ข่าวประชาสัมพันธ์

  • สคช. เปิดประตูสู่ภาคอีสาน เจาะเทรนด์การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ดันบุคลากรภาคการท่องเที่ยวให้มีมาตรฐานระดับสากล

    14.02.2565
    6,825 View

    สคช. เปิดประตูสู่ภาคอีสาน เจาะเทรนด์การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ดันบุคลากรภาคการท่องเที่ยวให้มีมาตรฐานระดับสากล สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. ลงพื้นที่จับมือ 5 หน่วยงานพันธมิตร ประกอบไปด้วย ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวนครราชสีมา ในฐานะผู้บริหาร The Piano Resort เขาใหญ่, ตัวแทนฝ่ายบริหาร Global Healthcare Accreditation ,ผู้บริหารธนาคารออมสิน และผู้บริหารจากอ่าวนาง ปริ้นซ์วิลล์ วิลล่า รีสอร์ต จ.กระบี่ ระดมความคิดเห็น บนเวทีเสวนา “Wellness Tourism Trends มิติใหม่การท่องเที่ยวเชิง Wellness เพิ่มมูลค่า สร้างงาน สร้างอาชีพ” เพื่อเปิดประตูสู่ภาคอีสาน เพื่อถ่ายทอดเทรนด์การท่องเที่ยว ในเชิงสุขภาพ ด้วยมาตรฐานความปลอดภัย พร้อมสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวในประเทศ นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ กล่าวถึงแนวทางการผลักดันของ สคช. เพื่อให้สถานประกอบการที่พัก โรงแรมพัฒนาทักษะของบุคลากรภาคการให้บริการ ให้เป็นไปตามมาตรฐาน ที่ไม่เพียงจะช่วยยกระดับมาตรฐานกำลังคนในทุกอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวเท่านั้น แต่จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว ให้ได้รับการบริการ ที่มีคุณภาพ ปลอดภัยและเป็นไปตามมาตรฐานสากลอีกด้วย นายแพทย์สมพร คําผง ตัวแทนฝ่ายบริหาร Global Healthcare Accreditation หรือ GHA กล่าวถึงเทรนด์การท่องเที่ยวในเชิงสุขภาพว่า จะเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างประสบการณ์ที่ดี ให้กับนักท่องเที่ยว เพื่อจดจำต่อการท่องเที่ยวในประเทศตลอดชีวิต การเยี่ยมสำรวจสถานประกอบการของ GHA ก็จะมีการให้คำปรึกษาในทุกองค์ประกอบของการพัฒนาโรงแรม และที่พักเชิงสุขภาพ พร้อมสนับสนุน ทุกสถานประกอบการที่มุ่งมั่นพัฒนาให้เป็นไปตามมาตรฐานของ GHA ต่อไป คุณวัชรี  ปรัชญานุสรณ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวนครราชสีมา กล่าวว่า รูปแบบการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ จะช่วยพัฒนาตลาดด้านการท่องเที่ยวของเขาใหญ่ และนครราชสีมา ให้กลับมามีความหวังอีกครั้ง จากการจัดการท่องเที่ยวให้มีมาตรฐาน และคำนึงถึงความปลอดภัย ซึ่งถือว่ามีความจำเป็นในสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งทุกคำแนะนำของ สคช. และ GHA จะมีส่วนสำคัญในการเติมเต็มให้ทุกส่วนงานของโรงแรม ได้เร่งพัฒนาศักยภาพ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐาน ตั้งแต่การปรับสถานที่ ตลอดจนการพัฒนาทักษะของบุคลากร นางกุสุมา กิ่งเล็ก กรรมการผู้จัดการ อ่าวนางปริ๊นซ์วิลล์ รีสอร์ท แอนด์ สปา ซึ่งเป็นโรงแรมที่พักแห่งแรกของประเทศไทย ที่ได้รับมาตรฐาน WellHotel จาก Global Healthcare Accreditation ได้กล่าวว่า การพัฒนาสถานประกอบการไปสู่ Wellness ถือว่าเป็นโอกาสและความท้าทาย ของภาคการท่องเที่ยว ที่นำไปสู่ทางรอด โดยเฉพาะมาตรฐานการให้บริการ ที่ต้องมีการพัฒนาทักษะ บุคลากรเพื่อให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ประกอบการมีความมั่นใจ ส่วนผู้ใช้บริการก็จะเชื่อมั่นด้วยอีก คุณวิลานี แซ่แต้ ผอ.ฝ่ายพัฒนาธุรกิจผู้ประกอบการรายย่อยและองค์กรชุมชน ธนาคารออมสิน ได้กล่าวถึง แนวทางการสนับสนุนเงินทุน เพื่อไปต่อยอดในการฟื้นฟูกิจการ สำหรับผู้ประกอบการ ขณะเดียวกันก็มีโครงการสินเชื่อ สร้างงาน สร้างอาชีพ เน้นช่วยเหลือผู้ประกอบอาชีพทุกคน ในทุกสาขาอาชีพ ที่ผ่านการอบรมและผ่านการประเมินกับสถาบันวิชาชีพ ซึ่งถือว่ามีแต้มต่อ ในการนำประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพและหนังสือรับรอง ไปยื่นขอสินเชื่อกับธนาคารออมสิน โดยไม่ต้องใช้ Statement เพื่อเป็นการต่อยอด เติมทุนในอาชีพได้

  • สคช. & สถาบันอนุญาโตตุลาการ กระชับมิตร ดันมาตรฐานอาชีพผู้ประนอมข้อพิพาท - อนุญาโตตุลาการ พร้อมประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพไปประนอมข้อพิพาทได้ทั่วทุกมุมโลก

    11.02.2565
    6,913 View

    สคช. & สถาบันอนุญาโตตุลาการ กระชับมิตร ดันมาตรฐานอาชีพผู้ประนอมข้อพิพาท - อนุญาโตตุลาการ พร้อมประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพไปประนอมข้อพิพาทได้ทั่วทุกมุมโลก นายนคร ศิลปอาชา ประธานกรรมการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ การพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านการประนอมข้อพิพาทและอนุญาโตตุลาการ ด้วยระบบคุณวุฒิวิชาชีพ ระหว่างสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. และสถาบันอนุญาโตตุลาการ โดยมีนายสุรพล พลอยสุข ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ และนายพสิษฐ์ อัศววัฒนาพร ผู้อำนวยการสถาบันอนุญาโตตุลาการ เป็นผู้จรดปากกาลงนาม ท่ามกลางผู้บริหารของทั้งสองหน่วยงานที่เข้าร่วมเป็นสักขีพยาน นายนคร กล่าวว่า ความเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน ได้ส่งผลให้หลายภาคส่วน ต้องพบกับปัญหาความขัดแย้งในหลากหลายแง่มุมมากขึ้น ทำให้ความต้องการผู้ที่จะมาทำหน้าที่ระงับข้อพิพาทด้วยความเป็นกลางและอิสระมีมากขึ้นเช่นกัน ความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้น ที่ทั้งสองหน่วยงานจะได้นำศักยภาพ มาร่วมกันส่งเสริมและพัฒนาผู้บุคลากรที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการประนอมข้อพิพาทและอนุญาโตตุลาการด้วยระบบคุณวุฒิวิชาชีพ ให้ตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้บริการมากที่สุด มีมาตรฐาน ลดปัญหาความขัดแย้งในสังคมได้ นายสุรพล ได้กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า มีหัวใจสำคัญในการสนับสนุนการประเมินสมรรถนะบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ ในสาขาวิชาชีพผู้ประนอมข้อพิพาทและอนุญาโตตุลาการ โดยจะมีการร่วมมือทางวิชาการ พร้อมส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพบุคคลด้วยหลักสูตรฝึกอบรม ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการประนอมข้อพิพาทฯ ส่งเสริมให้การรับรององค์กรที่มีหน้าที่รับรองฯ รวมถึงผลักดัน ให้ผู้ที่ผ่านการอบรมเข้าสู่กระบวนการประเมินฯ เพื่อนำไปสู่การรับรองด้วยประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้รับบริการ ว่ามีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในอาชีพตัวจริง ผู้อำนวยการสถาบันอนุญาโตตุลาการ กล่าวว่า นับเป็นการสร้างโอกาสที่ดีในการร่วมมือกันระหว่าง สคช. และสถาบันอนุญาโตตุลาการ ที่จะร่วมกันจัดทำมาตรฐานอาชีพ นักประนอมข้อพิพาทและอนุญาโตตุลาการ เนื่องจากทั้ง 2 อาชีพนี้ ไม่ใช่ใครก็สามารถทำได้ แต่เป็นวิชาชีพที่ต้องอาศัยทักษะ สมรรถนะ ประสบการณ์การดำเนินงานเฉพาะบุคคล การจัดทำเป็นมาตรฐานอาชีพและนำไปสู่การรับรองด้วยประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพก็จะยิ่งเป็นการเพิ่มมาตรฐาน เพิ่มมูลค่าให้กับบุคคล โดยเฉพาะสามารถทำงานได้ทั่วโลก ผู้ที่ได้การรับรองด้วยประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ จะยิ่งเป็นการการันตีความรู้ความสามารถในการระงับข้อพิพาททุกประเภทได้ทุกมุมโลกเช่นกัน และยังจะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้กับบุคคลและเศรษฐกิจมวลรวมของประเทศด้วย

  • กลับมาอีกครั้ง!! Street Food On Tour สคช. จับมือ ธนาคารออมสิน และเขตพญาไท เฟ้นหาสุดยอดร้านมืออาชีพ ซอยอารีย์

    11.02.2565
    6,402 View

    กลับมาอีกครั้ง!! Street Food On Tour สคช. จับมือ ธนาคารออมสิน และเขตพญาไท เฟ้นหาสุดยอดร้านมืออาชีพ ซอยอารีย์ นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ควงธนาคารออมสิน พร้อมสำนักงานเขตพญาไท และทีมเชฟผู้เชี่ยวชาญจากครัววันดี มอบ “ป้ายมืออาชีพ” ร้านอาหารริมบาทวิถี หรือ สตรีทฟู้ด ย่านอารีย์ ประกาศให้โลกรู้ “สตรีทฟู้ด อารีย์ มีร้านมืออาชีพ” ที่เปิดให้บริการด้วยความ สะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐาน อย่างมืออาชีพ นางสาววรชนาธิป บอกว่าการประเมินร้านอาหารสตรีทฟู้ด เป็นการกลับมาอีกครั้ง เพื่อตอกย้ำโครงการ Street Food On Tour in Bangkok ที่เคยช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการร้านอาหาร ในย่านต่างๆ ทั่วกรุงเทพมหานครมาแล้ว อาทิ เยาวราช ตลาดน้อย ตลาดพลู และย่านแพร่งภูธรฯ โดยสถาบันฯ จะลงพื้นที่มาช่วยการันตี ให้กับผู้ประกอบอาหารสตรีทฟู้ด ซอยอารีย์ กว่า 30 ร้าน เพื่อยืนยันว่า สามารถปรุงอาหารด้วยความสะอาด ปลอดภัย ตรงตามมาตรฐาน ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญ ที่จะทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจเลือกซื้อ เลือกชิม ในช่วงวิกฤตโควิด-19 แบบนี้ นางพิกุล โถยอด ร้านปั้นสิบแม่พิกุล บอกว่า รู้สึกดีใจ ที่สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ มาช่วยยืนยัน ความปลอดภัยและความสะอาด เพราะตลอด 20 กว่าปีที่ผ่านมา ก็พิถีพิถันและให้ความสำคัญในการทำปั้นสิบในทุกขั้นตอน ซึ่งเป็นการแสดงถึงความใส่ใจในการประกอบอาหาร ด้วยความคิดที่ว่า เราอยากทานอาหารที่สะอาดแบบไหน ลูกค้าก็อยากทานอย่างนั้นด้วย ทั้งนี้หลังจากมีป้ายมืออาชีพ เชื่อว่าจะทำให้ลูกค้าสนใจมาซื้อปั้นสิบแม่พิกุลมากขึ้น ด้านผู้บริหารธนาคารออมสิน ได้มีการเชิญชวนพ่อค้า แม่ค้า ที่ผ่านการประเมินร้านอาหารริมบาทวิถีว่า สามารถนำประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพและหนังสือรับรอง ไปยื่นขอสินเชื่อกับธนาคารออมสิน ตามโครงการ สร้างงาน สร้างอาชีพได้ โดยไม่ต้องใช้ Statement เพื่อเป็นการต่อยอด เติมทุนในอาชีพ ไม่ว่าจะขยายร้าน หรือเพิ่มทุนในการจัดซื้อวัตถุดิบ เพื่อให้คนที่อยู่ในอาชีพ ได้มีโอกาส สร้างรายได้ เพิ่มมากขึ้น นางเบญญา อินทรวงศ์โชติ ผู้อำนวยการเขตพญาไท บอกว่า ร้านอาหารริมบาทวิถี ในซอยอารีย์ เป็นร้านที่มั่นใจได้ทั้งรสชาติ คุณภาพและความสะอาด เนื่องจากกรมอนามัย สำนักงานเขต ได้มีการตรวจสุขภาพผู้ประกอบการ และความเรียบร้อยของร้านอยู่เสมอ ยิ่งมีการลงพื้นที่มายืนยันถึงมาตรฐานความปลอดภัย จากสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพแบบนี้แล้ว ก็จะยิ่งทำให้ลูกค้ามั่นใจมากยิ่งขึ้น ซอยอารีย์ ถือเป็นหนึ่งย่านเด็ด ที่รวมร้านสตรีทฟู้ด ที่มีชื่อเสียงไว้มากมาย ทั้งผลไม้ ขนม อาหารไทย อาหารอีสาน และเครื่องดื่ม ที่แม้จะเป็นร้านเล็กๆ ก็เป็นร้านที่ใส่ใจในเรื่องของความสะอาด ปลอดภัย และมีมาตรฐานอยู่แล้ว ขณะที่พ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่ ก็ยังพร้อมใจเข้าสู่การประเมินเพื่อเป็นมืออาชีพ ผู้ประกอบอาหารริมบาทวิถีอีกด้วย

  • สคช. - ม.บูรพา ถกแนวทางดึงกำลังแรงงานที่ได้ประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ ให้มีโอกาสกลับสู่สถาบันการศึกษาเพื่อรับคุณวุฒิการศึกษาได้

    10.02.2565
    7,069 View

    สคช. - ม.บูรพา ถกแนวทางดึงกำลังแรงงานที่ได้ประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ ให้มีโอกาสกลับสู่สถาบันการศึกษาเพื่อรับคุณวุฒิการศึกษาได้ นายนคร ศิลปอาชา ประธานกรรมการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมด้วยนายสุรพล พลอยสุข ผู้อำนวยการสถาบันฯ นางสาววรชนาธิป จันทนู นางสาวจุลลดา มีจุล รองผู้อำนวยการสถาบันฯ และคณะผู้บริหารสถาบันฯ พูดคุยหารือร่วมกับ รศ.ดร.สุมนต์ สกลไชย นายกสภามหาวิทยาลัยบูรพา และดร.ณฐาภพ สมคิด รองผู้อำนวยการฝ่ายนวัตกรรมและการเรียนรู้ตลอดชีวิต มหาวิทยาลัยบูรพา ที่ให้ความสนใจแนวทางการทำงานของสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. โดยเฉพาะการขับเคลื่อนการเรียนรู้ตลอดชีวิต รศ.ดร.สุมนต์ กล่าวว่ามหาวิทยาลัยบูรพา ล่าสุดได้กำหนดนโยบายชัดเจนในเรื่องการขับเคลื่อนให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Life Long Learning) รวมทั้งการสร้างแต้มต่อในเชิงทักษะให้กับนิสิต นักศึกษา ซึ่งเป็นแนวทางที่ สคช. ดำเนินการอยู่ พร้อมขอข้อเสนอแนะแนวทางการทำงานที่มหาวิทยาลัยจะสามารถสนับสนุนการพัฒนานักศึกษาให้เตรียมความพร้อมก่อนลงสู่ตลาดแรงงานจริง นายนคร ย้ำว่า สคช. พร้อมให้การสนับสนุนเรื่องการเรียนรู้ตลอดชีวิตซึ่งเป็นแนวทางที่ดำเนินการมาโดยตลอด และในฐานะที่เป็นประธานคณะอนุกรรมการปฏิรูปประเทศด้านแรงงาน ยืนยันได้อีกครั้งว่ารัฐบาลมีเป้าหมายการขับเคลื่อนนโยบายของประเทศ สู่การปฏิบัติแบบบูรณาการ เพื่อสร้างโอกาสและพัฒนาสมรรถนะกำลังคนตลอดช่วงชีวิตการทำงานทั้งในและนอกระบบ และเพื่อเป็นการลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ซึ่งเป็นทิศทางที่ดีที่มหาวิทยาลัยบูรพามีเป้าหมายการทำงานแนวทางเดียวกัน นายสุรพล ระบุว่าแนวทางสำคัญที่จะทำให้สถานศึกษาสามารถผลิตบุคลากรได้ตรงตามความต้องการของตลาดแรงงานอย่างแท้จริง คือการเล็งเห็นความสำคัญให้การยอมรับเรื่องของตัวงาน ซึ่งก็คือมาตรฐานสมรรถนะ มาตรฐานอาชีพ ที่เวลานี้มี สคช. และกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ดำเนินการอยู่ หากนำมาตรฐานเหล่านี้ไปปรับใช้ในหลักสูตรการเรียนการสอน นิสิตเหล่านั้นก็จะพร้อมลงสนาม และสามารถทำงานได้จริงตามความต้องการของตลาดแรงงาน ไม่เพียงเท่านั้นปัจจุบันประเทศไทยมีคุณวุฒิวิชาชีพ ที่เทียบเท่ากับกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ กรอบคุณวุฒิอาเซียน และเทียบเท่าคุณวุฒิการศึกษา หากเกิดการยอมรับและทุกฝ่ายผลักดันให้เกิดการใช้ประโยชน์จากคุณวุฒิวิชาชีพให้เกิดเป็นรูปธรรม ก็จะทำให้กำลังคนในอาชีพที่ไม่ได้อยู่ระบบการศึกษาแต่ได้ประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ มีโอกาสที่กลับคืนสู่สถาบันการศึกษาเพื่อรับคุณวุฒิการศึกษาได้เมื่อมีความพร้อม เพียงแต่สถาบันการศึกษาจะต้องให้การยอมรับ และพร้อมที่จะเติมเต็มในสิ่งที่ขาด ก็จะทำให้ประเทศเกิดการพัฒนาร่วมกันอย่างเป็นระบบ

  • "Kick Off งานสร้างสื่อ E-Training ปี 2565 สคช. มุ่งเน้น สื่อที่พัฒนาขึ้นต้องตรงไปตรงมา มุ่งไปสู่การทำอาชีพได้จริง"

    10.02.2565
    6,643 View

    "Kick Off งานสร้างสื่อ E-Training ปี 2565 สคช. มุ่งเน้น สื่อที่พัฒนาขึ้นต้องตรงไปตรงมา มุ่งไปสู่การทำอาชีพได้จริง" นายพิริยพงศ์ แจ้งเจนเวทย์ รักษาการผู้อำนวยการสำนักพัฒนานวัตกรรมคุณวุฒิวิชาชีพ ร่วมประชุมเปิดโครงการ (Kick Off Meeting) และนำเสนอรูปแบบแนวทางการดำเนินงานภายใต้โครงการพัฒนาชุดฝึกอบรมการเรียนรู้ออนไลน์คู่มือการใช้งานสื่อการเรียนรู้ออนไลน์ คู่มือการใช้สื่อการเรียนรู้ออนไลน์ และสื่อการเรียนรู้ออนไลน์เพื่อการพัฒนาสมรรถนะบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ ณ โรงแรมสวนดุสิต เพลส โดยมีนายอัฐพล ไชยอนันต์ นายกสมาคมดิจิทัลเพื่อการศึกษาไทย เป็นประธานเปิดงาน นายพิริยพงศ์ กล่าวถึงความความสำคัญของระบบการเรียนรู้ E-Training ว่า ต้องตอบโจทย์กำลังคนภาคแรงงาน ที่สำคัญต้องนำไปใช้ได้จริง โดยต้องสื่อเนื้อหาได้แบบตรงไปตรงมา จับต้องได้ นำไปสู่การทำอาชีพได้จริง นำบทบาทของเทคโนโลยีดิจิทัล แบบ Virtual Clasroom ส่งมอบสื่อการฝึกอาชีพได้ถูกต้อง เหมาะสม และทันเวลา สถาบันฯ เชื่อมั่นในการพัฒนาชุดฝึกออนไลน์ ที่เน้นสร้างการเรียนรู้เกี่ยวกับอาชีพอย่างแท้จริง ทั้งนี้มีหน่วยงานภายนอกที่เชื่อมั่นพร้อมเชื่อมโยงระบบ e-traning เช่น SME Academy 365 (สสว) SCB Academy (SME D Bank) Thai MOOC DTAC AIS และ บสย. เป็นต้น การฝึกอาชีพแบบออนไลน์ในยุค New Normal สมามารถเรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา เมื่อไหร่ ก็สามารถเรียนได้ โครงการพัฒนาชุดฝึกอบรมการเรียนรู้ออนไลน์ฯ นี้ นับเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนระบบคุณวุฒิวิชาชีพอย่างเต็มระบบ เป็นกลไกลสำคัญอย่างยิ่งในการส่งเสริมให้กำลังคนของประเทศได้รับการยกระดับสมรรถนะในการประกอบอาชีพให้สูงขึ้นตามระบบคุณวุฒิวิชาชีพ นำไปสู่ความสามารถในการยกระดับให้เป็นประเทศที่มีศักยภาพในการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น เพิ่มโอกาส สร้างรายได้ ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม อย่างมั่นคง และยั่งยืน" การ Kick Off โครงการในครั้งนี้ เป็นการสร้างโอกาสในการเข้าถึงการพัฒนาสมรรถนะของตนเองตามมาตรฐานอาชีพ ให้กับกำลังคนในสาขาอาชีพต่างๆ ในรูปแบบที่หลากหลายทั้งช่องทางและความน่าสนใจของสื่อ สร้างแรงจูงใจ และส่งเสริมสนับสนุนการเรียนรู้ตลอดชีวิต ด้วยสื่อที่มีคุณภาพ เข้าใจง่าย และเข้าถึงได้ง่าย สำหรับการเรียนรู้ด้วยตนเอง (Self-Learning) สำหรับการประเมินความรู้และทักษะที่จำเป็น (Gap-Training) ให้มีความพร้อมก่อนการเข้ารับการประเมินสมรรถนะของบุคคล ตามมาตรฐานอาชีพ โดยในปี 2565 มีการพัฒนาชุดฝึกอบรมการเรียนรู้ออนไลน์ 7 สาขาวิชาชีพ 15 อาชีพ 40 คุณวุฒิวิชาชีพ ไม่ว่าจะเป็น สาขาวิชาชีพเกษตรกรรม สาขาวิชาชีพบริการยานยนต์ สาขาวิชาชีพสิ่งแวดล้อมและสารอันตราย สาขาวิชาชีพบริการการศึกษา วิจัยและภาษา สาขาวิชาชีพอุตสาหกรรมดิจิทัล สาขาวิชาชีพโลจิสติกส์ และสาขาวิชาชีพการท่องเที่ยว การโรงแรม ภัตตาคารและร้านอาหาร โดยมีผู้เชี่ยวชาญเข้าร่วมให้ความเห็นในการออกแบบชุดฝึกอบรมการเรียนรู้ออนไลน์ จากหลายหน่วยงาน อาทิกรมการข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม, วิทยาลัยเทคโนโลยียานยนต์โตโยต้า, บริษัท พูนเพิ่ม เซอร์วิส จำกัด, บริษัท มิตซูบิชิมอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด, ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการสารและของเสียอันตราย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, บริษัท เอสจีเอส (ประเทศไทย) จำกัด, มหาวิทยาลัยมหิดล, สมาคมส่งเสริมนวัตกรรมเทคโนโลยีไซเบอร์ (cipat), มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ, วิทยาลัยนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีและวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์, มหาวิทยาลัยสยาม, มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี, สมาคมธุรกิจคลังสินค้า ไซโลและห้องเย็น, โรงเรียนการท่องเที่ยวและบริการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต, โรงเรียนการเรือน มหาวิทยาลัยสวนดุสิต และบริษัทเอกชนที่เกี่ยวข้องร่วมด้วย สถาบันฯ ได้พัฒนาชุดฝึกอบรมตามมาตรฐานอาชีพแล้ว จำนวนกว่า 400 ชุดฝึกอบรม และสื่อการฝึกอบรมห้องเรียนอาชีพออนไลน์ TPQI Virtual Classroom จำนวนกว่า 50 หลักสูตร และในปีงบประมาณ 2565 จะพัฒนาสื่อการฝึกอบรมตามมาตรฐานอาชีพเพิ่มอีก 40 ชุดฝึกอบรม และเผยแพร่ผ่านระบบ TPQI E-Training Platform ที่ e-training.tpqi.go.th

  • สคช. ร่วมแสดงความยินดี 20 ปี โพสต์ทูเดย์

    09.02.2565
    2,950 View

    สคช. ร่วมแสดงความยินดี 20 ปี โพสต์ทูเดย์ นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เป็นตัวแทนสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. ร่วมแสดงความยินดี เนื่องในโอกาส "โพสต์ทูเดย์" ก้าวสู่ปีที่ 20 โดยมี นายวุฒิ นนทฤทธิ์ บรรณาธิการ เป็นผู้รับมอบ นางสาววรชนาธิป กล่าวว่า ถือเป็นโอกาสดีที่ สคช. ได้มาร่วมแสดงความยินดี ในก้าวที่ 20 ของ โพสต์ทูเดย์ พร้อมขออวยพรให้เป็นสื่อคุณภาพที่อยู่คู่ประเทศไทยตลอดไป บรรณาธิการ โพสต์ทูเดย์ ได้ให้ความสนใจ และสอบถามถึงประโยชน์ที่จะได้รับจากระบบคุณวุฒิวิชาชีพ โดยนางสาววรชนาธิป ได้อธิบายแนวทางการทำงานของสถาบันฯ ว่า เป็นส่วนสำคัญในการสร้างโอกาส สร้างงาน และสร้างรายได้ ให้เกิดขึ้นกับคนที่อยู่ในอาชีพ โดยล่าสุด ได้ร่วมกับธนาคารออมสิน ในโครงการสินเชื่อ สร้างงาน สร้างอาชีพ ซึ่งผู้ที่ผ่านการประเมินฯ เป็นมืออาชีพ กับ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ สามารถใช้ ประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพและหนังสือรับรองฯ แทน Statement ไปยื่นขอสินเชื่อกับธนาคารออมสินได้ โดยก่อนหน้านี้มีผู้ที่ผ่านการประเมินฯ ได้รับการอนุมัติ “สินเชื่อเพื่อมืออาชีพ” มาแล้ว 7,400 ราย วงเงินกว่า 2,000 ล้านบาทมาแล้ว ทั้งนี้ โพสต์ทูเดย์ พร้อมให้การสนับสนุนการเผยแพร่ภารกิจของสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสและเป็นประโยชน์ให้กับผู้ที่อยู่ในอาชีพ สำหรับในช่วงบ่าย มีการจัดงานสัมมนาออนไลน์ “Future of Growth Thailand Vision 2030” โดยเป็นการแสดงวิสัยทัศน์และแนวโน้มทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นจากนี้ไป จนถึงปี 2030 เพื่อให้มุมมองและความรู้กับนักธุรกิจและประชาชนทั่วไป

  • วังขนาย พบ สคช. พร้อมดันเป็นต้นแบบสถานประกอบการที่ส่งเสริมระบบคุณวุฒิวิชาชีพ

    07.02.2565
    6,497 View

    วังขนาย พบ สคช. พร้อมดันเป็นต้นแบบสถานประกอบการที่ส่งเสริมระบบคุณวุฒิวิชาชีพ นางจิตต์สุภา สุขเจตนี อำนวยการอาวุโสบริหารพัฒนาองค์กร นำคณะผู้บริหารจาก บริษัท น้ำตาลวังขนาย จำกัด เข้าพบ นายสุรพล พลอยสุข ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ นางสาววรชนาธิป จันทนู และนางสาวจุลลดา มีจุล รองผู้อำนวยการสถาบันฯ เพื่อหารือถึงแนวทางการพัฒนาระบบคุณวุฒิวิชาชีพในสถานประกอบการ เพื่อพัฒนากำลังกำลังคนให้ตอบโจทย์ความต้องการของสถานประกอบการ นายสุรพล กล่าวว่า บริษัทวังขนาย ถือเป็นหนึ่งองค์กรที่มีหน้าที่รับรองสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ และเป็นหนึ่งในสถานประกอบการชั้นนำที่มีการพัฒนากำลังคนอย่างต่อเนื่อง จึงอยากให้เป็นต้นแบบของสถานประกอบการ ที่มีการส่งเสริมให้พนักงาน ได้เห็นความสำคัญของระบบคุณวุฒิวิชาชีพ ที่ไม่เพียงแต่จะเป็นการยืนยันความสามารถและทักษะตามมาตรฐานอาชีพเท่านั้น แต่ตอกย้ำให้เห็นว่าระบบคุณวุฒิฯ สามารถเทียบเท่าได้กับวุฒิทางการศึกษา โดยสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) พร้อมสนับสนุนการพัฒนากำลังแรงงานที่ต้องการมีความก้าวหน้าในอาชีพอย่างเต็มที่

  • สคช. จับมือ JMAM ลงนาม MOU พัฒนากำลังคนด้านการบริหารในสายการผลิต รองรับการเคลื่อนย้ายแรงงาน

    04.02.2565
    7,609 View

    สคช. จับมือ JMAM ลงนาม MOU พัฒนากำลังคนด้านการบริหารในสายการผลิต รองรับการเคลื่อนย้ายแรงงาน นายนคร ศิลปอาชา ประธานกรรมการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมด้วย Mr. Takashi Hasegawประธานกรรมการบริษัท JMA Management Center Inc. หรือ JMAM ประเทศญี่ปุ่น เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. และ JMA Management Center Inc. (JMAM) ประเทศไทย ในการร่วมกันพัฒนาสมรรถนะบุคลากรด้านการบริหารในสายการผลิต โดยมีนายสุรพล พลอยสุข ผู้อำนวยการสถาบันฯ และ Mr. Atsushi Taniguchi กรรมการผู้จัดการ JMAM ประเทศไทย เป็นผู้จรดปลายปากกา ผ่านทางระบบออนไลน์ ท่ามกลางคณะผู้บริหารจากสถาบันฯ และ ผู้บริหารจาก JMAM ประเทศไทย และผู้แทนสถาบันเสริมสร้างขีดความสามารถมนุษย์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ร่วมเป็นสักขีพยาน นายนคร กล่าวในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฯ ครั้งนี้ว่า สคช. และ JMAM ประเทศไทย ได้เล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เพื่อรองรับการพัฒนาประเทศด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูง โดยเฉพาะบุคลากรที่อยู่ในสายการผลิตของประเทศไทย ความร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญ ที่ทั้งสองหน่วยงานจะได้นำศักยภาพมาร่วมกันส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพบุคลากรที่อยู่ในสายการผลิตด้วยระบบคุณวุฒิวิชาชีพ ที่ตอบสนองต่อความต้องการของภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมได้อย่างแท้จริง ด้านนายสุรพล กล่าวว่า จากนี้ไป สคช. และ JMAM จะร่วมมือกันพัฒนาบุคลากรด้วยมาตรฐานสมรรถนะ ด้านการบริหารในสายการผลิต ตั้งแต่การสร้างความยอมรับ ในภาคอุตสาหกรรมและผู้ประกอบวิชาชีพ การเชื่อมโยงข้อมูลซึ่งกันและกัน รวมถึงการแลกเปลี่ยนความรู้ ในการพัฒนาศักยภาพของกำลังคน ให้มีความรู้ความสามารถและมีทักษะเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับการย้ายฐานการผลิตและการเคลื่อนย้ายแรงงาน ที่จะเข้ามาในประเทศ นอกจากนี้จะมีการส่งเสริมให้มีการเข้าสู่ระบบการประเมินสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ เพื่อเป้าการรับรองและยกระดับมาตรฐานในการประกอบอาชีพให้สูงขึ้น ตามระบคุณวุฒิวิชาชีพ ซึ่งจะทำให้กำลังแรงงงานได้รับการพัฒนาทั้งความรู้ความสามารถและทักษะ รวมถึงคุณวุฒิควบคู่กันไป ลงนามบันทึกความร่วมมือจะก่อให้เกิดประโยชน์โดยตรงกับการพัฒนาและยกระดับความสามารถ สมรรถนะของกำลังคนของประเทศไทย และนำไปสู่การพัฒนาระบบคุณวุฒิวิชาชีพ ให้เป็นต้นแบบให้ได้รับการยอมรับในระดับสากลต่อไป Mr. Atsushi Taniguchi กล่าวว่า JMAM รู้สึกภูมิใจที่ได้ร่วมมือกับ สคช. ในการสนับสนุนการพัฒนาบุคลากรในสายงานผลิตของไทยอย่างเต็มที่ ซึ่ง JMAM จะทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่างการพัฒนาบุคลากรของไทยและญี่ปุ่น และจะมีส่วนร่วมในการพัฒนาบุคลากรชาวไทย โดยการปรับปรุงบุคลากรด้านการบริหารในสายการผลิตจนเสร็จสมบูรณ์ พร้อมเปิดการฝึกอบรมที่จะส่งเสริมให้กำลังแรงงาน ได้รับการรับรองทักษะและความสามารถ ทั้งจาก สคช. และ JMAM ต่อไป

  • สคช. ยกระดับท่องเที่ยวชุมชน กระตุ้นเศรษฐกิจปลายด้ามขวาน

    03.02.2565
    6,340 View

    สคช. ยกระดับท่องเที่ยวชุมชน กระตุ้นเศรษฐกิจปลายด้ามขวาน นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ นำทีมนวัตกรรมคุณวุฒิวิชาชีพ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. พร้อมด้วยสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ธนาคารออมสิน สมาคมภาษาเพื่อการศึกษาอาชีพและธุรกิจนำเที่ยว บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม หรือ บสย. ร่วมเสวนาในหัวข้อ "New Trend Tourism เติมทุนพร้อมรับนักท่องเที่ยวหลังโควิด" นางสาววรชนาธิป กล่าวถึงการทำงานของ สคช. ว่า ที่ผ่านมาได้ดำเนินการยกระดับผู้ประกอบอาชีพ ด้วยกลไกของระบบคุณวุฒิวิชาชีพ อย่างชัดเจน ทั้งเรื่องของอาหารฮาลาล ช่างเสริมสวย ด้วยการบูรณาการหน่วยงานภาครัฐและเอกชนนำต้นทุนในพื้นที่มาจัดการให้เกิดประโยชน์ร่วมกัน สร้างรายได้ สร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน สอดคล้องกับแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติประเด็นการท่องเที่ยว (พ.ศ.2561-2580) ความอุดมสมบูรณ์ในทรัพยากร และวัฒนธรรมที่หลากหลาย ซึ่งถือเป็นเครื่องมือที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต ลดความเหลื่อมล้ำได้ ทั้งนี้ สคช. ยังพร้อมเติมเต็มทักษะที่จำเป็นสำหรับกลุ่มอาชีพปลายด้ามขวาน ด้วยการพัฒนาให้ได้รับมาตรฐานเพื่อเป็นแต้มต่อในอาชีพ สร้างรายได้ยั่งยืน นายกิตติ พรศิวะกิจ ประธานอนุกรรมการ Smart Tourism สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เสริมแนวคิดว่า การนำนวัตกรรมมาเป็นเครื่องมือช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน เป็นการติดปีกให้ผู้ประกอบการในพื้นที่ทะยานได้เร็วขึ้น ใช้เทคโนโลยีที่เพิ่มศักยภาพทั้งทางการตลาดและการสร้างรายได้ ไม่ว่าจะเป็นเทรนด์ Metaverse หรือการนำเทคโนโลยี AR/VR มาประยุกต์ในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในท้องถิ่น อาจารย์เพชรดา ศรชัยไพศาล สมาคมภาษาเพื่อการศึกษาอาชีพและธุรกิจนำเที่ยว กล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับสมรรถนะด้านการจัดการท่องเที่ยวชุมชนว่า นับเป็นฐานรากที่สำคัญในการพัฒนาผู้ประกอบการด้านท่องเที่ยวในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะเป็นการสร้างมาตรฐาน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว ที่แม้จะมีภาพในเรื่องของความไม่สงบ แต่เมื่อนักท่องเที่ยวได้มาสัมผัสกับการบริการที่มีมาตรฐานจริงๆ ก็จะสามารถลบภาพจำที่รุนแรงได้ นายจักรภพ เมธธาวีชัย ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายส่งเสริมลูกค้าและพัฒนาผู้ประกอบการ บสย. ให้มุมมองว่า ต้นทุนทางการเงินในแต่ละอาชีพที่เกี่ยวเนื่องกับท่องเที่ยวชุมชน ไม่เหมือนกัน อาชีพผู้ประกอบการโฮมสเตย์ และอาชีพผลิตของที่ระลึกอาจจะต้องมีความจำเป็นใช้เงินทุนมาก แต่อาชีพนักเล่าเรื่องท้องถิ่นอาจมีเพียงแค่ต้นทุนทางธรรมชาติและวัฒนธรรม ทั้งนี้ สิ่งสำคัญสำหรับผู้ประกอบอาชีพคือต้องมีการจัดทำบัญชีครัวเรือนเพื่อเตรียมพร้อมในการต่อยอดเติมทุน นางสาวจารุภัส วจนานวัช รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารการตลาดลูกค้ารายย่อย ธนาคารออมสิน พูดถึงโครงการสร้างงาน สร้างอาชีพว่า โครงการเน้นช่วยเหลือผู้ประกอบอาชีพ โดยเฉพาะผู้ที่ได้รับประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพและวุฒิบัติการอบรม สามารถใช้เป็นเอกสารประกอบการขอสินเชื่อได้

  • สคช. ผนึกกำลังภาคีติดปีกเยาวชน สร้างความพร้อมก่อนเข้าสู่ตลาดแรงงาน

    31.01.2565
    6,037 View

    สคช. ผนึกกำลังภาคีติดปีกเยาวชน สร้างความพร้อมก่อนเข้าสู่ตลาดแรงงาน

  • สคช. พร้อมร่วมสร้างมืออาชีพเมืองเบตง รองรับเศรษฐกิจหมื่นล้าน

    31.01.2565
    953 View

    สคช. พร้อมร่วมสร้างมืออาชีพเมืองเบตง รองรับเศรษฐกิจหมื่นล้าน

  • สคช.- กรมพัฒฯ จับมือสร้างระบบพัฒนากำลังแรงงานของประเทศด้วยระบบคุณวุฒิวิชาชีพเทียบเท่าคุณวุฒิการศึกษา หนุนแรงงานถือคุณวุฒิวิชาชีพเข้า ซาอุฯ หลังเปิดรับแรงงานไทย

    28.01.2565
    4,359 View

    สคช.- กรมพัฒฯ จับมือสร้างระบบพัฒนากำลังแรงงานของประเทศด้วยระบบคุณวุฒิวิชาชีพเทียบเท่าคุณวุฒิการศึกษา หนุนแรงงานถือคุณวุฒิวิชาชีพเข้า ซาอุฯ หลังเปิดรับแรงงานไทย

  • ผอ.สคช. เข้ารับพระราชทานปฏิทินหลวง พุทธศักราช ๒๕๖๕

    27.01.2565
    3,548 View

    ผอ.สคช. เข้ารับพระราชทานปฏิทินหลวง พุทธศักราช ๒๕๖๕

  • ผู้ประกอบการกลุ่มเครื่องประดับอัญมณี พบ สคช. หารือมาตรฐานอาชีพ เพื่อพัฒนาอาชีพช่างทอง

    26.01.2565
    983 View

    ผู้ประกอบการกลุ่มเครื่องประดับอัญมณี พบ สคช. หารือมาตรฐานอาชีพ เพื่อพัฒนาอาชีพช่างทอง

  • องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย พบ สคช.เตรียมสร้างความร่วมมือพัฒนาเยาวชนและสร้างมาตรฐานผู้ที่ทำงานกับเยาวชน

    20.01.2565
    1,023 View

    องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย พบ สคช.เตรียมสร้างความร่วมมือพัฒนาเยาวชนและสร้างมาตรฐานผู้ที่ทำงานกับเยาวชน

  • สคช. พบ องค์กรรับรองฯ ทั่วประเทศ ร่วมผลักดันให้เกิดการใช้ประโยชน์ จากประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ

    20.01.2565
    4,192 View

    สคช. พบ องค์กรรับรองฯ ทั่วประเทศ ร่วมผลักดันให้เกิดการใช้ประโยชน์ จากประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ