุณค่าให้ภาพถ่ายได้อย่างมืออาชีพ

  • สคช. ตอกย้ำเทรนด์ E-Commerce ปี 65 เสริมทักษะ เติมคลังความรู้ ให้ข้าราชการใกล้วัยเกษียณ

    17.03.2565
    7,033 View

    สคช. ตอกย้ำเทรนด์ E-Commerce ปี 65 เสริมทักษะ เติมคลังความรู้ ให้ข้าราชการใกล้วัยเกษียณ นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ร่วมบรรยายพิเศษในหัวข้อ “อีคอมเมิร์ซ ปี 65 ไปต่อ อาวุธหลักผู้ประกอบการ นำตลาดออนไลน์ สร้างรายได้” ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน หรือ สำนักงาน ก.พ. จัดขึ้นตามโครงการเสริมสร้างศักยภาพและพัฒนาดุลยภาพของข้าราชการ ประจำปี 2565 เพื่อพัฒนาข้าราชการที่จะเกษียณอายุราชการ ให้ได้รับความรู้ความเข้าใจ และเพิ่มเติมทักษะในอาชีพ สำหรับเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตและมีอาชีพเสริมหลังเกษียณ โดยมีข้าราชการใกล้วัยเกษียณเข้าร่วมรับฟังมากกว่า 500 คน นางสาววรชนาธิป ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการพัฒนาทักษะความรู้ ความสามารถ ของข้าราชการที่กำลังจะเข้าสู่วัยเกษียณ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการทำอาชีพเสริม ด้วยการเพิ่มเติมความรู้ ที่เกี่ยวข้องกับ อีคอมเมิร์ซ หรือการตลาดออนไลน์ ที่จะเป็นช่องทางหลักในการทำธุรกิจในอนาคต อาทิ การศึกษาเรื่องของแอปพลิเคชันที่สามารถสร้างยอดขาย และช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภคมากขึ้น, การขายผ่านทาง Live ที่สามารถทำให้ทุกคนเป็นนักการตลาดได้ โดยไม่ต้องจ้างผู้ที่มีชื่อเสียง, การเรียนรู้เกี่ยวกับการค้ารูปแบบใหม่, การศึกษาในเรื่องผลลัพท์และความเสี่ยง เกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล รวมถึงแนวโน้มทิศทางของธุรกิจค้าปลีกในท้องถิ่น ที่จะมีบทบาทน้อยลง เมื่อมีการตลาดออนไลน์เข้ามาแทนที่ ทั้งนี้สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) มีความพร้อมที่จะตอบโจทย์ความต้องการของบุคลากร ข้าราชการวัยเกษียณ ด้วยการเพิ่มเติมความรู้ในทุกอาชีพ ผ่านระบบ E-Training พร้อมให้การรับรองด้วยประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ ให้ผู้ที่ผ่านการอบรมในทุกหลักสูตร โดยไม่จำกัดอายุ และวุฒิการศึกษา เพื่อให้ทุกคนมีโอกาสในการต่อยอดในอาชีพอื่นๆ ต่อไปได้ ด้านคุณวิลานี แซ่แต้ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจผู้ประกอบการรายย่อยและองค์กรชุมชน ธนาคารออมสิน ยืนยันกับข้าราชการก่อนเกษียณที่เข้าร่วมอบรมทุกคนว่า ผู้ที่ผ่านการประเมินฯ และไดรับประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ จากสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ สามารถนำไปยื่นขอสินเชื่อกับธนาคารออมสินได้ โดยไม่ต้องใช้ Statement ตามโครงการ สร้างงาน สร้างอาชีพ เพื่อเป็นต่อยอด เติมทุนในอาชีพ ไม่เว้นแม้แต่ผู้ที่อยู่ในวัยใกล้เกษียณ ที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจ หรือเพิ่มทุนในการจัดซื้อวัตถุดิบ เพื่อให้คนที่อยู่ในอาชีพ ได้มีโอกาส สร้างรายได้ หลังเกษียณอายุราชการ นอกจากนี้ได้มีเพิ่มเติมความรู้ “อาชีพเสริมหลังเกษียณ” ตามความสนใจ ของข้าราชการที่เข้าฝึกอบรม โดยแบ่งออกเป็น 4 ห้อง ประกอบไปด้วย ห้องวัยเก๋าเข้าครัว เป็นการหลักสูตรทำน้ำยำรสเด็ดสร้างอาชีพ เพื่อเป็นการต่อยอดได้หลายเมนู โดยเชฟโอ๋ นางสาวญาณัช มะอาจเลิศ คณะกรรมการเชฟและอาจารย์ผู้สอนโรงเรียนอาหารไทย NSC ห้องวัยเก๋าเข้าสวน หลักสูตรสวนแนวตั้งปลูกผักในกระถางได้ โดยนายกันตพงษ์ แก้วกมล ที่ปรึกษาเครือข่าย Young Smart Farmer Thailand ในฐานะนายกสมาคมเทคโนโลยีและนวัตกรรมการเกษตร AGTIA (Agricultural Technology And Innovation Association) อนุกรรมการขับเคลื่อนเกษตรกรรมยั่งยืน วัยเก๋าออนไลน์ หลักสูตรวัยเก๋าสร้างอาชีพด้วยตลาดออนไลน์ โดย โครงการดีแทค เน็ตทำกิน และห้องวัยเก๋าลงทุน กับความรู้ในหลักสูตร การลงทุนในตลาดหุ้น กองทุนสินทรัพย์ดิจิทัล สำหรับวัยเกษียณ จำกัดความเสี่ยงต่ำ ทำกำไรงาน ทำอย่างไร? โดย ดร.ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ประธานบริษัทหลักทรัพย์ ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น